เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติได้รับการยกย่องว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุได้ ขณะเดียวกัน อาจถูกใช้สำหรับการต่อสู้กับอาชญากรรมในอนาคตได้ด้วยตามความเห็นของซีอีโออินเทล
ไบรอัน คาซานิค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล กล่าวว่า กล้องออนบอร์ดที่ติดตั้งอยู่ในรถขับขี่อัตโนมัติอาจทำหน้าที่เป็นกล้องวงจรปิดจับภาพความเคลื่อนไหวรอบคันได้ ไม่เพียงช่วยประเมินว่าใครเป็นฝ่ายผิดเมื่อเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่ยังอาจช่วยคลี่คลายคดีอาชญากรรม อย่างการฆาตกรรมหรือปล้นจี้ได้
“ผมเน้นย้ำเสมอว่าตัวรถจะสามารถจับภาพและวีดีโอรอบคันได้ตลอดเวลาเมื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุไม่สู้ดีขึ้นอย่างอุบัติเหตุ กล้องก็จะจับภาพป้ายทะเบียนรถอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ยังอาจจับภาพเหตุการณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย” ซีอีโออินเทลกล่าว
อย่างไรก็ตาม การยกระดับประโยชน์ใช้งานของกล้องในรถขับขี่อัตโนมัติอาจต้องมีการปรับแต่งโปรแกรมเป็นพิเศษ ขณะเดียวกัน ต้องมีข้อกฎหมายที่เอื้อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจสอบภาพหรือวีดีโอจากกล้องในรถยนต์ได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของรถในอนาคต
“เราจะต้องมีข้อจำกัดในการใช้งาน เราจะต้องเขียนข้อมูลที่ไม่สามารถบอกได้ว่าภาพหรือวีดีโอดังกล่าวมาจากกล้องในรถของผู้ใด” คาซานิคกล่าว พร้อมกับชี้ว่าประโยชน์ที่ได้จากการคลี่คลายคดีต่างๆ มีมากกว่าข้อวิตกด้านความเป็นส่วนตัว
ทั้งนี้ อินเทลไม่ได้พัฒนารถขับขี่อัตโนมัติทั้งคัน แต่เป็นผู้ “ซัพพลาย” ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของเทคโนโลยีนี้ให้แก่ผู้พัฒนาหลายรายทั่วโลก
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น