อากิโอะ โตโยดะ: “ผมขับรถแข่งเพื่อพิทักษ์โตโยต้า และเลกซัส”

อากิโอะ โตโยดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโตโยต้าคือหลานของผู้ก่อตั้งแบรนด์รถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลก และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ

โตโยดะเริ่มหันมาขับรถสมรรถนะสูงและรถแข่งเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนหรือ 2 ปีก่อนรับตำแหน่งซีอีโอของโตโยต้า ถึงแม้ครอบครัวของเขาและผู้บริหารคนอื่นๆ จะไม่มีใครสนับสนุนเลยเพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่โตโยดะก็ยังคงทำตามความต้องการต่อไปจนได้ชื่อว่าเป็น “มาสเตอร์ ไดรฟเวอร์” เขาต้องการสั่งสมทักษะการขับรถแข่ง ไม่ใช่การขับรถธรรมดา นั่นทำให้เขาไม่เหมือนประธานของโตโยต้าคนอื่นใดที่ผ่านมาในอดีต

“ทุกคนเรียกผมว่าเป็นประธานนักแข่ง บางคนก็บอกว่าผมเป็นมาสเตอร์ไดรฟเวอร์ (ตำแหน่งนักขับสูงสุดของแบรนด์โตโยต้า)” โตโยดะวัย 61 ปีกล่าว “ซึ่งชื่อทั้งหมดจะเรียกว่าถูกก็ได้ แต่ผมคิดว่าผมทำเช่นนี้เพราะต้องการพิทักษ์รถยนต์โตโยต้าและเลกซัสให้มีความเป็นรถโตโยต้าและเลกซัสที่แท้จริง”

เส้นทางจากห้องประชุมสู่การสวมชุดแข่งของโตโยดะเกิดขึ้นจากการ “กระตุ้น” ของฮิโรมุ นารุเสะ มาสเตอร์ไดรฟเวอร์คนแรกของโตโยต้า บวกกับความชื่นชอบในการชอบขับรถของโตโยดะซึ่งสั่งสมกลายเป็นความหลงใหลตั้งแต่เด็ก โตโยดะเผยว่าเขาเคยถูกนารุเสะดูแคลน

ฮิโรมุ นารุเสะ (ขวา)

“นารุเสะเคยบอกผมว่า คนอย่างผมไม่รู้เรื่องการขับรถหรอก” โตโยดะเล่าให้ฟังว่าเขาถูกนารุเสะดูถูกไว้อย่างนั้น “นารุเสะไม่ต้องการให้ผมไปสั่งเขาว่าต้องทำนู่นทำนี่ เพราะผมไม่รู้แม้กระทั่งการขับรถที่แท้จริง”

ก่อนที่นารุเสะจะยื่นข้อเสนอให้โตโยดะเรียนวิธีการขับรถจากเขา นั่นจึงเป็นที่มาของการเริ่มเรียนรู้วิธีการขับรถที่แท้จริงของโตโยดะ

“ตอนแรก สิ่งที่ผมทำก็คือการขับตามหลังนารุเสะ” โตโยดะเล่าความหลังการเรียนขับรถแข่งซึ่งมีบรรยากาศเหมือนเรียนกับ “นารุเสะ เซนเซ” ผู้เป็นอาจารย์ที่เข้มงวดอย่างมาก “เมื่อไฟเบรกติดขึ้น ผมก็ต้องเบรก เมื่อระยะห่างเพิ่มขึ้น ผมก็ต้องเร่งตาม นั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำ”

ทั้งคู่ตระเวนขับรถไปในเกือบทุกสนามแข่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางสู่สนามที่ว่ากันว่าโหดที่สุดในโลกอย่างเนอร์เบิร์กริงในเยอรมนี ซึ่งมีฉายาว่า “นรกสีเขียว” เนื่องจากมีโค้งมากมาย ไหล่ทางแคบ เนินยก และทางลาดลง ซึ่งถ้าเผลอแม้เสี้ยววินาทีก็อาจพลาดท่า

“สนามนี้อันตรายมากๆ แทบจะไม่มีไหล่ทาง ถ้ารถของคุณเสียหลักแล้วหมุนออกไปแรงๆ ก็อาจเสียชีวิตได้เลย” โตโยดะเผย

การฝึกฝนดำเนินต่อไปกระทั่งถึงวันหนึ่ง นารุเสะบอกกับโตโยดะว่าถึงเวลาที่จะต้องลงแข่งแล้ว โตโยดะจำได้ว่าเขาตกใจมาก ไม่รู้ว่านารุเสะพูดถึงการแข่งอะไร กระทั่งได้รับคำตอบว่าเขาควรลงแข่งเอ็นดูแรนซ์ 24 ชั่วโมงในสนามแห่งนี้ ถึงแม้เขาจะยังขับไม่ครบรอบด้วยเวลาที่น่าพึงพอใจด้วยซ้ำไป

โตโยดะซึ่งใช้ชื่อในวงการมอเตอร์สปอร์ตว่า "โมริโซะ" ประเดิมการแข่งขันสนามแรกที่ทวิน ริง โมเตกิกับรถโตโยต้า ยาริส มือสองด้วยเป้าหมายเดียวคือขับให้จบการแข่งขัน ส่วนสนามที่สองที่โอคายาม่า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งเขาจำได้ว่ามีรถแข่งคันอื่นล้อมหน้าล้อมหลังจนเขารู้สึกเหมือนอยู่ในน้ำวน เขาถูกแซงคันแล้วคันเล่า โดยแซงกลับได้ไม่กี่คันเท่านั้น แต่เขาก็จบที่สามในคลาสเดียวกัน

และแล้วโตโยดะก็ตัดสินใจว่าเขาจะพิสูจน์ฝีมือตนเองในสนามเนอร์เบิร์กริงด้วยการลงแข่งขันเอ็นดูแรนซ์ 24 ชั่วโมงในปี 2007 นั่นทำให้เขาและรถแข่งเลกซัส ไอเอสได้สัมผัสว่าเนอร์เบิร์กริงคือนรกบนดินอย่างแท้จริง เทียบไม่ได้กับการแข่งขันในญี่ปุ่นแม้แต่น้อย

“มันดุเดือดกว่ามาก ผมไม่สามารถขับไปตามจังหวะของตนเองได้เลยเพราะมันเร็วจนรู้สึกกลัวอย่างมาก ผมไม่อยากถูกชนหรือเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงลืมไปได้เลยถ้าคิดจะแซงรถคันอื่น” โตโยดะเผย

แต่เขาก็จบการแข่งขันได้ ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้เขาตื่นเต้นสุดขีดจนต้องกลับมาเยือนสนามแห่งนี้อีกหลายครั้งในฐานะสมาชิกทีมแข่ง กระทั่งขึ้นเป็นซีอีโอของโตโยต้าในปี 2009 โตโยดะเริ่มปลีกตัวออกจากสนามแข่งขันเนื่องจากความวิตกด้านความปลอดภัย

แต่เขาก็ไม่ออกห่างจากมอเตอร์สปอร์ตเสียทีเดียว เขายังขับควอลิฟายจับเวลาในสนามเนอร์เบิร์กริง และยังแข่งขันแรลลี่ 4 เรซต่อปีในรถโตโยต้า 86

“หลายคนในบริษัทฯ ต่อต้านการกระทำของผม พวกเขาคิดว่ามันอันตราย ถึงแม้ผมจะควบคุมรถได้แต่ก็อาจมีรถคันอื่นมาชนอยู่ดี ขณะที่การแข่งขันแรลลี่ก็อันตรายแต่อย่างน้อยผมก็ขับออกไปคันเดียว ผมสามารถรักษาจังหวะได้เอง” โตโยดะกล่าว

ในปี 2010 เกิดข่าวร้ายครั้งสำคัญ เมื่อนารุเสะประสบอุบัติเหตุรถชนนอกสนามเนอร์เบิร์กริง เขาเสียชีวิตในรถเลกซัส แอลเอฟเอขณะมีอายุ 67 ปี นารุเสะได้รับฉายาว่าเป็น “เจ้าพ่อสนามเนอร์เบิร์กริง” ของญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นคนญี่ปุ่นที่ได้ขับในสนามแห่งนี้มากที่สุดก็ว่าได้ นั่นทำให้โตโยดะขึ้นเป็น “มาสเตอร์ ไดรฟเวอร์” ต่อจากนารุเสะ

“พวกเขาเป็นนักขับมืออาชีพ แน่นอนว่าทักษะการขับย่อมเหนือกว่าผม แต่ผมรู้วิธีการค้นหาแนวทางการขับที่รถโตโยต้าและเลกซัสควรจะเป็น ไม่มีผู้บริหารคนใดในบริษัทที่ทำได้เช่นนี้” โตโยดะกล่าว

แต่ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ซีอีโอของโตโยต้ายอมรับว่าเขาจำเป็นต้องมีผู้สืบทอดตำแหน่งมาสเตอร์ ไดรฟเวอร์นี้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ หัวเรือใหญ่ของโตโยต้ายอมรับด้วยว่า เขาไม่อาจบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ว่ารถยนต์ของแบรนด์โตโยต้าและเลกซัสควรจะให้ความรู้สึกในการขับขี่แบบใด

“มันไม่มีตำราที่เขียนไว้อย่างเป็นทางการ มันแค่เป็นความรู้สึกของผม รถเลกซัสควรจะเป็นรถที่ทำให้คุณรู้สึกอยากจะขับคันนี้ตลอดไป ขณะที่โตโยต้าควรจะต้องดึงดูดผู้คนกลุ่มใหญ่โดยไม่สูญเสียตัวตน” ซีอีโอโตโยต้าเปิดเผย

หนึ่งในนโยบายสำคัญของโตโยดะคือการผลักดันสมรรถนะการขับขี่ของรถทุกรุ่นให้มีความตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า พริอุส ไฮบริดไปจนถึงโตโยต้า คัมรี่ ซีดาน

“ผมเป็นเหมือนผู้พิทักษ์หรือผู้กลั่นกรองรสชาติของรถโตโยต้า และเลกซัส ถ้าผมไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้อย่างแม่นยำหรือถูกต้อง ผมก็จะสละตำแหน่งมาสเตอร์ไดรฟเวอร์นี้” โตโยต้ากล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่