เอ็มจีซี-เอเชีย ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, มาเซราติฯ จัดทัพยนตรกรรมในเครือและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บุกงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40
Rolls-Royce Full Range ครั้งแรกกับการจัดแสดงครบทุกสายพันธุ์ ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ พิเศษกว่าทุกครั้ง กับการจัดแสดงครั้งแรกแบบ ‘Full Range’ ครบทั้ง 5 สายพันธุ์ คือ แฟนธอม, โกสต์, เรธ แบล็คแบจ, ดอว์น และ คัลลิแนน อีกทั้งยังมีความพิเศษจากรุ่นย่อย ‘แบล็คแบจ’ ที่ไม่จำกัดเฉพาะสีดำอีกต่อไป แต่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดสีตัวถังและออปชั่นอื่นๆ ได้ตามต้องการ
โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม เป็นรถยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการขนานนามให้เป็น ‘King of cars’ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี12 เทอร์โบ 563 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร โดยมีแรงบิดสูงสุดเริ่มเพียง 1,700 รอบ/นาที ด้วยระบบช่วงล่างถุงลม ผสานกล้อง 3 มิติอัจฉริยะ เช็กสภาพถนนดานหน้า พร้อมวัสดุซับเสียงน้ำหนักรวมกว่า 130 กิโลกรัม ติดตั้งรอบตัวรถ
โกสต์ สง่างามและเรียบง่าย ผสานเทคโนโลยีล่าสุด ที่ทำให้การขับทุกเส้นทางทำได้อย่างเรียบง่าย จากขุมพลังพิเศษ 563 แรงม้า ผสานสัดส่วนของล้อต่อความสูงของตัวรถแบบคลาสสิกที่ 2:1 ทำให้ โกสต์ ซีรีส์ 2 เป็นยนตรกรรมที่น่ามองและสง่างามต่อทุกสายตา
เรธ แบล็คแบจ รถสปอร์ตสองประตู ที่สง่างาม ผนวกกับความล้ำสมัยของเทคโนโลยี ที่ถูกออกเเบบให้สอดคล้องกับการใช้งาน ไฟหน้าแอลอีดีให้แสงสว่างมากขึ้น สัญลักษณ์นางฟ้าและปลายท่อไอเสียชุบโครเมียมรมดำ ล้อแม็กคาร์บอนไฟเบอร์ ประตูเเบบ Coach Door ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ โรลส์-รอยซ์ มากว่า 100 ปี แดชบอร์ดคาบอนไฟเบอร์ผสมอะลูมินัม ขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.6 ลิตร 624 เเรงม้า เเรงบิด 870 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 4.5 วินาที
ดอว์น ยนตรกรรมคูเป้เปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง เกิดมาจากการพัฒนาของ แฟนธอม ดรอปเฮด คูเป้ ทะยานแรงด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ วี12 สูบ 6.6 ลิตร วี12 สูบ ทวินเทอร์โบ ขณะที่หลังคาผ้าเวลเวต 4 ชั้น แบบ Ballerina Close ทำได้อย่างเงียบสนิท ทำให้ ดอว์น เป็นรถเปิดประทุนที่เก็บเสียงได้ดีสุดในโลก ขับกล่อมด้วย 18 ลำโพง พร้อมระบบไฮ-ไฟ ปรับอัตโนมัติ เพื่อสุนทรียภาพตลอดการเดินทาง
คัลลิแนน ‘Supreme Liberty’ อัลตราลักชัวรี่เอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ โรลส์-รอยซ์ มาพร้อมสีพิเศษ ตัวถังดูสุขุมและสง่างามกับสีพิเศษ ‘Infinity-Black Metallic’ ตัดด้วยโค้ชไลน์สี Mandarin เป็นเส้นสีส้มบางๆ คาดข้างตัวถังยาวจรดด้านหลัง เป็นเสมือนงานศิลป์จากปลายพู่กันของ มร. มาร์ค คอร์ต โดยเป็นคนเดียวในโลก กับหน้าที่สุดพิเศษนี้ ห้องโดยสารใช้โทนสี Scivaro Gray (ซิวาโร่ เกรย์) ตัดกับสีดำ และเย็บตะเข็บเดินด้ายสี Mandarin ติดตั้งลายไม้ Blackwood Matted และเป็นคันแรกในไทยที่มาพร้อมออปชั่น ‘Immersive Seating with Centre Console’ เป็นเบาะหลัง 2 ที่นั่งแบบแยกส่วน พร้อมคอนโซลคั่นกลาง ภายในเป็นตู้แช่และชุดเครื่องดื่ม ติดตั้งแผงกั้นระหว่างห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระ เพื่อลดเสียงรบกวนและให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด
Aston Martin นำทัพโดย VALKYRIE AMR Pro และ DBS Superleggera แอสตัน มาร์ติน ปลุกกระแสเรียกความคึกคักช่วงมอเตอร์โชว์ นำเข้ายนตรกรรมสุดล้ำยุค ‘วาลคีรี่ เอเอ็มอาร์ โปร’ เวอร์ชั่นตัวแข่งของ ‘วาลคีรี่’ ไฮบริดไฮเปอร์คาร์ ผลงานจากความร่วมมือของ แอสตัน มาร์ติน และทีมแข่ง เรดบูล เรซิ่ง (Red Bull Racing) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ วางกลาง 6.5 ลิตร หายใจเอง (NA-Naturally Aspirated) พร้อม ‘Rimac Energy Recovery System’ เทคโนโลยีไฮบริดที่พัฒนาจากรถแข่ง ฟอร์มูลาวัน ขณะที่กล่องอีซียูก็ได้รับการปรับแต่งใหม่ ให้มีกำลังสูงกว่า 1,100 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. (0-60 ไมล์/ชม.) ภายใน 2.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 360 กม./ชม.
DBS Superleggera รหัส DBS มีความหมายเพียงหนึ่งเดียว คือ การเป็นรถในสายการผลิตที่ดีสุดของ แอสตัน มาร์ติน โดยหลอมรวมความงามสง่าเข้ากับความเร็ว และสมรรถนะและความสะดวกสบายอย่างลงตัว ทำให้ DBS Superleggera เป็นรถแกรนด์ทัวเรอร์สุดหรู ควบคู่สมรรถนะเต็มพิกัด โครงสร้างตัวถังอะลูมิเนียมผสานชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์ เครื่องยนต์เบนซิน วี12 สูบ 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ 715 แรงม้า ที่ แรงบิด 900 นิวตันเมตร สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แอสตัน มาร์ติน ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. ช่วงล่างอิสระ หน้า ดับเบิลวิชโบน หลัง มัลติลิงค์ พร้อมโช้กอัพปรับความหนืดอัตโนมัติ ADS (Adaptive Damping System) จานเบรกคาร์บอนเซรามิก หน้า 410 หลัง 360 มม. จับคู่กับล้อแม็กขอบ 21 นิ้ว ยางหน้า 265/35/21 หลัง 305/30/21
Maserati โชว์โฉมรถใหม่ถึง 3 รุ่น ทั้งสปอร์ตคูเป้, ซีดานรุ่นใหญ่ และเอสยูวียอดนิยม The New GranTurismo
มาเซราติ กรันทูริสโม ใหม่ สืบทอดสายพันธุ์สปอร์ตจีที 2+2 ที่นั่ง ปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ เปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนหน้า-หลังให้ดูสปอร์ตขึ้น เครื่องยนต์วางหน้าแบบ Mid-Front กระจายน้ำหนักหน้า-หลัง 49:51 % เครื่องยนต์เบนซิน วี8 สูบ 4.7 ลิตร (Naturally-aspirated) 460 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตันเมตร แผดเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ ช่วงรอบสูง ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที ติดตั้งแดชบอร์ดดีไซน์ใหม่ นาฬิกา แป้นควบคุมแบบ Rotary Control พร้อมเปลี่ยนทัชสกรีนอเนกประสงค์ที่มีความละเอียดมากขึ้น เพิ่มความสุนทรีย์ตลอดการเดินทาง ด้วยเครื่องเสียง Harman Kardon Premium Sound System
The New Quattroporte มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ ใหม่ ปรับโฉมเพิ่มความสด รูปลักษณ์สะดุดตา เน้นเหลี่ยมสัน สะท้อนความบึกบึนและสง่างาม ไฟหน้าอะแด๊บทีฟ เมทริกซ์ แอลอีดี ดีไซน์ใหม่ให้ดูคมขึ้น ตัวถังลดน้ำหนักด้วยการใช้อะลูมิเนียมและแมกนิเซียม โดดเด่นกับประตูแบบไร้ขอบหน้าต่างทั้ง 4 บาน ให้มุมมองสปอร์ตแบบรถคูเป้ อีกทั้งยังมีการกระจายน้ำหนักหน้า-หลังดีเยี่ยม 50:50 ควอตโตรปอร์เต้ เป็นหนึ่งในซีดานหรูที่เร็วสุดในโลก กับท็อปสปีด 310 กม./ชม. มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งดีเซลหรือเบนซิน ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง ผ่านเกียร์ ZF 8 จังหวะ ห้องโดยสารใช้วัสดุที่ดีสุด อาทิ หนังแท้เกรดพรีเมียม ไม้เนื้อดี หรือกระทั่ง ‘คาร์บอนไฟเบอร์’ ที่นิยมใช้กับรถแข่ง
Levante Vulcano มาเซราติ เลอวานเต้ วัลเคโน ผลิตจำกัด 150 คันทั่วโลก ตัวถังสีเทาด้าน Grigio Lava พร้อมชุดแต่ง Nerrissimo Pack ประกอบด้วยกระจังหน้าและโลโก้สัญลักษณ์โครเมียมรมดำ เพิ่มความสปอร์ตด้วยมือจับประตูสีเดียวกับตัวถัง กรอบหน้าต่างสีดำเงา Glossy Black ไฟท้ายสีเข้ม Dark Look พร้อมปลายท่อไอเสียแบบ Burnished และประตูแบบ Soft Close ขับเคลื่อนอย่างเร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ ทวินเทอร์โบ 350 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ห้องโดยสารสปอร์ตเต็มพิกัด ติดตั้งเบาะปรับไฟฟ้าทรงสปอร์ตหุ้มหนังแท้ Pieno Fiore leather บริเวณหมอนรองศีรษะปักโลโก้ พวงมาลัยหุ้มหนังแท้และแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมแพดเดิลชิฟต์ ติดตั้งแผ่นป้ายโลหะบริเวณคอนโซลเกียร์เพื่อแสดงถึงความพิเศษ เป็นโลโก้ตรีศูลและอักษร ‘ONE OF 150’ ระบบเครื่องเสียงเป็นของ Bower & Wilkins Premium Sound System ปิดท้ายความสปอร์ต ด้วยคาลิเปอร์เบรกพ่นสีแดง จับคู่กับล้อแม็กผิวด้าน Helios ขอบ 21 นิ้ว
นอกจากนี้ Millennium Auto จัดหนัก แจกทองคำแท่ง รวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เมื่อจองรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ หรือ มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 และ ที่มิลเลนเนียมออโต้ ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน นอกจากนี้ในเครือฯ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกเพียบ พบได้ที่บูท A9 รวมถึงอีกหลายแบรนด์ในเครือ เอ็มจีซี-เอเชีย 27 มีนาคม – 7 เมษายนนี้ ที่บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2019 แชลเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
LINE
ความคิดเห็น