BMW R 1250 GS Adventure ภาคต่อความสำเร็จของ BMW R 1200 GS Adventure โมเดลก่อนหน้า ซึ่งสาวกไบเกอร์ล้วนทราบกันดีว่า BMW รหัส GS มีดีที่ความนุ่มสบาย แถมควบคุมง่ายดูขัดกับหน้าตาอันใหญ่โต
BMW R 1250 GSA นุ่มกว่าเก่า เนียนกว่าเดิม
เมื่อพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ตระกูลทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ เชื่อว่าไม่มีไบเกอร์คนไหนไม่รู้จัก " GS " อย่างแน่นอน ด้วยชื่อชั้นของรถรุ่นนี้อันเป็นตำนานของตระกูลทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์มาอย่างยาวนาน ผ่านการพัฒนา ปรับโฉม ใส่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดเข้าไปในรถรุ่นนี้มาโดยตลอด และจุดเด่นที่ชูความแตกต่างจากรถมอเตอร์ไซค์ทุกรุ่นในตลาด นั่นคือระบบโช๊คอัพด้านหน้าที่จัดมาให้ถึง 3 ต้นด้วยกัน
รหัสต่างๆ บนรุ่นรถมอเตอร์ไซค์ของ BMW ล้วนมีที่มาที่ไปทั้งหมด โดยเจ้า R 1250 GSA มีความหมายบอกไว้ในนี้ทั้งหมด เริ่มต้นจากตัว R ซึ่งเป็นรหัสบอกประเภทของเครื่องยนต์ที่ติดตั้งไว้ โดยรหัส R คือเครื่องยนต์ Boxer
ถัดมากับเลข 1250 ก็คือความจุกระบอกสูบนั่นเอง โดยในรหัสนี้จัดมาให้ที่ 1,254 ซีซี
ส่วนรหัสสุดท้าย GS แต่เดิมใช้ชื่อว่า G/S ซึ่งย่อมาจากคำว่า Gelände/Straße หรือ Gelände Sport ในภาษาเยอรมัน แปลว่า Offroad/Onroad นั่นเอง
และส่วนสุดท้ายก็คือ Adventure หมายความว่า เป็นรุ่นตกแต่งพิเศษจากโรงงานที่อัพเกรดอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานรูปแบบเดินทางไกลได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันที่ใหญ่กว่ารุ่นปกติ, ไฟสปอตไลท์, โครงเหล็กป้องกันตัวรถ หรือแครชบาร์ และสุดท้ายนั่นคือแร็คสำหรับติดตั้งกล่องบรรทุกสัมภาระ
แต่ก่อนเราจะมารู้จักกับรถรุ่นปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นอนาคตแห่งวงการมอเตอร์ไซค์แล้ว เรามาทำความรู้จักความเป็นมาของรถมอเตอร์ไซค์ BMW GS กันก่อนครับว่า มีจุดเริ่มต้นเป็นอย่างไรด้วยวิดีโอนี้ครับ
และถัดไปคือรุ่นท็อปที่สุดในปัจจุบันนี้ โดยคันที่เรานำมาทดสอบขับขี่คือ BMW R 1250 GS Adventure HP
BMW R 1250 GSA ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักเดินทาง
BMW R 1250 GSA ถูกพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นพี่ BMW R 1200 GSA ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยใน R 1250 GSA คันนี้มีการเสริมเทคโนโลยีใหม่เข้าไปที่ช่วยทำให้การขับขี่ของไบเกอร์นุ่มนวลมากขึ้นยิ่งกว่ารุ่นเดิม ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบวางนอนใหม่ ให้มีความนุ่มนวลกว่า และแรงกว่าด้วยระบบ BMW Shiftcam
รูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถ ดูละม้ายคล้ายคลึงกับรุ่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในบางจุด เริ่มต้นจากด้านหน้าที่โดดเด่นด้วยระบบไฟที่เป็น LED ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า BMW LED อันเป็นเอกลักษณ์ด้วยไฟสูง, ไฟต่ำ และไฟหรี่ในโคมเดียวกัน ส่วนไฟเลี้ยวและไฟท้ายก็เป็น LED ทั้งหมดเช่นเดียวกัน มาพร้อมกับปากนกขนาดใหญ่ ที่ช่วยเสริมความหล่อเหลาตามสไตล์รถทัวร์ริ่ง และความพิเศษของรหัส GSA หรือ GS Adventure ที่แตกต่างจากรหัส GS นั่นคือแครชบาร์ที่มีขนาดคลอบคลุมมากกว่าอันเนื่องมาจากถังน้ำมันที่มีขนาดใหญ่กว่า และยังแถมไฟสปอร์ตไลท์เสริมมาให้อีก 1 คู่
เปิดไฟต่ำ
เปิดไฟสูง
ไฟหน้าและไฟสปอตไลท์
ชิวบังลมด้านหน้าขนาดใหญ่ สามารถปรับความสูงต่ำได้ด้วยการหมุนแป้นบิดทานด้านขวามือของผู้ขับขี่ ซึ่งระดับสูงสุดของชิวบังลมด้านหน้าจะสูงเลยหัวผู้ขับขี่ไปเลย จัดว่าสูงมาก
BMW R 1250 GSA มีดีที่ช่วงล่าง
จุดเด่นที่สุดของ BMW R 1250 GSA คือโช๊คอัพต้นที่ 3 ที่จะซ่อนอยู่ด้านในตรงบริเวณใต้แผงคอรถนั่นเอง โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Telelever ซึ่งเจ้าโช๊คอัพตัวนี้จะถูกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า Dynamic ESA โดยผู้ขับขี่สามารถเซ็ตอัพเจ้าโช๊คอัพตัวนี้ได้ง่ายๆ ด้วยตนเองทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผ่านหน้าจอเรือนไมล์ได้โดยละเอียด ซึ่งเจ้าโช๊คอัพต้นที่ 3 นี้ถือเป็นจุดชูโรงของเจ้า BMW R 1250 GSA เลยทีเดียว ส่วนโช๊คอัพคู่หน้าขนาด 37 มม. มีหน้าที่รับแรงสะเทือนจากตัวล้อโดยตรง
โช๊คอัพด้านหลัง สามารถปรับระดับความสูง-ต่ำ ของตัวรถได้
บริเวณด้านหลังโช๊คอัพคู่หน้า มีการติดตั้งกันสบัดเอาไว้ให้ด้วย ช่วยเสริมความมั่นคงในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
ล้อด้านหน้าและด้านหลังของรถรุ่นนี้ ใช้ล้อซี่ลวดแบบไม่มียางใน ขนาดล้อหน้า 19 นิ้ว รัดยางกึ่งลุยขนาด 120/70 R19 ส่วนล้อหลังมีขนาด 17 นิ้ว รัดยางกึ่งลุยขนาด 170/60 R 17 มาพร้อมดิสเบรคคู่ และปั้มเบรคสีทองตีตรา BMW
บริเวณด้านใต้เครื่องยนต์ มีการติดตั้งการ์ดโลหะป้องกันการกระแทก เสริมความแข็งแรงให้กับตัวรถ
ถัดมาด้านบนในส่วนของหน้าจอเรือนไมล์ เป็นจอสี TFT แบบเดียวกับรุ่นที่แล้วทุกประการ รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพลิเคชั่น BMW Motorrad Connected ซึ่งสามารถใช้ระบบนำทาง BMW Navigation ได้อีกด้วย ซึ่งหน้าจอเรือนไมล์นี้บอกข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับตัวรถได้อย่างละเอียดยิบถึงระดับขั้นทางเทคนิคในหลายจุดเลยทีเดียว เพียงกดปุ่มเปลี่ยนโหมดเท่านั้นเอง อาทิเช่น มาตรวัดความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, รอบเครื่องยนต์, โหมดการขับขี่, แรงดันลมยาง, แรงดันไฟฟ้า, อุณหภูมิหม้อน้ำ, ทริปการขับขี่ และอื่นๆ
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถด้วยตนเองอย่างละเอียดได้ในเมนูเซ็ตติ้ง ที่สามารถตั้งความละเอียดของโหมดการขับขี่ได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็น ABS, Traction Control, ระดับความสูงของโช๊คอัพ, โหมดการใช้งานช่วงล่าง ฯลฯ เป็นต้น และการตั้งค่าเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ, บลูทูตติดหมวกกันน็อก ก็สามารถทำได้บนหน้าจอนี้
เชื่อมต่อ BMW R 1250 GSA กับโทรศัพท์มือถือได้ด้วยแอพฯ BMW Motorrad Connected
ระบบกุญแจ เป็นกุญแจแบบ Keyless ควบคุมการปลดล็อก, เปิดระบบไฟฟ้าผ่านปุ่มเดียว
ควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟส่องสว่าง, ระบบล็อกความเร็ว, ระบบไฟสัญญาณต่างๆ และระบบทั้งหมดของตัวรถ ซึ่งควบคุมผ่านหน้าจอเรือนไมล์ จะต้องบังคับจากประกับแฮนด์ทางด้านซ้าย
ส่วนประกับแฮนด์ด้านขวา ติดตั้งปุ่มติดเครื่อง/ดับเครื่อง ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ และระบบอุ่นมือ
BMW R 1250 GSA โดดเด่นเรื่องเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่โดยเฉพาะ
ระบบเด่นๆ ที่มากับรถคันนี้ได้แก่ Traction Control ป้องกันล้อหมุนฟรี, ระบบ ABS Pro ป้องกันล้อล็อกขณะใช้เบรคในโค้ง, ระบบ Cruise Control ล็อกความเร็วของรถ ทำให้เราไม่ต้องบิดคันเร่งไว้ตลอด, กุญแจนิรภัยแบบ Keyless และยังมาพร้อมกับ Quick shifter เปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัช ที่ถูกอัพเกรดใหม่ให้นุ่มนวลกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย อีกทั้งคันเร่งเป็นแบบไฟฟ้า พร้อมคลัชแบบน้ำมัน ให้ความนุ่มนวลเวลาเปลี่ยนเกียร์ หรือเวลาใช้คลัชได้อย่างยอดเยี่ยม
มุมมองจากผู้ขับขี่บอกเลยว่ารถคันนี้ดูใหญ่โตมโหฬาร อลังการขนาดนี้ อันเนื่องมาจากถังน้ำมันของรถรุ่นนี้จัดหนักให้ถึงขนาด 30 ลิตรด้วยกัน ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยราว 17 กม./ลิตร ทำให้ระยะทางขับขี่สูงสุดต่อน้ำมัน 1 ถังสามารถทำได้มากกว่า 450 กม. อย่างสบายๆ และบริเวณช่องเติมน้ำมันยังมาพร้อมกับช่องใส่ของเล็กๆ เอาไว้ด้วย
และถ้าหากสังเกตุดีๆ บริเวณด้านข้างชิวบังลมหน้า จะมีชิวตัดลมติดมาให้ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องลมหวนที่ทำให้เสือของเหล่าไบเกอร์ถลกขึ้นขณะขับขี่นั่นแหละครับ แต่ข้อเสียก็คือมันจะตัดลมออกแทบจะทั้งหมดเลย อาจจะทำให้รู้สึกร้อนได้
ช่องเติมน้ำมัน สามารถเปิดได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ และจะเปิดไม่ได้หากไม่ได้ถือกุญแจไว้ใกล้รถ ส่วนช่องเก็บของเล็กๆ สามารถเก็บของกระจุกกระจิกขนาดประมาณบัตรเครดิตได้
เบาะนั่ง เป็นแบบเบาะ 2 ตอน ความสูงอยู่ที่ 840 มม. มาพร้อมกับแรคสำหรับติดกล่องบรรทุกสัมภาระชนิดอลูมิเนียม หรือที่ศัพท์ไบเกอร์เรียกว่า ปี๊บ นั่นแหละครับ สามารถติดได้ 3 ใบ
พักเท้าผู้ขับขี่ ใช้พักเท้าหนาม เพื่อการยึดเกาะที่ดีในการขับขี่ ส่วนพักเท้าคนซ้อนใช้แบบหุ้มยางปกติ
ระบบขับเคลื่อน ใช้เพลาในการขับ ซึ่งจุดเด่นของระบบเพลาคือ ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาบ่อยๆ เฉกเช่นโซ่ และให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ดีกว่ามาก
ทางด้านตำแหน่งของท่อไอเสียของรถวางอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เพื่อรองรับการลุยที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่สุ่มเสียงที่ให้มาของรุ่นนี้จะนุ่มกว่ารุ่นที่แล้วชัดเจน อันเนื่องมาจากเครื่องยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งมีการเปลี่ยนใหม่ให้ดีกว่าเดิม
BMW R 1250 GSA มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer รุ่นใหม่
ใน BMW R 1250 GSA คันนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Boxer รุ่นใหม่ขนาด 1,254 ซีซี ที่มีการติดตั้งระบบ BMW Shiftcam ซึ่งช่วยทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น นุ่มนวลมากกว่ารุ่นเดิม และมีพละกำลังมากกว่ารุ่นเดิม ซึ่งใน BMW R 1200 GS รุ่นเดิม มีแรงม้าสูงสุด 125 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 125 นิวตันเมตร สำหรับสเป็กของรุ่นใหม่เป็นอย่างไร รับชมได้ที่ตารางนี้
ข้อมูลทางเทคนิค BMW R 1250 GSA
เครื่องยนต์
ประเภท | 2 สูบวางนอนชนิด Boxer 4 จังหวะ 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบบ ShiftCam |
ขนาดกระบอกสูบ (มม.) | 102.5 x 76 |
ความจุกระบอกสูบ | 1,254 ซีซี |
พละกำลังสูงสุด | 136 แรงม้า ที่ 7,750 รอบ / นาที |
แรงบิดสูงสุด | 143 นิวตันเมตร ที่ 6,250 รอบ / นาที |
ความเร็วสูงสุด | มากกว่า 200 กม./ชม. |
อัตราส่วนกำลังอัด | 12.5 : 1 |
ระบบเกียร์ | 6 สปีด |
ระบบขับเคลื่อน | เพลาขับเคลื่อน |
เนื่องด้วยตัวเครื่องยนต์มีการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ซึ่งมีขนาดความกว้างมากกว่ารุ่นเดิม ทำให้ตำแหน่งการยึดแครชบาร์หรือกันล้มมีการเปลี่ยนแปลงไป หากจะซื้อแคลชบาร์รุ่นเดิมจาก R 1200 GS จะเอามาติดตั้งกับ R 1250 GSA ไม่ได้
ตัวรถ
เฟรม | Two-section frame, front- and bolted on rear frame, load-bearing engine |
โช๊คหน้า | โช๊คอัพ ขนาด 37 มม. พร้อมโช๊คสปริงต้นกลาง ปรับแต่งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฟฟ้า ระยะยุบ 210 มม. |
โช๊คหลัง | โช๊คอัพสปริงเดี่ยวพร้อมซัพแท้งค์ ปรับแต่งค่าความหนืดและการยุบตัวของสปริงได้ด้วยระบบไฟฟ้า ระยะยุบ 220 มม. |
เบรคหน้า | ดิสเบรคคู่ ขนาด 305 มม. พร้อมปั้มเบรค BMW 4 พอต |
เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 276 มม. พร้อมปั้มเบรค Brembo 2 พอต |
ยางหน้า | 120/70 R19 |
ยางหลัง | 170/60 R17 |
มิติรถ
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง (มม.) | 980 x 2,270 x 1,460 |
ความสูงเบาะ | 840 - 860 มม. |
ระยะฐานล้อ | 1,504 มม. |
ความสูงจากพื้นถึงเครื่อง | 185 มม. |
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน | 268 กก. |
น้ำมันเชื้อเพลิง | 30 ลิตร |
ภาพการทำงานของเครื่องยนต์ BMW Boxer 1,250 cc Shiftcam
การขับขี่
BMW R 1250 GSA คันนี้ จัดว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน แต่แม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะดูใหญ่บึกบึน ดูเทอะทะ ทว่ากลับเป็นรถที่สามารถควบคุมได้ง่ายมากๆ เสมือนขี่รถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กเลยทีเดียว ด้วยเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ชนิด Boxer ที่จะมีศูนย์ถ่วงต่ำกว่าเครื่องยนต์สูบเรียงชนิดอื่นๆ ทำให้บาลานซ์ของรถรุ่นนี้ทำได้ดีมาก
ระบบที่ถือว่าเป็นทีเด็ดของรถคันนี้คือ การปรับความสูงของช่วงล่างด้วยไฟฟ้า ซึ่งมี 3 รูปแบบ ได้แก่ ระดับสูงสุด, ระดับต่ำสุด และแบบอัตโนมัติ ที่รถจะปรับระดับของช่วงล่างตามการรับน้ำหนักของโช๊คอัพ ซึ่งระดับความสูงต่างๆ เป็นอย่างไร ดูที่ภาพได้เลย (ให้สังเกตุที่เท้า)
ผู้ทดสอบ มีความสูงที่ 168 ซม. น้ำหนัก 68 กก.
ในส่วนของการขับขี่ทดสอบ ผมมีโอกาสอยู่กับ BMW R 1250 GSA คันนี้เป็นระยะเวลาสั้นๆ เพียง 5 วันด้วยกัน กับระยะทางแบบสบายๆ สไตล์ทัวร์ริ่งเพียง 1,000 กม. บนการใช้งานขับขี่ทั้งในเมือง และการออกทริป
BMW R 1250 GSA มีเครื่องยนต์ที่ยอดเยี่ยมมาก
เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์รุ่นใหม่ของรถคันนี้ที่ถูกติดตั้งระบบ Shiftcam เข้าไป และมีการเพิ่มพละกำลังเข้ามาอีกเล็กน้อย สิ่งที่สัมผัสได้อย่างชัดเจนนอกเหนือจากความแรงของตัวรถที่บิดติดมือมากขึ้นกว่าเดิมแล้วนั้นคือ ความนุ่มนวล ของตัวรถที่มีมาให้มากกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน นิสัยของเครื่องยนต์ที่สุภาพมากกว่ารุ่นเก่า แต่แฝงด้วยพละกำลังแรงบิดมหาศาลถึง 140 นิวตัวเมตร ที่พร้อมถ่ายทอดพละกำลังขับเคลื่อนมหาศาลผ่านเพลาขับได้อย่างนุ่มนวล อัตราเร่งของรถมีให้ใช้ตั้งแต่รอบเครื่องต้น - กลาง - ปลาย ได้อย่างไม่มีติดขัด แตกต่างจากรุ่นเดิมที่หากลากรอบเครื่องยนต์เข้าใกล้เรดไลน์มากเท่าไหร่ อัตราเร่งยิ่งหายไปมากเท่านั้น แต่ทว่าเครื่องยนต์รุ่นนี้มันให้อัตราเร่งที่ดีเยี่ยมตลอดรอบเครื่องยนต์ โดยเฉพาะช่วง 4,000 รอบขึ้นไป จะสร้างอัตราเร่งออกมาได้จัดจ้านมากๆ
ระบบเกียร์ของรถรุ่นนี้ จัดว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำมาได้ยอดเยี่ยม ด้วยระบบ BMW Quickshifter ซึ่งสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัชท์ที่ถูกปรับปรุงมาใหม่ให้มาความนุ่มนวลกว่ารุ่นที่แล้วในระดับหนึ่ง ซึ่งจุดเด่นของควิกชิพในรถคันนี้คือความเนียนในการเปลี่ยนเกียร์แต่ละเกียร์ที่รถไม่มีอาการวืด ไม่มีอาการเงียบสักแปบ คิดสักนิดก่อนเร่งความเร็วต่อ มันสามารถต่อเกียร์ได้อย่างเรียบเนียนไม่มีสะดุด ประดุจใช้เกียร์อัตโนมัติ หรือจำพวกเกียร์แบบคลัชท์คู่อย่างใดอย่างนั้น
ช่วงล่างระดับเทพที่ยากจะเลียนแบบ
ระบบช่วงล่างในรถมอเตอร์ไซค์ BMW R / GS Series จัดว่าเป็นช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมอันดับต้นๆ ของรถมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ในท้องตลาด ด้วยการติดตั้งโช๊คอัพแบบสปริงค้ำไว้ถึง 2 ต้น แบ่งเป็นด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งโดยปกติแล้วรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปจะติดตั้งเพียงโช๊คสปริงหลังเพียง 1 ต้น ส่วนคู่หน้าจะใช้เป็นโช๊คแบบตะเกียบคู่ ซึ่งระบบโช๊คแบบ GS นี่เอง มันทำให้ทุกครั้งที่มีการเบรก, การเร่ง ระยะฐานล้อของรถจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย ซึ่งทำให้เสถียรภาพของตัวรถมีความมั่นคงสูงมากกว่ารถมอเตอร์ไซค์แบบอื่นๆ จัดว่าเป็นเอกลักษณ์ของ BMW GS
การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง จัดว่าเป็นความฟินอย่างหนึ่งของการขี่มอเตอร์ไซค์ และใน GSA คันนี้เช่นกัน ช่วงล่างให้การตอบสนองต่อการเข้าโค้งที่ดีมากๆ รถมีความมั่นคงสูง เกาะยึดติดแน่นโค้งเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโค้งปกติ หรือทางขึ้น-ลงเขา ก็สามารถสนุกไปกับมันได้ ขอเพียงแค่มีเวลาไปขี่มันเท่านั้น
หากต้องการรีดประสิทธิภาพสูงสุดของ BMW R 1250 GSA เหมาะสำหรับการออกทริปเดินทางไปต่างจังหวัดเท่านั้น แต่สำหรับชาวเมืองก็อย่าได้กังวลไป แอดได้ทดสอบเป็นเวลา 1 วันเต็มๆ แล้ว พบว่า มันพอที่จะขี่ในเมืองได้อยู่ แม้น้ำหนักตัวจะมากถึง 260 กิโลกรัม แต่ทว่าด้วยการวางบาลานซ์ของตัวรถที่ต่ำมาก ทำให้การควบคุมในเมืองในย่านความเร็วต่ำ ทำได้ง่ายมาก ปัญหาเดียวของการขี่ในเมืองของรถรุ่นนี้คือ ขนาดความกว้างของเครื่องยนต์ Boxer ที่กว้างกว่ารถมอเตอร์ไซค์ชาวบ้านชาวเมือง รวมถึงช่องพิเศษสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ต่างๆ ที่ไม่ได้กว้างอะไรมากมาย ก็อาจจะก่อปัญหาให้ผู้ขับขี่ต้องกังวลใจได้
แต่หลักการเดียวที่จะทำให้การมุดในเมืองผ่านไปได้คือ "แฮนด์ผ่าน รถผ่าน" เท่านั้นเองครับ
ขี่รถ ลงเรือที่แท้ทรู
ปัญหาของ BMW R 1250 GSA
จากการทดสอบตลอด 5 วันเต็มๆ กับรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ที่สำนักทดสอบในต่างประเทศหลายสำนักยกให้เป็น King of Adventure พร้อมรางวัลการันตี Best Adventure Heavy Weight จากงาน Car & Bike of the Year 2020 จึงขอยกให้ปัญหา "หาเวลาไปขี่รถคันนี้เยอะๆ" คือปัญหาที่ใหญ่ที่สุด เพราะบอกได้เลยว่า ใครได้ลองขี่ ก็ต้องชอบและติดใจจนไม่อยากกลับบ้าน อยากขี่ไปเรื่อยๆ ชนิดที่ว่าน้ำมันไม่หมด หรือไม่โดนแดดเผาจนเกรียม จะไม่ยอมจอดรถอย่างแน่แท้
สรุป
BMW R 1250 GSA เป็นรถมอเตอร์ไซค์ทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ พิกัด 1000 ซีซีขึ้นไป ที่น่าครอบครองที่สุดในนาทีนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในท้องตลาดปัจจุบัน รวมถึงความง่ายในการขับขี่ของรถคันนี้ที่เพียงคุณมีทักษะการขับขี่มอเตอร์ไซค์แบบคลัชท์มือปกติมาบ้างก็สามารถขี่ได้แล้ว เพราะเป็นรถที่ขี่ได้ง่าย ควบคุมได้ง่าย มีช่วงล่างที่ดี แถมยังมีพละกำลังเหลือๆ รองรับทุกการเดินทางในหลากหลายรูปแบบ ด้วยค่าตัว 1,174,000 บาท ท่านที่สนใจสามารถสัมผัส พร้อมเป็นเจ้าของได้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ BMW Motorrad ทั่วประเทศครับ
รีวิว BMW R1250GSA ในรูปแบบวิดีโอ
ขอขอบคุณ BMW Group Thailand สำหรับการเอื้อเฝื้อรถทดสอบในครั้งนี้
เรื่อง: กฤตนู วิเศษไชยศรี
ภาพ: กฤตนู วิเศษไชยศรี
อ่านรีวิว BMW S 1000 RR ได้ที่นี่
อ่านรีวิว BMW C 400 GT และ BMW C 400 X ได้ที่นี่
อ่านรีวิว BMW R 1200 GS Rally ได้ที่นี่
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น