สำนักงานนโยบายและแผนฯ เร่งเครื่องแก้ปัญหาจราจรติดขัดเมืองเชียงใหม่ สร้างรถไฟฟ้ารางเบา(แทรม) 3 สาย มูลค่าเกือบแสนล้านบาท เริ่มสร้างสายสีแดงเส้นแรกปี 2564 แล้วเสร็จปี 2567
ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้มอบหมายให้ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาจราจรจ.เชียงใหม่ โดยจะก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ซึ่งได้ศึกษาไว้ 3 เส้นทาง
เริ่มเตรียมพื้นที่และออกพรฎ.เวนคืนที่ดิน โครงการแรกสายสีแดง (ศูนย์ราชการฯ-สนามบิน-แม่เหียะ) ระยะทาง 12 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 24,000 ล้านบาท คาดเริ่มสร้างปี 2564 แล้วเสร็จ ปี 2567 ที่เหลืออีก 2โครงการคือ สายสีน้ำเงิน (สวนสัตว์เชียงใหม่-ท่าแพ-ดอนจั่น) 11 กม. วงเงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท และ สายสีเขียว (แม่โจ้-กาดหลวง-สนามบิน) 12 กม. วงเงินลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท
"การแก้ไขปัญหาจราจรเมืองใหญ่ในส่วนภูมิภาค ระบบรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม)ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างดี โดยเราได้ศึกษารูปแบบระบบขนส่งสาธารณะหลายรูปแบบ ในการแก้ไขปัญหาจราจรจ.เชียงใหม่ แต่คนเชียงใหม่ต้องการระบบใต้ดิน ซึ่งงานก่อสร้างครั้งนี้จะมีทั้งบนดินและใต้ดิน ทำให้ต้นทุนก่อสร้างสูง จึงจะนำร่องสายสีแดงก่อน ซึ่งมีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาทำ อาทิ สเปน ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้"
ชาญชัย กีฬาแปง ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เชียงใหม่มีระบบขนส่งสาธารณะขนส่งให้บริการหลากหลาย อาทิ รถสองแถวแดง รถโดยสารของเทศบาลนครเชียงใหม่ รถโดยสารขนาดเล็ก (มินิบัส) เชื่อมสนามบิน รถแท็กซี่มิเตอร์รถตุ๊กๆ ปัจจุบัน 1,100 กว่าคัน ค่าโดยสารตามตกลงราคา หากต่อไปจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (แทรม) ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการเดินทาง
ทรงยศ กิจธรรมเกษร ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการจัดระบบการจราจรและขนส่งภาคเหนือ(ตอนบน)ภาควิชาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่าปัญหาการจราจรเชียงใหม่นั้นเนื่องจากเป็นเมืองเก่ามีโครงข่ายถนนมีความจุดต่ำและขยายเขตทางได้ลำบากมีปัญหาคอขวด รวมถึงถนนเส้นหลักที่มีการเชื่อมโยงระหว่างบริเวณคูเมืองรอบนอกกับเส้นทางวงแหวนต่างๆมีเพียง 8 เส้นทางและเส้นทางที่ใหญ่ที่สุดมี 4 ช่องจราจรที่เป็นข้อจำกัด
หากวัดพื้นที่ถนนของจังหวัดเชียงใหม่ในพื้นที่เทศบาลมีพื้นที่ถนนเพียง 4% เมื่อเทียบกับเมืองดีๆส่วนใหญ่ที่จะมีพื้นที่ประมาณ 10% ขณะที่ด้านจำนวนประชากรที่จดทะเบียนมีประมาณ 1.8 ล้านคน อัตราการเพิ่มเพียง 1% ต่อปี ,นักท่องเที่ยวต่อปีประมาณ 10 ล้านคน อัตราการเพิ่มปีล่ะ 10% ต่อเนื่องมา 5 ปี และชาวต่างด้าวที่จดทะเบียนจากที่ทำการสำรวจพบว่ามีประมาณ 140,000-150,000 คน ส่วนอัตราการเพิ่มยังไม่แน่ชัดแต่มีอัตราเพิ่มสูงมากในปัจจุบัน
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น