ประเทศไทยครองแชมป์อันดับ 1 การจัดอันดับประเทศที่ผู้ขับขี่ต้องใช้เวลาในรถยนต์ในชั่วโมงเร่งด่วนมากที่สุดในโลกโดย INRIX จากสหรัฐอเมริกา
ในปี 2017 ที่ผ่านมา ผู้ใช้รถในประเทศไทยใช้เวลาบนท้องถนนในชั่วโมงเร่งด่วนนานเฉลี่ย 56 ชั่วโมงต่อปี ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 51 ชั่วโมงต่อปี และอันดับสามคือโคลัมเบีย 49 ชั่วโมงต่อปี เวเนซุเอลา 42 ชั่วโมงและอันดับห้าคือรัสเซียและสหรัฐอเมริกาเท่ากันที่ 41 ชั่วโมง
การจัดอันดับของ INRIX คำนวณอัตราส่วนของเวลาที่ผู้ขับขี่ใช้บนท้องถนนในวันที่แตกต่างกันตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งทำให้เห็นภาพความแออัดของเมืองและประเทศที่ทำการสำรวจ โดยมุ่งเน้นที่ระยะเวลาที่ผู้ขับขัี่ต้องใช้ในชั่วโมงเร่งด่วนซึ่งส่งผลต่อผู้คนในวงกว้าง
ถ้าจัดอันดับเมืองที่มีความหนาแน่นที่สุด ปรากฎว่า ผู้ขับขี่ชาวเมืองแอลเอของสหรัฐอเมริกาต้องใช้เวลาอยู่ในรถนานถึง 102 ชั่วโมงต่อปี ถึงแม้ระยะเวลาจะลดลงแต่ก็ยังคงครองแชมป์เมืองรถติดที่สุดในโลก ขณะที่อันดับสองเป็นมอสโกของรัสเซีย และอันดับสามคือนิวยอร์ก ซิตี้
ที่น่าสนใจก็คือ อันดับของผู้ขับขี่รถในกรุงเทพฯ ใช้เวลาในชั่วโมงเร่งด่วนลดลงเหลือ 64 ชั่วโมง ทำให้อันดับตกลงมาจากที่ 12 เมื่อปี 2016 มาอยู่ที่ 16 ในปี 2017 โดยชาวเมืองกรุงเทพฯ ใช้เวลาอยู่ในรถประมาณ 64 ชั่วโมงต่อปี ส่วนเมืองที่แซงหน้ากรุงเทพฯ ไปก็คือกรุงคารากัสของเวเนซุอาล่าซึ่งอยู่ในอันดับ 13 และเมืองคานส์กับเมืองแอโรดรอมนีของรัสเซียซึ่งอยู่ในอันดับ 15 และ 11 ตามลำดับ
INRIX ระบุว่า “สหรัฐอเมริกามีเมืองที่มีรถติดมากที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยผู้ขับขี่ใช้เวลาเฉลี่ยถึง 41 ชั่วโมงในช่วงโมงเร่งด่วน ซึ่งคิดเป็นความเสียหายมูลค่ากว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 หรือเฉลี่ย 1,445 เหรียญต่อผู้ขับขี่หนึ่งคน”
เข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ IRIX
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น