แผนการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเทสล่าในเมืองจีนไม่มีความคืบหน้า หลังจากประสบปัญหาทางข้อกฎหมายการก่อตั้งบริษัทร่วมทุน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เทสล่าเริ่มต้นเจราจรกับรัฐบาลเซี่ยงไฮ้มานาน 7 เดือนแล้วเพื่อจะก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ แต่เทสล่าต้องการเป็นเจ้าของโรงงานทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวซึ่งขัดกับกฎหมายของแดนมังกรที่ระบุว่า บริษัทต่างชาติต้องจับมือกับบริษัทท้องถิ่นเพื่อก่อตั้งบริษัทร่วมทุนสำหรับบริหารงานด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ที่ผ่านมา เทสล่ามองหาช่องทางการเข้าเจาะตลาดจีนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการมีโรงงานผลิตในประเทศ ปัจจุบัน รถยนต์เทสล่าที่จำหน่ายในจีนนั้นจะต้องบวกภาษีนำเข้าถึง 25% ซึ่งทำให้ยอดขายไม่สามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดรถพลังงานทางเลือกของจีนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เทสล่าเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พลังไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาด้วยยอดขาย 55,000 คันในปี 2017 แต่สำหรับในจีน ค่ายรถอเมริกันแบรนด์นี้มียอดขายเพียง 14,883 คันเท่านั้นโดยอยู่ในอันดับที่ 10 ขณะเดียวกัน ผู้นำตลาดคือบริษัทปักกิ่ง อิเลกทริก เวฮิเคิล (Beijing Electric Vehicle) ที่มียอดขายรถอีวีมากกว่า 100,000 คัน
เมื่อดูจากราคาแล้วก็ไม่น่าแปลกใจ รถยนต์พลังไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมในจีนมีราคาระหว่าง 130,000-448,000 หยวน แต่เทสล่า โมเดล เอ็กซ์มีค่าตัวถึง 835,000 หยวนเลยทีเดียว
เทสล่าเคยระบุว่าจะเปิดเผยรายงานความคืบหน้าแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในจีนในช่วงสิ้นปี 2017 แต่ก็สุดท้ายรายงานดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยถึงแผนการรุกตลาดแดนมังกรแต่อย่างใด
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น