แบรนด์รถยนต์แต่ละแบรนด์ย่อมมีเมืองหลวงของตัวเองอยู่แล้วทั้งสิ้น และแน่นอนว่าหากพูดถึงวอลโว่ แบรนด์รถยนต์ที่ขึ้นชื่อด้านความปลอดภัยที่โดดเด่น จะเป็นเมืองไหนไปไม่ได้นอกจากเมืองโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ที่เป็นศูนย์กลางทุก ๆ ด้านของแบรนด์นี้
นอกเหนือไปจากการเป็นสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่มาอย่างยาวนานแล้ว โกเทนเบิร์กยังเป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัย ศูนย์ออกแบบ และโรงงานผลิตรถยนต์ของวอลโว่ ที่มีกำลังการผลิตมหาศาลและเป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ของแบรนด์นี้มาโดยตลอด
แม้ว่าในปัจจุบัน วอลโว่จะถูกขายให้กับค่ายรถยนต์ในประเทศจีน แต่ในแง่ของความเป็นแบรนด์แล้ว วอลโว่ยังเป็นตราสินค้าของสวีเดนที่คนทั่วโลกหลงรักอย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งในด้านของการออกแบบสินค้าและฟังชั่นส์ในการใช้งานที่ครบครันในคันเดียว
Autospinn.com ได้รับเชิญจากวอลโว่ ประเทศไทย เพื่อร่วมเดินทางมาทำการทดสอบ 2017 Volvo XC60 รุ่นใหม่ล่าสุดที่ประเทศสเปน แต่ก่อนที่จะถึงเวลาแห่งการทดสอบ เราได้แวะมาที่โกเทนเบิร์ก เพื่อที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์และตัวตนของวอลโว่มากขึ้น
การมาเยือนโกเทนเบิร์กท่ามกลางสายฝนพรำ ๆ ตลอดทั้งวัน เรามีโอกาสได้เดินทางไปที่ Volvo Brand Experience Center เพื่อเรียนรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ก่อตัวมาเป็นแบรนด์วอลโว่ ก่อนไปเดินเล่นที่ Volve Museum และแวะชมสายการผลิตที่โรงงานอีกเล็กน้อย
แน่นอนว่างานใหญ่ของวอลโว่ตอนนี้คือการผลิตผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวไปอย่างวอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ที่มีกำหนดการส่งมอบอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 นี้เป็นต้นไป ส่วนตลาดประเทศไทยก็รอ ๆ กันไปสักช่วงปลายปีน่าจะมีการนำเข้ามาทำตลาด
ดังนั้น จึงไม่แปลกใจอะไรหากรถยนต์ที่จอดดตระหง่านอยู่ที่ฮอลล์ใหญ่ของแผนกต้อนรับจะเป็นเอ็กซ์ซี60 อาร์ดีไซน์คันขาว พร้อมด้วยสินค้าใหม่อีกรุ่นที่ยังไม่เข้าเมืองไทยอย่าง Volvo V90 Cross Country ที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเอาไว้อย่างงดงาม
รายละเอียดก่อนของเอ็กซ์ซี60 นั้น สามารถอ่านกันได้ย้อนหลังจากรายงานที่เรานำเสนอไปก่อนหน้า แต่มาวันนี้ พระเอกไม่ได้อยู่ที่รถคันนี้ แต่อยู่ที่สิ่งที่วอลโว่นำเสนอให้เราได้รับทราบในแต่ละสถานที่ต่างหากที่น่าสนใจและน่าติดตามมากเป็นพิเศษ
วอลโว่นั้นตั้งเป้าหมายตัวเองให้เป็นแบรนด์รถยนต์ที่น่าหลงใหลและแข็งกร้าวที่สุดในโลก โดยมีแนวคิดหลัก ๆ ในการออกแบบรถยนต์ด้วยองค์ประกอบของความปลอดภัย การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการออกแบบที่โดดเด่นเหนือผู้ใด
ในปัจจุบันนี้ วอลโว่มีโรงงานผลิตรถยนต์อยู่ที่ประเทศสวีเดน, เบลเยี่ยม, จีน และมีแผนที่จะเปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ที่สหรัฐอเมริกา ตามแผนการบุกตลาดโลกมากขึ้น รวมไปถึงแผนการพัฒนาร่วมมือกับค่ายชั้นนำทางด้านความปลอดภัย
แบรนด์รถยนต์แห่งนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการที่มีการก่อตั้งทีมงานวิจัยด้านความปลอดภัยของตนเองตั้งแต่ปี 2513 เป็นต้นมา โดยทำการศึกษาด้วยการลงพื้นที่ที่ปรสบอุบัติเหตุจริงประกอบกับการทดลองในแล็บ
หลาย ๆ คนคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าวอลโว่คือผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ทำการคิดค้นเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดขึ้นมาและมีการอนุญาตให้ค่ายรถทุกแห่งนำไปใช้ได้ฟรี มาจนถึงทุกวันนี้ มีการคาดการณ์ว่ามีผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุเพราะเทคโนโลยีนี้มากกว่า 1 ล้านคน
วอลโว่ยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ทำการคิดค้นเบาะที่นั่งของเด็กที่หันไปด้านหลังของตัวรถ ที่ว่ากันว่าเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กถึง 90% รวมถึงเบาะที่นั่งเสริมสำหรับเด็กที่มีการพัฒนาสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 4 ขวบได้ใช้งาน
ค่ายรถยนต์รายนี้เป็นค่ายรถยนต์เพียงรายเดียวที่แชร์ข้อมูลด้านความปลอดภัยให้กับรัฐบาลสวีเดนในการศึกษาด้านความปลอดภัย เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน อันเป็นภารกิจเป้าหมายหลักของวอลโว่ในฐานะผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก
เทคโนโลยีใหม่ของวอลโว่ยังนำมาซึ่งความปลอดภัยที่เราคาดไม่ถึง เช่น เข็มขัดนิรภัยที่โอบแน่นโดยอัตโนมัติเมื่อล้อรถไม่สัมผัสกับถนน ระบบเบาะที่นั่งที่ช่วยลดแรงกระแทกที่กระดูกสันหลัง ถุงลมนิรภัยและระบบแป้นเบรกแบบยุบตัวเพื่อลดแรงกระแทกที่เท้า เป็นต้น
ทีมงานของวอลโว่คุยว่าระบบทั้งหมดนี้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำและรัดกุม เนื่องจากมีการทดสอบมาแล้วมากกว่า 360 ครั้ง ด้วยกล้องถ่ายภาพความเร็วสูงที่สามารถเก็บภาพได้ 1.5 หมื่นภาพต่อนาที เพื่อนำมาคำนวนหาจุดที่ลงตัวที่สุดในการใช้งานจริง
ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัย วอลโว่ยังเร่งเครื่องพัฒนาเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ๆ ออกมาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะเครื่องยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่จะมีการพัฒนาต่อยอดไปเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคต
ในปัจจุบัน วอลโว่ทำการจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด 5 รุ่น และเผื่อใครยังไม่รู้ Volvo XC90 เป็นเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดรุ่นเดียวในโลกนี้ ที่มาพร้อมเบาะผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ที่ปลอดภัยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลา
ต้องขอบคุณทีมงานออกแบบที่ปรับตำแหน่งการวางก้อนแบตเตอรี่มาวางตามแนวยาวของตัวรถ และติดตั้งโมดุลไฟฟ้าที่ด้านหลัง ทำให้สามารถวางตำแหน่งเบาะที่นั่งแถว 3 ด้านบนโมดุลนั้นได้อีกที ถ้าอยากได้รถกึ่งไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ก็คงมีออพชั่นเดียวให้เลือกเท่านั้น
วอลโว่เองก็ไม่ได้หยุดยั้งในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ๆ ที่เรียกว่า CMA และอยู่ระหว่างการพัฒนารถยยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่มีแผนจะเปิดตัวในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่น่าสนใจไม่น้อยในฐานะยานยนต์แห่งโลกอนาคต
ขอยกยอดเรื่องแพลตฟอร์มใหม่และแนวคิดในการออกแบบรถยนต์ขับเคลื่อนได้เองของวอลโว่ไปไว้คราวหน้า จากนั้นก็จะเป็นคิวของการทดลองขับเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดของวอลโว้อย่างเป็นทางการเสียที
ติดตามกันมาได้อย่างต่อเนื่อง มีเรื่องน่าสนใจอีกเพียบ...
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
ความคิดเห็น