Royal Enfield Tour of Thailand 2020 ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเปิดหู เปิดตา มุมใหม่ๆ ของเมืองไทย Share this
รีวิวมอเตอร์ไซค์
โหมดการอ่าน

Royal Enfield Tour of Thailand 2020 ขี่มอเตอร์ไซค์ไปเปิดหู เปิดตา มุมใหม่ๆ ของเมืองไทย

Paknam536
โดย Paknam536
โพสต์เมื่อ 13 February 2563

Royal Enfield Tour of Thailand 2020 ทริปขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ 6 วัน สุดมันส์ กว่า 1,600 กิโลเมตรจากกรุงเทพสู่เชียงราย ผ่านขุนเขาอันสวยงาม พร้อมพาเปิดเส้นทางใหม่ๆ ที่นักขี่ต้องลองสัมผัสสักครั้ง


 

Tour of Thailand 2020 ทริปมอเตอร์ไซค์ที่เน้นเรื่องราวการเดินทาง

หากท่านมั่นใจว่า ท่านคือนักขี่มอเตอร์ไซค์ตัวยง ต้องไม่พลาดทริป Royal Enfield Tour of Thailand สักครั้งหนึ่ง เนื่องด้วยเป็นทริปขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทางไกลที่จะมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากทั่วโลก ร่วมขับขี่พร้อมกันตั้งแต่กรุงเทพมหานครจนถึงจุดหมายปลายทาง โดยในปีนี้กับทริป Tour of Thailand 2020 จะใช้เส้นทางขับขี่จากกรุงเทพมหานคร ปลายทางที่จังหวัดเชียงราย แต่ทว่าหากขับขี่เส้นทางกรุงเทพ - เชียงราย ใครๆ ก็อาจจะบอกว่า วันเดียวก็ถึงแล้ว ทำไมขี่ต้อง 6 วัน? นั่นแหละครับคือสิ่งที่ท่านต้องมาร่วมค้นหาคำตอบด้วยกัน ว่าทำไมถึงขี่ไปได้ถึง 6 วัน ระยะทางรวมกว่า 1,600 กิโลเมตร....

สำหรับทริป Tour of Thailand 2020 นี้ ทาง Autospinn มีโอกาสได้เข้าร่วมทริปในครั้งนี้ด้วย โดยเราได้ใช้รถจักรยานยนต์ Royal Enfield Interceptor 650 เป็นพาหนะคู่ใจที่จะออกเดินทางไปด้วยกันตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางตลอด 6 วัน ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเคยขี่รถรุ่นนี้ แต่ผมเคยบินข้ามทวีป ไปขี่ทดสอบรถรุ่นนี้ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในโลกไปแล้วครั้งหนึ่ง ที่เมืองซานตา ครูซ รัฐแคลิฟอเนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา อ่านบทความได้ที่นี่

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมาออกทริปกับค่าย Royal Enfield เพราะก่อนหน้านี้เมื่อกลางปีที่แล้ว ผมมีโอกาสไปเปิดประสบการณ์ที่สุดของชีวิตที่ Leh Ladakh มาเรียบร้อยแล้ว กับทริป Royal Enfield Moto Himalaya 2019 อ่านบทความได้ที่นี่

 

 

วันที่ 1 จากกรุงเทพฟ้าอมร ไปสูดอากาศเย็นๆ ที่เขาค้อ

ในวันแรกของ Tour of Thailand 2020 เราเริ่มต้นขับขี่มอเตอร์ไซค์จากกรุงเทพมหานครชั้นใน มุ่งหน้าไปยังวัดพระแก้ว ก่อนจะไปถ่ายภาพที่เสาชิงช้า จากนั้นซัดยาวๆ ไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ผ่านทางจังหวัดสระบุรีไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 21 โดยมีปลายทางที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

ตลอดเส้นทางจากกรุงเทพมหานคร ต้องประสบกับการจราจรอันแสนจะติดขัดเสียจริง ทว่ารถที่เราขับขี่มันคือเจ้า Royal Enfield Interceptor 650 ที่ขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมที่ง่ายดายเป็นอย่างมาก แถมยังมีพละกำลังเหลือเฝือในการเร่งแซงได้อย่างสบายๆ และยังมีความคล่องตัวสูงกว่าใคร ทำให้ตลอดเส้นทางนั้นแม้ว่าจะไกลสักนิด แต่ก็กลายเป็นเรื่องสนุกไป

 

และเมื่อเดินทางเข้าสู่โซนทางเข้าอำเภอเขาค้อ อากาศกลับเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อ มวลอากาศเย็นไหลผ่านเสื้อการ์ดของผู้ขับขี่ทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เย็นจริง" เพราะตลอดเส้นทางที่ขี่มาจากกรุงเทพค่อนข้าง "ร้อนเอาการ" แต่เมื่อเข้าสู่โซนเขาค้อปุ้บ อากาศเย็นๆ ก็ผ่านผิวหนังของเราให้ได้สดชื่นตลอดเส้นทาง ก่อนจะไปจบวันกันที่ทุ่งกังหันลมเขาค้อ ไปถ่ายภาพตะวันตกดินร่วมกันอย่างงดงาม ก่อนที่จะเข้าพักผ่อน ณ โรงแรม เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่การขับขี่ในวันถัดไป

 

 

วันที่ 2 จากเขาค้อ สู่อุตรดิตถ์

วันที่ 2 ของ Tour of Thailand 2020 เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเส้นทางไฮไลท์ของวันนี้คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 หรือ Route 12 ที่เหล่าไบเกอร์ต่างรู้มือกันดี ไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มากความ เพราะมันคือถนนที่มีทัศนียภาพกับเส้นทางสวยเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทยแล้ว ซึ่งนอกจากความสวยของเส้นทางนี้ ยังสามารถทำความเร็วได้สูงถูกใจนักขับขี่จากทั่วโลก ให้ได้เสพทั้งความเร็ว และโค้งกันตลอดเส้นทาง ก่อนจะไปพักผ่อนตามอัธยาศัยกันที่จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยในวันนี้เราใช้เวลาการขับขี่เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น เนื่องจากระยะทางค่อนข้างใกล้

ทว่าระยะทางที่ใกล้นี่แหละ เพื่อส่งให้ทุกท่านพักผ่อนให้เพียงพอ สำหรับเตรียมตัวกับการเดินทางอันแสนดุเดือดในวันถัดไป....

 

 

วันที่ 3 จากอุตรดิตถ์ สู่น่าน

วันที่ 3 ของ Tour of Thailand โปรแกรมการเดินทางในวันนี้เราจะเดินทางกันสู่จังหวัดน่าน ซึ่งหากขับขี่ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 "มันธรรมดาเกินไป" ไม่ใช่สไตล์ของ Royal Enfield อย่างแน่แท้ ทำให้เส้นทางวันนี้จัดเซอร์ไพรซ์ให้กับทุกคนด้วยการนำรถมอเตอร์ไซค์ขึ้น "ล่องแพขนานยนต์" ข้ามเขื่อนสิริกิติ์ เพื่อมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านประมงปากนาย จังหวัดน่าน

 

 

หลังจากที่ขับขี่กันมาตลอดทั้งวัน เรามาพักทานอาหารกันที่หมู่บ้านประมงปากนาย ที่นี่มีเมนูเกี่ยวกับปลาจัดเต็มจริงๆ ซึ่งปลาที่นี่สดมากๆ ท่านใดที่ชื่นชอบทานปลา ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันกันแล้ว เราขับขี่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองน่านกันแบบสบายๆ กับเส้นทางคดเคี้ยวที่สวยงาม ขี่ง่าย ถนนคุณภาพสูงมาก ไม่มีพังทลาย เพราะไม่ใช่เส้นทางสัญจรของรถบรรทุกต่างๆ ทำให้เส้นทางที่ขับผ่านมานั้นฟินสุดๆ จากแพขนานยนต์ถึงเมืองน่านเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่ไบเกอร์ต้องลองสัมผัสสักครั้ง

 

 

วันที่ 4 จากน่าน แวะชมบ่อเกลือ ก่อนไปพักที่ปัว

ในวันที่ 4 ของ Tour of Thailand 2020 หากเรากดดูแผนที่จากจังหวัดน่านไปยังอำเภอปัวก็มิได้ไกลนักสักเท่าไหร่ แต่ทริปนี้เรามาเพื่อขี่มอเตอร์ไซค์จริงๆ เส้นทางจึงจัดให้ขับขี่จากอำเภอเมือง วิ่งไปตามเส้นทางของอุทยานแห่งชาติดอยภูคาซึ่งมีเส้นทางที่สวยงาม ทัศนียภาพที่สุดยอด และถนนที่คุณภาพดี ทำให้ตลอดเส้นทางนั้นเราสามารถทำเร็วได้สูงตลอดเส้นทาง ก่อนจะไปพักเบรกสักครู่ที่บ่อเกลือโบราณ และวิ่งยาวๆ ขึ้นไปยังถนนลอยฟ้าสาย 1081 ก่อนจะแวะพักเหนื่อยกันที่ร้านกาแฟ ชมวิวสวยๆ จากนั้นวิ่งยาวๆ ไปยังอำเภอปัว เพื่อพักผ่อนท่ามกลางอากาศอันแสนหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาวของภาคเหนือ โดยเราต้องเก็บแรงไว้สำหรับการขับขี่ในวันพรุ่งนี้ ที่จะต้องขี่ข้ามเทือกเขาจากฝั่งจังหวัดน่าน ไปยังอำเภอเชียงของ

 

 

วันที่ 5 จากปัว สู่เชียงของ

ในวันที่ 5 ของ Tour of Thailand 2020 เราออกเดินทางกันแต่เช้าจากอำเภอปัว มุ่งหน้าไปยังอำเภอเชียงของ โดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1148 ผ่านภูลังกา ซึ่งเส้นทางช่วงนี้มีความคดเคี้ยวสูงมาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใดๆ เพราะเรามากับ Royal Enfield Interceptor 650 ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของความคล่องตัวที่มีสูงมาก และพละกำลังที่เหลือเฝือ ทำให้ตลอดเส้นทางนี้เราสามารถผ่านมาได้อย่างง่ายดายตลอดจนถึงปลายทางที่อำเภอเชียงของ โดยเราเข้าพักกันริมฝั่งแม่น้ำโขงกันเลยทีเดียว

 

 

วันที่ 6 จากเชียงของ สู่ปลายทาง "เชียงราย"

ในวันสุดท้ายของการเดินทางของทริป Tour of Thailand 2020 เราออกสตาร์ทกันสายหน่อย เนื่องจากระยะทางวันนี้ไม่ได้ไกลมากแล้ว แต่ไฮไลท์ของเส้นทางนี้ก็คือเส้นทางส่วนใหญ่จะลัดเลาะเลียบแม่น้ำโขงไปเกือบตลอดเส้นทาง โดยฝั่งตรงข้ามน้ำโขงนั่นคือประเทศลาวแล้ว และไฮไลท์อีกจุดหนึ่งของเส้นทางนี้คือจุดเช็คอินสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นจุดที่บรรจบกันระหว่างประเทศไทย, พม่า และลาว สามารถมองวิวได้แบบ 360 องศาของ 3 ประเทศได้เลย

 

 

หลังจากสามเหลี่ยมทองคำ เรามุ่งหน้าไปยังจุดเหนือสุดของประเทศไทย กับชายแดนแม่สาย จังหวัดเชียงราย ถ่ายภาพร่วมกันสักเล็กน้อย ก่อนจะมุ่งหน้าขึ้นไปจิบกาแฟกันเบาๆ ณ ดอยแม่สลอง และย้อนกลับเข้ามาในเมืองเชียงราย เป็นอันจบทริปนี้ ด้วยระยะทางรวมกว่า 1,600 กิโลเมตร

 

 

โดยสรุปแล้ว สำหรับทริป Royal Enfield Tour of Thailand 2020 เป็นทริปที่เหมาะสำหรับนักขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ชื่นชอบการเสพเส้นทางการขับขี่ใหม่ๆ, บรรยากาศของสองข้างทางที่เปลี่ยนไปตลอดเส้นทาง และที่สำคัญคือมิตรภาพใหม่ๆ จากคนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกันชนิดที่ว่าไม่มีกำแพงเรื่องของภาษามาขวางกั้น แต่เราพูดคุยกันด้วยภาษาของ "มิตรภาพ" ที่พร้อมจะอยู่กับเราไปตลอดกาล

ขอขอบคุณ Royal Enfield Thailand สำหรับทริปการเดินทางสุดพิเศษในครั้งนี้

บทความโดย กฤตนู วิเศษไชยศรี

 

อ่านรีวิว Royal Enfield Interceptor 650 ได้ที่นี่
อ่านรีวิว Royal Enfield Continental GT 650 ได้ที่นี่
อ่านบทความทริป Royal Enfield Moto Himalaya ได้ที่นี่

 

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่

มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ