ยามาฮ่า คว้ารางวัลแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับ 1 จากการจัดลำดับสุดยอดแบรนด์ทรงพลัง บนโซเชียลมีเดีย 2019 (Thailand’s Most Social Power Brand 2019) ในหมวด “Motorcycle” พร้อมการันตีอีก 3 รางวัลทางด้านเว็บไซต์จากประเทศสหรัฐอเมริกา
รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ถูกจัดให้เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับ 1 จากการจัดลำดับสุดยอดแบรนด์ทรงพลังบนโซเชียลมีเดีย 2019 (Thailand’s Most Social Power Brand 2019) ในหมวด “Motorcycle” ซึ่งเป็นการจัดอันดับโดยวัดผลการมีปฏิสัมพันธ์ที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์หรือ Brand Engagement
เป็นความร่วมมือระหว่างนิตยสาร BrandAge และ บริษัท ไวซ์ไซท์ ซึ่งเป็นผู้นำการวิเคราะห์ข้อมูลบนโลกโซเชียลคลอบคลุมทุก Platform หลัก ได้แก่ Facebook, YouTube, Twitter และ Instagram เพื่อเป็นมาตรฐานในการวัดความสามารถของแบรนด์บนโซเชียลมีเดียในแต่ละภาคธุรกิจ
ซึ่งคะแนนในหมวด Motorcycle นั้น Yamaha ถูกจัดให้เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับ 1 บนโซเชียลปี 2019 ทั้งนี้ผลการจัดอันดับ Thailand’s Most Social Power Brand 2019 เป็นการจัดอันดับผ่าน Zocial Metric โดยครอบคลุม Platform ทั้ง 4 ช่องทาง ได้แก่ Facebook YouTube Twitter และ Instagram เพื่อเป็นมาตรฐานในการวัดความสามารถของแบรนด์บนโซเชียลมีเดียในแต่ละภาคธุรกิจ
สามารถดูข้อมูลเกณฑ์การตัดสิน และการจัดลำดับในหมวดอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมได้จากช่องทางออนไลน์ดังนี้
- เว็บไซต์ www.brandage.com นิตยสาร BrandAge
- ผลสำรวจสุดยอดแบรนด์ ทรงพลังบนโซเชียลมีเดีย 2019 http://www.brandage.com/article/14257/
- บทความเจาะกลยุทธ์ออนไลน์ยามาฮ่าคว้ารางวัลThailand'sMost Social Power Brand 2019 http://www.brandage.com/article/14108/
เกณฑ์การวัดผล Thailand’s Most Social Power Brand “สุดยอดแบรนด์ ทรงพลังบนโซเชียลมีเดีย 2019” วัดผลใน 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter และ YouTube ในมุมมองหลากหลายปัจจัย ประกอบไปด้วยเกณฑ์ทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่
1. Fan วัดปริมาณการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้ติดตาม
2. Fan Growth วัดประสิทธิภาพการเพิ่มขึ้นของจานวนกลุ่มเป้าหมาย
3. Interaction วัดประสิทธิภาพหรือความสนใจต่อเนื้อหา
4. Sharing วัดระดับการกระจายเนื้อหาผ่านปริมาณการแชร์บนโซเชียลมีเดีย
5. Sentiment วัดความรู้สึกและความนึกคิดที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์ ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียของแบรนด์
6. Voice วัดค่าคนที่พูดถึงแบรนด์
ในส่วนของแพลตฟอร์ม ให้ความสาคัญกับช่องทาง Facebook, YouTube, Twitter และ Instagram ตามลาดับ โดยแต่ละแพลตฟอร์ม ก็จะถูกใช้เกณฑ์ทั้ง 6 ด้าน ที่แตกต่างกันออกไป
- Facebook ตัดเรื่องของ Fan, Fan Growth และ Voice ออก และหันมาให้ความสาคัญกับ Interaction, Sharing และ Sentiment เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มหลักที่มีผู้ใช้งานมาก ตัวชี้ทั้ง 3 เรื่องที่หยิบมาจึงมีความสาคัญมากกว่ายอด LIKE ที่มีมากแต่ไม่มีประสิทธิภาพในการสื่อสารและใช้งาน
- Twitter ตัดเกณฑ์ Fan Growth และใช้เกณฑ์ที่เหลืออีก 5 เกณฑ์ครบทุกตัว
- Instagram หยิบเอาเกณฑ์ในเรื่องของ Fan, Fan Growth, และ Interaction มาวัดผล
- Youtube ได้เลือกเอา Fan, Interaction และ Sharing มาเป็นเกณฑ์
นอกจากนี้ยามาฮ่ายังได้รับอีก 3 รางวัลทางด้านเว็บไซต์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่
- รางวัล Best Automobile Website จากงาน Web Award 2018 https://www.webaward.org/winner/34325/mirum-thailand-co-ltd-wins-2018-webaward-for-thai-yamaha-motor-website.html#.XaaLPFUzbIW
- รางวัล Award of Distinction หมวด Webstie – General – Automotive จากงาน Communicator Awards 2018 https://www.communicatorawards.com/winners/list/?event=1018&category=40&award=9&_p=9
- รางวัล Award of Distinction หมวด Online Advertising – Microsite QBIX Society จากงาน Communicator Awards 2018 https://www.communicatorawards.com/winners/list/?event=1018&category=42&award=9&_p=2
สรวงสุดา มนัสบุญเพิ่มพูล ผู้จัดการทั่วไปอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดกลุ่มรถออโตเมติก และตราสินค้า บริหารลูกค้าสัมพันธ์ ประชาสัมพันธ์ และสื่อดิจิทัล บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ กล่าวว่า ทางยามาฮ่าได้รับรางวัลทางด้านออนไลน์ มีเว็บไซต์ที่ทรงพลังอันดับ 1 ของโลก จากการเก็บข้อมูลโดยสหรัฐอเมริกา รวมถึงรางวัล Most Social Power จาก BrandAge ที่เก็บข้อมูลจากผู้ใช้จริง ซึ่งหมายถึงแบรนด์ที่มีพลังทางด้านออนไลน์มากที่สุด
คอนเซ็ปต์ของยามาฮ่าในขณะนี้คืออาศัยโครงสร้างในการสร้างแบรนด์เป็นหลักเดียวกัน โดยยึดหลักปรัชญา "คันโดะ" ซึ่งหมายถึง "ความพึงพอใจที่เหนือความคาดหมาย" โดยยกตัวอย่างว่า การซื้อมอเตอร์ไซค์ ต้องไม่ได้แค่มอเตอร์ไซค์อย่างเดียว ลูกค้าต้องได้มากกว่านั้น ถ้าซื้อมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า สำหรับโลกออนไลน์ก็เช่นกัน
5 อัตลักษณ์ที่เป็นวิถีของยามาฮ่าในการสร้างแบรนด์ ที่นำมาประยุกต์ใช้ในโลกออนไลน์
Innovation นวัตกรรม คอนเท้นท์ ต้องทันสมัย น่าสนใจ ไม่เก่า เป็นความรู้ใหม่ให้ลูกค้า
Excitement มีความเร้าใจ ไม่ใช่ว่าลงแต่รถแข่ง แต่เรื่องราวที่น่าสนใจ เรื่องราวที่เหลือเชื่อ ก็สร้างความเร้าใจได้เช่นกัน
Emotion สร้างความรู้สึกว่าเราพูดภาษาเดียวกัน สื่อสารออกไปยังไบค์เกอร์ในแบบไบค์เกอร์ ไม่ใช่คำพูดที่บริษัทบอก แต่เป็นเรื่องราวที่ไบค์เกอร์สื่อถึงกันได้อย่างเข้าใจ ตรงกลุ่มเป้าหมาย
Confidence สร้างความมั่นใจ ข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในยามาฮ่าแชนแนล ต้องถูกต้อง เชื่อถือได้ ไม่มีข่าวปลอม ให้ผู้ใช้รู้สึกว่า ถ้าเชื่อข่าวไหนไม่ได้ ให้มาดูที่ยามาฮ่า
Ties สร้างความผูกพันให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าดูเว็บไซต์ เมื่อลูกค้าซื้อรถ แล้วไม่จบแค่นั้น จะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ทำร่วมกัน ไม่ว่าจะเกี่ยวกับมอเตอร์ไซค์หรือไม่ก็ตาม เพื่อให้เกิดความผูกพันและลูกค้าอยากกลับมาอีก
นอกจากนี้ ยามาฮ่ายังมีกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยสร้าง ช่วยซ่อมแซมโรงเรียนและโรงพยาบาล บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิต่างๆ ทำกิจกรรมสระผมให้ผู้ป่วยที่โรงพยาบาล การรณรงค์ด้านความปลอดภัย แจกหมวกกันน็อค ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นการสร้างความผูกพันกับลูกค้าอีกแบบหนึ่ง
และในอนาคต เมื่อเทคโนโลยี 5G มาถึง การตอบสนองทางออนไลน์จะยิ่งก้าวหน้าขึ้นไปอีก จากทุกวันนี้ที่ยามาฮ่าเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์ในโลกออนไลน์อยู่แล้ว ก็จะมีการพัฒนาช่องทางการเข้าถึงของลูกค้าที่มากขึ้น ไม่หยุดอยู่เพียงช่องทางเดิมๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกใช้ช่องทางที่ตนเองสะดวกที่สุด
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
LINE
ความคิดเห็น