เปิดตัวพร้อมคว้ายอดจองมหาศาลเหนือควาดคาดหมาย โตโยต้า ก็ส่งเทียบเชิญ Autospinn ไปร่วมทดสอบอีโคคาร์ซีดานรุ่นแรกของค่ายอย่าง Toyota Yaris Ativ น้องใหม่หัวใจ 1.2 ลิตรที่ได้รับการอัพเกรดในหลายจุด เพื่อให้ได้การขับขี่ที่น่าสนใจขึ้นกว่ารถยนต์อีโคคาร์ที่ผ่านมา
ผู้บริหารของโตโยต้าระบุว่ายาริส เอทีฟ คือรถยนต์รุ่นแรกที่ได้รับการพัฒนาแนวคิดในการออกแบบใหม่ เพื่อให้ได้รถยนต์อีโคคาร์ที่ให้ความรู้สึกในการขับขี่ระดับพรีเมียม โดยมีไฮไลท์ที่การปรับปรุงช่วงล่างให้โดดเด่น และเน้นการเก็บเสียงของห้องโดยสารให้ไม่แพ้รถใหญ่
ด้วยยอดจองกว่า 6,700 คันหลังการเปิดตัวมาเพียงเดือนเศษ ๆ นี่ย่อมไม่ธรรมดาและพอจะบ่งบอกถึงความน่าสนใจของตัวรถที่วางราคาเริ่มตั้วแต่ 4.69 - 6.19 แสนบาท โดยรุ่นที่นำมาทดสอบกันในวันนี้เป็นรุ่นท๊อปทั้งหมด เรียกว่าลองกันในรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดกันเลยทีเดียว
รูปลักษณ์ภายนอกแล้วแต่ความชอบ แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโตโยต้าพยายามที่จะบอกว่ากลุ่มเป้าหมายของรถคันนี้นั้นจะต้องมีอายุที่ไม่มากจนเกินไป เพราะตัวรถออกแบบมาแนวโฉบเฉี่ยว แฝงด้วยความดุดันของลายเส้นและครีบไล่อากาศตามตำแหน่งต่าง ๆ ของรถ
กระจังหน้าเล่นสีของตัวถัวสลับกับสีดำของชุดแต่ง สีใหม่อย่างสีแดงและสีน้ำเงินมีความโดดเด่นบนท้องถนน แต่สีขาวก็ดูเรียบหรูไปอีกแบบ ขณะที่สีอื่น ๆ ดูแล้วธรรมดาไปนิดเมื่อมาอยู่ประกบกับชุดแต่งที่ว่ามา กรอบไฟหน้าสีดำสลับโครเมียมและมีวงแหวนแดงแสดงให้เห็นว่าเป็นรุ่นท๊อป และมีแถบแดงที่กระจกมองข้างสีดำอีกตำแหน่ง
ตัวถังนั้นมีลายเส้นบาง ๆ ฝังอยู่ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของประตูหน้า-หลัง หรือแม้แต่บนหลังคาก็เป็นลูกคลื่นเล็ก ๆ เห็นได้อย่างชัดเจน ด้านท้ายของตัวรถเป็นตำแหน่งที่ดูแปลกตาและไม่ค่อยลงตัวในความรู้สึกของผม ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นความรู้สึกส่วนตัวมันดูเหมือนรถเก่า ๆ หลายรุ่นไปสักนิด
ภายในห้องโดยสารเน้นความสปอร์ตแบบเต็มที่ด้วยแผงคอนโซลกลางสีดำมัน คอนโซลหน้าฝั่งคนโดยสารดูเชยตาด้วยพลาสติกกัดลายเส้นด้ายสีเทาที่ทำให้สงสัยว่าทำไมไม่ทำสีแดงเหมือนกับแผงหุ้มพวงมาลัยและเบาะที่เดินด้ายแดงมาเต็มพิกัด
ระบบกดปุ่มที่มือจับประตูยังติดตั้งมาให้ฝั่งคนขับด้านเดียวเหมือนรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวทุกรุ่น กุญแจรีโมทสามารถเปิดฝากระโปรงท้ายได้ รุ่นท๊อปมาพร้อมปุ่มสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ เบาะที่นั่งลายแดงแบบเลอะ ๆ ดูขัดใจวัยรุ่นตอนท้ายอย่างผมอยู่นิดหน่อย เอาเป็นว่าเอาเบาะดำธรรมดามาเดินด้ายแดงจะสวยกว่านี้
ต้องบอกก่อนว่าใครที่คิดจะซื้อรุ่นนี้มาหุ้มเบาะหนังต้องระวังให้ดี เพราะเนื่องจากอุปกรณ์ความปลอดภัยถุงลม 7 ใบที่ติดตั้งมาให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุดนั้น อาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่หากมีการติดตั้งเบาะหุ้มที่ไปกีดขวางช่องทางการทำงานของระบบ ทีมงานใช้คำว่า 'ไม่แนะนำ' ให้ทำนะครับ เรื่องนี้
ความกว้างของห้องโดยสารมีอยู่มากพอสำหรับการเดินทางที่บรรทุกผู้โดยสาร 4-5 คน ห้องโดยสารตอนหลังกว้างขวางและมีพื้นที่วางขาที่มากพอสมควร ตำแหน่งเบาะนั่งหลังดูชันไปสักเล็กน้อย สิ่งที่เพิ่มมาในรุ่นท๊อปก็คือเครื่องเสียงจอสัมผัส 7 นิ้ว ที่มาพร้อมยูเอสบีที่เครื่องเสียงเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้นในรถคันนี้
เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1,200 ซีซี. มาพร้อมแรงม้า 86 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติซูเปอร์ ซีวีที-ไอ ที่ได้รับการปรับจูนมาใหม่ รองรับเชื้อเพลิงอี20 พร้อมมาตรฐานไอเสียยูโร4 และผ่านข้อกำหนดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของอีโคคาร์ที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร
การออกตัวของรถถือว่าอยู่ในระดับอืดเป็นเรือเกลือ การกดคันเร่งแช่ยาว ๆ ไม่ได้ส่งผลอะไรกับความเร็วช่วงการออกตัวแม้แต่น้อย ต้องบอกว่าเป็นลักษณะของเครื่องยนต์ขนาดเล็กและเกียร์แบบซีวีทีที่ไม่ได้ปรู๊ดปร๊าดอะไรมากมายอยู่แล้ว แต่ต้องอาศัยช่วงในการขับขี่เรียกรอบกันไปเรื่อย ๆ สักระยะ
แต่เมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้นเป็นความเร็วกลางตั้งแต่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปแล้ว กำลังของรถเริ่มส่งต่อมาอย่างไหลลื่น และความเร็วของรถก็เริ่มเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ และหากมีระยะเวลาและระยะทางที่มากพอ การทำความเร็วสูงที่มากกว่ากฎหมายกำหนดก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเย็นแต่อย่างใด
ไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังมาอย่างต่อเนื่อง ต้องยอมรับว่าการเซตอัพช่วงล่างของยาริส เอทีฟนั้นเป็นไปอย่างลงตัว และมีความนุ่มนวลในการเดินทางที่ย่านความเร็วต่าง ๆ การเปลี่ยนเลนที่ความเร็วสูง ไม่ได้ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจในการขับขี่แต่อย่างใด แต่ดูรถมีความหนักแน่นมากกว่ารถยนต์นั่งขนาดเล็กหลายคันที่ทำตลาดอยู่
แต่สิ่งที่ต้องยกให้เป็นจุดขายที่แท้จริงของกยาริส เอทีฟ ก็คือการเก็บเสียงจากภายนอกของรถ เรียกว่าที่ย่านความเร็วต่ำกว่า 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไม่มีอะไรเล็ดรอดเข้ามาแน่นอน กว่าจะได้ยินเสียงลม เสียงล้อ ก็ต้องผ่านความเร็วสูงไปเสียก่อน แม้จะมีปัญหาบ้างในเรื่องของคอมแอร์และเสียงพัดลมแอร์ที่ยังดังเกินไปเล็กน้อย
เบาะที่นั่งมีความสะดวกสบายพอสมควรในการเดินทาง การรับน้ำหนักเป็นไปได้อย่างดี ทีมงานของโตโยต้าบอกว่านี่คือเบาะนั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มรถยนต์อีโคคาร์ เหนือกว่าคู่แข่งทุกรุ่น เรียกว่าเทียบชั้นได้กับรุ่นพี่อย่างโคโรลล่า อัลติสเลยทีเดียว
เอาล่ะนะครับ สรุปจากการอยู่กับรถคันนี้แบบคร่าว ๆ ไม่นานมาก โตโยต้า ยาริส เอทีฟ คือรถยนต์อีโคคาร์ที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น แม้เครื่องยนต์จะยังทำหน้าที่ในตอนเริ่มเดินเครื่องแบบอืดอาดระดับ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่้วโมงต้องมี 15 วินาที แต่เมื่อผ่านความเร็วไปสักระยะก็สามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดีถึงความเร็วสูง
ช่วงล่างที่ไว้วางใจได้ในทุกย่านความเร็ว การเข้าโค้งที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไหลไปได้แบบสมูธไร้รอยต่อพอพอกับการทำงานของเกียร์ซูเปอร์ ซีวีที-ไอ ห้องโดยสารภายในกว้างขวางนั่งสบาย แต่เบาะหลังชันไปสักนิด แถมยังไม่สามารถหุ้มเบาะหนังได้ และมียูเอสบีไว้เสียบเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้นในรถคันนี้
เจ้าพ่อแห่งความปลอดภัยของรถอีโคคาร์ด้วยถุงลมนิรภัย 7 ใบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาสี่แสนกลาง มาพร้อมโครงสร้างนิรภัยและระบบช่วยเหลือในการขับขี่แบบครบวงจรที่สุดเท่าที่รถเล็กสักคันพึงมี และแน่นอนว่ามากกว่าที่พบเห็นได้จากรถอีโคคาร์หรือแม้แต่รถยนต์ขนาดเล็กของคู่แข่งหลายต่อหลายราย
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบใช้งานจริง 14-15 กิโลเมตรต่อลิตรเมื่อขับทำคามเร็วตามใจฉันถือว่าน่าประทับใจ หากตั้งใจฃับก็จะเห็นตัวเลขที่ดีกว่านั้น ที่ยังไม่ได้ลองคือเมื่อมาเจอรถติด ๆ ในเมืองใหญ่ เครื่องยนต์ที่เป็นม้าตีนปลายจะทำงานได้ดีขนาดไหนกับการขับจอด ขับจอด บนถนนหลวงของประเทศไทย
ทั้งหมดที่ตั้งคำถามเอาไว้ เดี๋ยวรอรถทดสอบมาให้ยืมแบบเดี่ยว ๆ แล้วค่อยมาหาคำตอบกันอีกครั้ง แต่เท่าที่สัมผัสเบื้องต้น ถือว่าโตโยต้าสอบผ่านสำหรับอีโคคาร์น้องใหม่คันนี้...
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น