MEA ร่วมมือ เดลต้า ลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาแอปพลิเคชั่น ช่วยผู้ใช้งาน MEA EV application สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้าในไทยได้สะดวกขึ้น
MEA EV application
การลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งาน MEA EV application สามารถเข้าถึงเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้าในประเทศไทยได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเดลต้าได้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charger) และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charger) ในสถานที่สาธารณะหลายแห่งทั่วประเทศไทย
รวมถึงร้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ นิคมอุตสาหกรรม สำนักงาน สถาบัน และศูนย์การศึกษาต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้งาน MEA EV application สามารถค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าการจองหัวชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ พร้อมควบคุมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชันทันที
ทั้งนี้ ยังมีการชำระเงินค่าบริการด้วยสมาร์ทโฟนได้ทั่วประเทศ การแจ้งข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน รวมถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคต โดยสามารถดาวน์โหลด MEA EV application ทั้งในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ได้ที่ https://goo.gl/F6C5bV
นอกจากนี้ MEA และเดลต้า จะทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลเครื่องอัดประจุไฟฟ้าตามสถานที่สาธารณะและโซลูชันการจัดการของเดลต้าจากเซิร์ฟเวอร์ของ MEA (ตามมาตรฐาน OCPP) ไปยัง MEA EV เพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
วีรวัจน์ บัวทอง รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA กล่าวว่า การเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้ากับเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้าของ MEA การพัฒนา MEA EV application อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าที่บ้านหรือสำนักงาน การเลือกใช้อุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้าแบบต่าง ๆ และการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างประหยัดและปลอดภัย โดย MEA เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านระบบไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าของเดลต้าอีกด้วย
เซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในปีนี้ทางเดลต้าจะติดตั้งจุดชาร์จเครื่องอัดประจุไฟฟ้าของเดลต้าเพิ่มขึ้นอีก 40-50 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะติดตั้งเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ขึ้นกับ 4 ปัจจัย ได้แก่ นโยบายภาครัฐ ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ราคา และมีปริมาณความต้องการใช้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
“ขณะนี้ราคารถยนต์ไฟฟ้าสูงกว่าความเป็นจริงอยู่นิดหน่อย แต่ในอนาคตหากรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกลง สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ จะช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ลงทุนเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ และส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับปริมาณความต้องการใช้ในอนาคตเพิ่มขึ้นด้วย”
ความร่วมมือกันในครั้งนี้ MEA และเดลต้ามุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ภายในประเทศไทยหันมาเลือกใช้การคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายการส่งเสริมให้ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle : BEV) ของรัฐบาลไทย และการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) ของคนไทย รวมถึงส่งเสริมการผลิต การวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ ตามแผนงานด้านพลังงานของรัฐบาลที่ตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคัน (รวม PHEV และ BEV) วิ่งบนท้องถนนภายในปี พ.ศ. 2579
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น