น้ำมันเครื่อง เลือกอย่างไร

เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่าตัวเลขที่อบู่บนแกลลอนน้ำมันเครื่อง หมายความว่าอย่างไร และ น้ำมันเครื่อง เลือกอย่างไร เพื่อให้เหมาะสมกับรถของเรา

น้ำมันเครื่อง เลือกอย่างไร

ในบทความนี้เรามาทำความรู้จักกับตัวเลขเบอร์น้ำมันเครื่อง และประเภทของน้ำมันเครื่องกันครับ
การเลือกใช้น้ำมันหล่อลื่น นอกเหนือจากประเภทของน้ำมันหล่อลื่นแล้ว ค่าความหนืดของน้ำมันหล่อลื่นก็สำคัญเช่นกัน สามารถดูได้จากข้างแกลลอน ซึ่งจะระบุตัวเลขค่าความหนืดเอาไว้ วิธีดูง่ายๆก็คือ

ตัวเลขที่อยู่หน้าอักษรภาษาอังกฤษ W ก็คือ ค่าความหนืดในอุณหภูมิต่ำ ตัวเลขยิ่งน้อย ยิ่งทนสภาพอากาศหนาวได้ดี (ประเทศไทยไม่มีอากาศถึงขั้นติดลบ ดังนั้นสามารถใช้ได้ตั้งแต่ 0W จนถึง 20W)

ตัวเลข2ตัวหลังที่อยู่หลังอักษร W ก็คือ ค่าความหนืดในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน ตัวเลขยิ่งมาก ความหนืดยิ่งเยอะ (การเลือกค่าความหนืดที่เหมาะสม ควรใช้ตามค่ากำหนดในคู่มือการใช้รถ)

ประเภทของน้ำมันหล่อลื่น

ปัจจุบัน น้ำมันหล่อลื่นที่ขายในท้องตลาดจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ

1. น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ 100% (Fully Synthetic) มีคุณสมบัติช่วยเสริมสมรรถนะเครื่องยนต์ สามารถทนความร้อนได้ดี ไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นบ่อย เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ไปจนถึงเครื่องยนต์ที่ใช้งานหนัก ลากรอบสูงบ่อยๆ เช่นรถแข่ง อายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000 – 15,000 กิโลเมตร
2. น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic) คุณสมบัติจะรองมาจากน้ำมันหล่อลื่นแบบสังเคราะห์ เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วไป อายุการใช้งานอยู่ที่ 7,000 – 10,000 กิโลเมตร
3. น้ำมันหล่อลื่นเกรดธรรมดา (Mineral) จะเป็นน้ำมันหล่อลื่นที่มีราคาถูก เพราะผลิตจากน้ำมันดิบ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปแบบเท้าไม่หนักมาก ไม่ขับลากรอบสูงๆบ่อย อายุการใช้งานอยู่ที่ 3,000 – 5,000 กิโลเมตร

เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งต่อไป ก็อย่าลืมสังเกตเบอร์น้ำมันเครื่อง และชนิดของน้ำมันเครื่องกันด้วยนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความต่อไปครับ

เช็กราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่

มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่