ทดลองการขับขี่ เอ็มจี5 กับรถยนต์ บีเซกเมนต์ ที่ขนาดตัวถังใหญ่กว่าใครเพื่อน พร้อมมากับขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร และ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ที่ต้องบอกเลยว่าราคาไม่ถึง 8 แสนบาท
ด้วยความที่เป็นรถยนต์ระดับ บีเซกเมนต์ แต่ขนาดรถยนต์ค่อนข้างจะล้ำไปเกือบ ซีเซกเมนต์ พร้อมทั้งยังมีตัวเลือกที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ อีกทั้งราคาก็น่ารัก จึงไม่แปลกที่จะตกเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจอีกรุ่นอย่างไม่ยากเลยทีเดียว
ภายนอกสปอร์ต สวยงาม แปลกตา โดดเด่นบนท้องถนน
ในส่วนของการออกแบบภายนอกรถยนต์ เอ็มจี5 มาพร้อมการออกแบบที่เน้นความสปอร์ต สวยงาม ลงตัวตาม เซกเมนต์ของรถที่ควรจะเป็น
ด้วยแนวคิดตามแบบฉบับ Brit Dynamic ที่ใช้ในรถยนต์ เอ็มจี ทุกรุ่น ซึ่งเป็นการประกอบกันของคุณลักษณะที่สำคัญ 4 ประการ อันประกอบไปด้วย สมรรถนะ, การควบคุมรถ, การออกแบบและความปลอดภัย สู่การเป็นเป็นรถยนต์ที่มีความน่าสนใจ
เส้นสายตัวถังที่ชัดเจน เส้นสายบริเวณฝากระโปรงรูปตัว V อันเป็นเอกลักษณ์ของ เอ็มจี5 ที่ช่วยขับให้ตัวถังมีความแข็งแกร่ง บึกบึน รวมไปถึงการออกแบบชุดโคมไฟท้ายลากยาวต่อกัน ทำให้ดูโดดเด่นแปลกตาไปอีกแบบ
ภายในเรียบหรู แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน
มาในส่วนการออกแบบภายใน เอ็มจี5 ถือว่าค่อนข้างลงตัวเข้ากันกับรูปลักษณ์ภายนอก โดยเอกลักษณ์การออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย แต่การใช้งานครบครัน
ภายในห้องโดยสารออกแบบมาอย่างดีกว้างขวางเกือบเท่า ซีเซกเมนต์ แผงคอนโซลออกแบบสวยงามสไตล์สปอร์ต ปุ่มการใช้งานฟังก์ชั่นต่าง ๆ ใช้งานได้ไม่ยากเย็นนักอีกทั้งยังมาพร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น
พวงมาลัยแบบ มัลติฟังก์ชั่น ที่สามารถใช้งานควบคุมได้อย่างไหลลื่น เช่นเดียวกับจอทัชสกีนขนาด 7 นิ้วพร้อมระบบนำทาง บริเวณกลางคอนโซลซึ่งต้องขอชมเชยเลยทีเดียวว่า เป็นจอที่ค่อนข้างลื่น พร้อมแสดงผลได้แบบเนียนตาดีเลยทีเดียว
เบาะนั่งให้ความโอบรัดกำลังดี ทั้งเบาะนั่งคู่หน้า และสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ความกว้างขวาง ที่ต้องบอกเลยว่า การโดยสารตอนหลังค่อนข้างกว้างทีเดียว การเข้าออกลุก-นั่งสบาย ซึ่งน่าจะกว้างกว่า บีเซกเมนต์ หลาย ๆ รุ่นในตลาด
สมรรถนะเครื่องยนต์ 1.5 ถือว่าพอตัว แต่ใครอยากจี๊ดแนะนำ 1.5 เทอร์โบ
เอ็มจี5 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร และแบบ 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ 129 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 210 นิวตันเมตร
โดยการทดสอบได้ทดลองขับทั้งรุ่น 1.5 ลิตร ธรรมดา และ รุ่น 1.5 ลิตร เทอร์โบ สำหรับ เอ็มจี5 ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ธรรมดา อัตราการเร่งในช่วงต้นอาจจะมาไม่ทันใจในบางจังหวะ แต่เมื่อความเร็วอยู่ในช่วง 60 ขึ้นไปแล้วอัตราเร่งค่อนข้างไหลอย่างรู้สึกได้
แต่หากใครต้องการสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจมากยิ่งขึ้น ผมต้องแนะนำตัว 1.5 ลิตร เทอร์โบ ด้วยการทำงานของระบบเทอร์โบที่ช่วยให้รถขับสนุกมากยิ่งขึ้น การเร่งแซง การทำอัตราเร่งมั่นใจได้มากขึ้น
ซึ่งตอบโจทย์ผู้ขับขี่ที่เป็นวัยรุ่น หรือกลุ่มคนที่ต้องการรถยนต์สมรรถนะจี๊ดๆ สักคันในราคาไม่ถึง 8 แสนบาท อย่างแน่นอน แต่สำหรับรุ่น 1.5 ลิตร ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นเทอร์โบเท่าไรนัก
แต่น่าจะเหมาะกับผู้ทีต้องการขับขี่รถยนต์แบบปรกติ ไม่เน้นอัตราเร่ง หรือสมรรถนะแบบจี๊ดจ๊าดเท่าไรนัก หากถามว่าเพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่สำหรับรุ่น 1.5 ลิตร ก็ต้องตอบตามตรงว่าพอ แต่จะไม่เร้าใจเท่ารุ่น เทอร์โบเพียงเท่านั้นเอง ทั้งนี้เอ็มจี5 ทั้ง 2 รุ่น ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป
ที่จัดมาให้อย่างเต็มพิกัด 9 ระบบ อาทิ ABS, EBD, EBA, SCS, MSR, CBC, TCS, HAS และ ITPMS รวมทั้งระบบช่วงล่างของทั้ง 2 รุ่น เป็นแบบ EUROPEAN TUNING SUSPENSION ด้านหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังทอร์ชันบีม พร้อมคานขวางแบบ ยู-เชฟ และยังมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อพร้อมระบบ LDC
โดยรวมถือเป็น บีเซกเมนต์ ที่ดีทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความกว้างขวาง และราคาที่จับต้องง่ายมากขึ้น ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน รถยนต์ในตลาดประเทศไทยถือว่ามีการทำตลาดในรุ่นเครื่องยนต์ เทอร์โบ มากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่ม ซีเซกเมนต์ ซึ่ง เอ็มจี5 ที่เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ กึ่งกลางระหว่าง บีเซกเมนต์ (โตโยต้า วีออส, ฮอนด้า ซิตี้) และซีเซกเมนต์ (โตโยต้า โคโรล่า อัลติส, ฮอนด้า ซีวิค)
ที่มาพร้อมความคุ้มค่า คุ้มราคาสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ขนาดประมาณ บีเซกเมนต์+ สักคัน ที่มีตัวเลือกให้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ธรรมดา และ 1.5 ลิตร เทอร์โบ
ที่มีดีทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ สมรรถนะช่วงล่างที่เป็นจุดเด่นของค่ายนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือความกว้างขวางของห้องโดยสารในรถยนต์ โดยเฉพาะเบาะนั่งแถวหลัง ที่ค่อนข้างกว้างกว่ารถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกันค่อนข้างมาก
การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่ค่อนข้างโดดเด่น เตะตา บนท้องถนน ระบบอำนวยความสะดวกภายในที่มีมาให้ค่อนข้างครบครัน และที่เด็ดที่สุดคคือ ราคากับ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ตัวท็อปสุด จะมีราคาอยู่ที่ 7.59 แสนบาท เท่านั้นเอง
ก็ถือว่าคุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่เสียไปแน่นอน กับออพชั่นและสิ่งที่ได้รับจาก เอ็มจี5 แต่หากใครที่ไม่ต้องการสมรรถนะเครื่องยนต์ที่จี๊ดจ๊าด แต่ก็มีเรี่ยวแรงให้ใช้เหลือๆ รุ่น 1.5 ลิตร ธรรมดา ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ กับราคาค่าตัวเริ่มต้นเพียง 6.49 แสนบาท เท่านั้น
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น