หลังจากที่BMW Motorrad ประเทศไทยได้เปิดตัวBMW F 750 GS และF 850 GS น้องคนกลางสายลุยไปก่อนหน้านี้ล่าสุดทางBMW Motorrad ได้นำเอาพี่ใหญ่สุดในตระกูลแอดเวนเจอร์ได้แก่BMW R 1250 GS และBMW R 1250 GS Adventure คู่หูสายลุยไซส์ใหญ่รุ่นใหม่ล่าสุดพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้าสู่ตลาดประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยวางราคาเริ่มต้น 1,085,000 บาท

BMW R 1250 GS และ BMW R 1250 GSA สองรุ่นนี้จัดเป็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นท็อปที่สุดในตระกูลรถแอดเวนเจอร์ของBMW Motorrad ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ภายนอกหลายจุดไม่ว่าจะเป็นรูปทรงโดยรวมภายนอก, ชิวหน้าแบบใหม่และการออกแบบรองรับกับระบบอากาศพลศาสตร์ที่ดีกว่าเดิมและที่สำคัญที่สุดคือขุมพลังเครื่องยนต์รุ่นใหม่ชนิด Boxer 2 สูบวางนอนขนาด 1,254 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำพร้อมเทคโนโลยีวาล์วแปรผัน BMW ShiftCam ที่ติดตั้งอยู่ภายในเครื่องยนต์ซึ่งทำให้รถมีพละกำลังและความแรงมากกว่ารุ่นเดิมส่งกำลังได้นุ่มนวลกว่าเดิมและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

BMW R 1250 GS 

สำหรับรถแอดเวนเจอร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง BMW R 1250 GS คันนี้เป็นโมเดลสานต่อความสำเร็จอย่างล้นหลามของ BMW R 1200 GS ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลกโดยจัดเป็นรถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ขวัญใจชาวไทยมาอย่างยาวนานซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของประสิทธิภาพของตัวรถที่สูงมากมีช่วงล่างที่จัดว่าดีที่สุดในตลาดตอนนี้อีกทั้งยังมีความนุ่มนวลสูงมาก

และในครั้งนี้ทาง BMW ได้ตอกย้ำความสำเร็จด้วยรถรุ่นใหม่ในตระกูลกับ BMW R 1250 GS ซึ่งเป็นการอัพเกรดความสามารถจากรถรุ่นก่อนหน้าทุกประการไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์แบบ Boxer 2 สูบวางนอนที่อัพเกรดเป็นขนาด 1,254 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศพร้อมเพิ่มสมรรถนะให้ดีขึ้นด้วยระบบBMW ShiftCam เป็นครั้งแรกของทางBMW Motorrad ที่ติดตั้งระบบวาล์วแปรผันให้กับเครื่องยนต์ตระกูลนี้โดยอาศัยการเพิ่มความสมดุลของเพลาลูกเบี้ยวและจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมซึ่งมอบพละกำลังสูงสุดถึง 136 แรงม้าที่ 7,750 รอบ/นาทีแรงบิดสูงสุด 143 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบ/นาทีทำให้รถมีพละกำลังช่วงกลางและปลายดีกว่ารุ่นเดิม อีกทั้งยังมาพร้อมกับการ์ดป้องกันกระแทกใต้เครื่องยนต์ด้วย

ส่วน R1200GS โมเดลที่แล้วมีแรงม้าสูงสุด 125 นิวตัวเมตรที่ 7,750 รอบ/นาทีและแรงบิดสูงสุด 125 นิวตัวเมตรที่6,500 รอบต่อนาที

ทางด้านระบบหัวฉีดคู่และระบบไอเสียใหม่ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 ที่เน้นประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ

ด้านหน้าใช้ไฟหน้าแบบ LED เหมือนกับรุ่นก่อนหน้าพร้อมชิวหน้าบังลมแบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ช่วงล่างใช้โช๊คอัพแบบไฟฟ้าจำนวน 3 ต้นในชื่อ Dynamic ESA ซึ่งผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของช่วงล่างได้ด้วยตนเองผ่านการปรับแต่งที่หน้าจอซึ่งสามารถปรับแต่งได้โดยอิสระตามลักษณะการขับขี่และสภาพเส้นทางที่ใช้งาน

ด้านหลังของโช๊คคู่หน้ามีกันสบัดไฟฟ้าเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ล้อหน้าแบบซี่ลวดไม่มียางในขนาด 19 นิ้วพร้อมดิสเบรกคู่และปั้มเบรคBMW

ทางด้านหน้าจอเรือนไมล์เป็นแบบจอสีแบบ TFT ขนาด 6.5 นิ้วบอกข้อมูลการขับขี่ครบครันเหมือนกับรุ่นเดิมควบคุมผ่านตัวคอนโทรเลอร์ที่ประกับแฮนด์ด้านซ้ายส่วนโหมดการขับขี่มีการเพิ่มรายละเอียดเข้ามาใหม่โดยแบ่งหมวดใหญ่เป็น 3 หมวดได้แก่ Rain, Road และ Riding Mode Pro ซึ่งในโหมดโปรจะแบ่งแยกย่อยอีกเป็น Dynamic, Dynamic Pro, Enduro และ Enduro Pro เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติและระบบช่วยการออกตัวในทางลาดชันอีกทั้งยังมีระบบเพิ่มความปลอดภัยในโค้งด้วยระบบ Dynamic Traction Control และ ABS Pro โดยผู้ขับขี่

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มระบบ Dynamic Break Control ช่วยทำให้การเบรคดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการตัดกำลังของเครื่องยนต์เมื่อทำการเบรคในสถานการณ์ฉุกเฉินทำให้การควบคุมรถทำได้ง่ายกว่าเดิม

ถังน้ำมันขนาดใหญ่ความจุ 20 ลิตร

ในส่วนของระบบเกียร์เป็นเกียร์แบบ 6 สปีดพร้อมควิกชิพเตอร์ทั้งเพิ่มเกียร์และลดเกียร์ไม่จำเป็นต้องกำคลัช ส่วนระบบขับเคลื่อน ใช้ระบบเพลาส่งกำลังไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาอย่างใกล้ชิดเท่าระบบโซ่รองรับการขับขี่ทางไกลได้เป็นอย่างดีและมีความนุ่มนวลในการส่งกำลังสูง

กล่องอลูมิเนียมสำหรับบรรทุกสัมภาระจำนวน 3 ใบหรือที่ศัพท์ในวงการเรียกว่า"ปี๊บ"

ทางด้านราคาวางจำหน่ายBMW R 1250 GS แบ่งออกเป็น 2 แบบได้แก่

BMW R 1250 GS Limited Edition วางราคาที่ 1,085,000 บาท

BMW R 1250 GS HP Style วางราคาที่ 1,105,000 บาท

BMW R 1250 GS Adventure

สำหรับBMW R 1250 GS Adventure ทางด้านระบบไฟฟ้าและเทคโนโลยีต่างๆเหมือนกับBMW R 1250 GS ทุกประการทว่ามีความแตกต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถที่จะสูงใหญ่และกว้างมากกว่าBMW R 1250 GS อย่างชัดเจนโดยเฉพาะส่วนของถังน้ำมันที่มีความจุสูงถึง30 ลิตรด้วยกันรวมถึงช่วงล่างที่มีระยะยุบมากกว่าและมีเบาะนั่งที่สูงกว่าBMW R 1250 GS อย่างชัดเจนอีกทั้งยังมาพร้อมกัน Crashbar และไฟสปอตไลท์ติดตั้งมาจากโรงงาน

BMW R 1250 Adventure เปิดราคาวางจำหน่ายมาที่ 1,174,000 บาท

สำหรับBMW R 1250 GS และR 1250 GSA นี้ถูกประกอบขึ้นในโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ปในจังหวัดระยองบ้านเรานี่เองซึ่งเป็นการพิสูจน์ถึงศักยภาพของทางโรงงานของเราด้วย

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่