ทดสอบการขับขี่ครั้งแรกกับ รถยนต์อเนกประสงค์สุดหรูรุ่นลิมิทเต็ดอย่าง ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลตตินัม อิดิชั่น (Porsche Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition) ที่มาพร้อมออพชั่นหรูหราเพิ่มเติม
ถือเป็นทริปสุดพิเศษกับการทดสอบยนตกรรมหรูในฝันใครหลายๆ คนกับ ปอร์เช่ คาเยนน์ กับรุ่น ลิมิทเต็ด อิดิชั่น ใหม่ที่ได้ตติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมความแตกต่าง รวมไปถึงความหรูหราขึ้นไปอีกระดับ
เส้นทางการทดสอบเริ่มต้นที่ Porsche Centre Bangkok (ดอนเมือง) - Impact Speed Park (เมืองทองธานี) กับระยะเส้นทางที่สามารถจับสมรรถนะการขับขี่ทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ความสะดวกสบายในการขับขี่ได้
ภายนอกหรูหราสง่างาม แตกต่างด้วยการตกแต่งสุดพิเศษเฉพาะรุ่น Platinum Editionเช่นเคยภายนอกยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นสไตล์ปอร์เช่ ทั้งในส่วงของรูปลักษณ์ เส้นสายรถยนต์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างชุดโคมไฟหน้าที่มาพร้อม ไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์แบบ 4 จุดภายในโคม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถปอร์เช่ในยุคใหม่ๆ
ด้วยการเพิ่มเติมทั้งชุดล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้วลาย RS Spyder กับซุ้มล้อที่ถูกขยายความกว้างมากกว่ารุ่นปรกติ ทำให้ตัวรถดูมีความบึกบึน สปอร์ตหรู สวยงามและแตกต่างกว่ารุ่นปรกติ ชุดกันชนท้ายตัดดำพร้อมท่อคู่ ออกซ้าย-ขวา
และชุดโคมไฟท้ายที่มาพร้อมไฟเบรกแบบ LED 4 จุด คั้นกลางด้วยเส้นไฟท้ายแบบ Light Guide ออกแบบสอดรับกับชุดโคมไฟหน้า เช่นเดียวกันกับรถปอร์เช่ในยุุคหลังๆ สคลับเพลทชื่อรุ่น Cayenn ด้านท้ายตกแต่งด้วยเส้นสายสีเขียวสะท้อนแสงแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างล้ำสมัย และเอกลักษณ์ของความเป็นไฮบริด
ภายในหรูหราโดดเด่นตั้งแต่เปิดประตู จะพบถึงแผงแดชบอร์ด ตามเอกลักษณ์ของ ปอร์เช่ รวมไปถึงชุดพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นและการดีไซน์รุ่นใหม่ แผงหน้าปัดมาตรวัดต่างๆ มาด้วยกันถึง 5 จอ โดดเด่นและแตกต่างจากรถไฮบริดทั่วไปด้วย เข็มแสดงจำนวนพลังงานไฟฟ้าที่เหลือ แทนการใช้กราฟฟิกดิจิตอลแบบรถไฮบริดอื่นๆ
รวมไปถึงเพิ่มเติมอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ทั้งชุดเบาะนั่งหนังแท้แบบสปอร์ต ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง บริเวณกึ่งกลางเบาะตกแต่งด้วยวัสดุ อาคันทาร่า และประดับสัญลักษณ์ปอร์เช่ที่พนักพิงศรีษะทุกตำแหน่งที่นั่ง ตอกย้ำความหรูหราและความสวยงาม
ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แบลตตินัม อิดิชั่น มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร ที่ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า พระกำลังแรงม้ารวมได้สูงถึง 416 แรงม้า
แม้จะเป็นรถขนาดใหญ่ แต่การทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 วินาที เท่านั้น ในส่วนอัตราการบริโภคน้ำมัน ด้วยทริปการทดสอบเป็นเส้นทางการทดสอบแบบสั้นๆ เท่านั้น จึงไม่ได้ทดสอบในส่วนนี้ แต่ทางปอร์เช่เคลมเอาไว้ที่ 29.4-30.3 กิโลเมตรต่อลิตรเลยทีเดียว
สมรรถนะช่วงล่างที่สามารถปรับได้ทั้งแบบ คอมฟอร์ท / สปอร์ต / สปอร์ตพลัส ต้องบอกเลยว่าการเซ็ตช่วงล่างโดยรวมแม้จะขับขี่ด้วยโหมด คอมฟอร์ท การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเปลี่ยนเลนกระทันหัน ตัวรถไม่แสดงอาการย้วยให้เห็น
อาจจะด้วยการเซ็ตที่เน้นความกระชับ และความสนุกสนานในการขับขี่ ซึ่งเมื่อปรับเปลี่ยนเป็นโหมด สปอร์ต หรือจะ สปอร์ตพลัส ก็ไม่ถึงกับแข็งกระด้างจนนั่งไม่สบายแต่อย่างใด ความแตกต่างของทั้ง 3 โหมด นี้ตามความรู้สึกจะแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยรวมถือว่าเป็นระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม
จะมีเพียงระบบเบรกเท่านั้นที่จาการทดสอบพบถึงรอยต่อระหว่างการทำงานของเบรกไฟฟ้า ซึ่งจากการทดสอบแม้ระยะการเหยียบแป้นเบรกเท่าเดิมตลอดเวลา
แต่ยังมีบางช่วงที่การเบรกยังไม่สมูทเท่าที่ควรตามสไตล์ที่พบเห็นได้ในรถยนต์ประเภทไฮบริดในหลายๆ รุ่น ซึ่งอันนี้หากใช้งานเป็นประจำจะคุ้นชินก็น่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด แต่จากผมทดสอบที่ได้ลองขับเพียงไม่นานก็ทำเอาใจหายเหมือนกันเวลาเบรก
โดยรวมถือเป็นยนตกรรมอเนกประสงค์รุ่นพิเศษจาก ปอร์เช่ ที่มีดีรอบด้านไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่สามารถทำอัตราเร่งได้น้องๆ ซูเปอร์คาร์ เลยทีเดียว สมรรถนะช่วงล่างที่กระชับ ขับสนุกมั่นใจทุกการขับขี่ แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสะดวกสบายการเก็บแรงสั่นสะเทือนที่ยอดเยี่ยม
ความประหยัดน้ำมันขั้นสุด และแน่นอนความหรูหรา และความเท่ที่โดดเด่นแน่นอนเมื่อขับบนท้องถนน เพราะปอร์เช่เป็นแบรนด์ที่ใครๆ ก็อยากได้มาครอบครอง
สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสคันจริงๆ ก็ไปสัมผัสกันได้ภายใน บูธ ปอร์เช่ งาน มอเตอร์โชว์ 2017 ในวันที่ 29 มีนาคม - 9 เมษายน นี้ ที่เมืองทองธานี (ในงานนี้มีการเปิดตัว ปอร์เช่ รุ่นใหม่อีกด้วยอย่าลืมตามไปชมกันเยอะๆ)
ขอขอบคุณ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด สำหรับทริปการทดสอบ ปอร์เช่ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด แพลตตินัม อิดิชั่น สุดพิเศษทริปนี้ด้วยครับ
ทดสอบและเขียนรีวิวโดย Peerapat.H
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น