โตโยต้าออกมายืนยันแผนการลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเม็กซิโก ถึงแม้โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐข่มขู่ว่าจะขึ้น “ภาษีชายแดน” ครั้งใหญ่สำหรับรถที่ผลิตในเม็กซิโกและนำเข้ามายังสหรัฐ
การข่มขู่ของทรัมป์ผ่านทางทวิตเตอร์ทำให้ราคาหุ้นของโตโยต้าปรับลดลง 3% ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นของนิสสันและฮอนด้าก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากความไม่แน่นอนในนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” ของทรัมป์และการค้าระหว่างแปซิฟิก
ค่ายรถยักษ์ใหญ่อเมริกันไม่ได้ตอบโต้คำทวีตของทรัมป์โดยตรง แต่ระบุว่าพวกเขาลงทุนโดยตรงในสหรัฐไปแล้วมากกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ มีโรงงานผลิต 10 แห่ง มีผู้จัดจำหน่าย 1,500 แห่ง และมีพนักงานถึง 136,000 คน
“โตโยต้าเฝ้ารอที่จะได้ทำงานร่วมกับทีมบริหารของรัฐบาลใหม่เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคและอุตสาหกรรมยานยนต์” โตโยต้าระบุในแถลงการณ์
ด้านฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นกล่าวว่า โตโยต้าช่วยส่งเสริมการสร้างงานในอเมริกา ซึ่งควรจะได้รับการยอมรับ ถึงแม้กรณีนี้จะเกิดขึ้นกับบริษัทเอกชน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็พร้อมช่วยเหลือ
ขณะที่โยชิฮิเดะ ซูกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นระบุว่า บริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ และพลเมืององค์กรที่ดีเสมอมา
โตโยต้าเป็นหนึ่งบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่ต้องการไขว่คว้าโอกาสในการลงทุนจากต้นทุนแรงงานที่ต่ำของเม็กซิโก และการเติบโตของตลาดอเมริกาเหนือ ด้านนิสสันและฮอนด้าต่างก็มีโรงงานผลิตในแดนจังโก้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ฟอร์ด มอเตอร์เพิ่งประกาศยกเลิกแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตซานหลุยส์ โพตอสในเม็กซิโกมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากทรัมป์เรียกร้องและกดดันให้ฟอร์ดหันมาสร้างตำแหน่งงานในสหรัฐแทน นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่เจนเนอรัล มอเตอร์สด้วยว่าจะขึ้นกำแพงภาษีนำเข้ารถเชฟโรเลต ครูซเป็น 35% เลยทีเดียว
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น