รีวิว ขับทดสอบ Ford Ranger Raptor 2020 ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ บนเส้นทางทะเลทราย ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาพเส้นทางออฟโรดหรือทางเรียบ
รีวิว Ford Ranger Raptor 2020
Ford Ranger Raptor 2020 ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กับการทดสอบอีกครั้ง โดย ฟอร์ด ประเทศไทย ร่วมผจญภัยกับเส้นทางสุดท้าทายในประเทศเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน กิจกรรมนี้กับบรรยากาศอันสวยงามตระการตาตั้งแต่เมืองดาลัดต่อด้วยความสวยงามของมุยเน่ เมืองรีสอร์ตบนชายฝั่งทะเล ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเวียดนาม ภายใต้ธีม Ranger Raptor: Arabian in Mui Ne
เดินทางไปกับ Ford Ranger Raptor 2020
การเดินทางไปกับ Ford Ranger Raptor ในครั้งนี้ มาไกลถึงเวียดนามที่มีภูมิประเทศอันหลากหลาย และทางทีมงาน ฟอร์ดได้จัดเตรียมรถ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ไว้ทั้ง 2 รุ่น คือรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ปี 2020 สิ่งแตกต่างที่เด่นชัดกว่ารุ่นเดิมคือ ลายสติ๊กเกอร์รอบรถหายไป ไฟฟ้าLEDเต็มระบบ และเมนูแสดงผลหน้าจอเป็นภาษาไทย
สิ่งที่โดดเด่นสำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 2020 ด้วยดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ (Ford Performance) ใช้โช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ FOX เพื่อซับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง อีกทั้งช่วงล่างที่ถูกยกสูงขึ้นและระยะช่วงล้อที่กว้างขึ้น มุมไต่และมุมจากเพิ่มขึ้น จึงช่วยเรื่องการทรงตัว ทำให้ขับขี่ออฟโรดขั้นสุดได้อย่างมั่นใจ
ระบบกันสะเทือนหลังแบบใหม่รวมถึงระบบวัตต์ลิงค์และสปริงคอยล์โอเวอร์ช็อคทำให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง จึงช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
ระบบส่งกำลัง Ford Ranger Raptor 2020
เครื่องยนต์ Ford Ranger Raptor 2020 แบบ Bi-Turbo (เทอร์โบคู่) ขนาด 2.0 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ได้รับการพิสูจน์ความทนทานจากการทดสอบที่ยาวนาน มอบแรงบิดและแรงม้าที่เต็มประสิทธิภาพด้วยเทอร์โบ 2 ลูกและอัตราทดเกียร์ที่แคบลง ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
เริ่มการเดินทาง
เริ่มการเดินทางในวันแรก หลังจากลงเครื่องที่เมืองดาลัด เมืองแห่งการปลูกดอกไม้ อากาศที่ดี ผ่านตัวเมืองแต่ต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมากด้วยรถที่ใช้ในการทดสอบเป็นพวงมาลัยขวา แต่ถนนในประเทศเวียดนามวิ่งด้านขวาเช่นกันทำให้เวลาแซงต้องให้คนนั่งด้านข้างช่วยดู สำคัญที่สุดสำหรับประเทศเวียดนามเราต้องกดแตรก่อนแซงทุกครั้งเพื่อเป็นการบอกก่อนแซง เดินทางมานอกเมืองดาลัด อย่างจุดชมวิวโด่ย ก่อ ฮอง (Doi Co Hong) กับทัศนียภาพของป่าสนที่สวยงามแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ของดาลัด ไปจนถึงเส้นทางออฟโรดสุดท้าทาย
สำหรับสถานีต่างๆทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อให้ได้ทดสอบระบบต่างๆของ แร็พเตอร์ ด้วยระบบ Terrain Management System (TMS) โหมดการขับขี่อันล้ำสมัยถึง 6 รูปแบบ
โหมดการขับขี่ทางเรียบ
- โหมดปกติ – เน้นความสบาย นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน
- โหมดสปอร์ต – ตอบโจทย์ผู้ที่มีใจรักการขับขี่ทางเรียบ เน้นการเปลี่ยนเกียร์เร็วและฉับไวในขณะที่รอบเครื่องสูง พร้อมทั้งค้างรอบเครื่องสูงไว้เพื่อให้การตอบสนองคันเร่งที่ดีขึ้นอย่างที่ผู้ขับขี่ต้องการ
โหมดการขับขี่ออฟโรด
- โหมดหญ้า/กรวดหิน/หิมะ – ออกแบบมาให้ขับขี่บนทางออฟโรดที่มีพื้นผิวลื่นและเป็นหลุมบ่อ โดยระบบจะทำการเปลี่ยนเกียร์อย่างนุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดอัตราการลื่นไถลของล้อรถ
- โหมดโคลน/ทราย – ระบบจะปรับการตอบสนองของระบบควบคุมการลื่นไถลให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีความลึกและสามารถเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างพื้นทรายและโคลน ด้วยการใช้เกียร์ต่ำที่มีแรงบิดสูง
- โหมดหิน – ใช้เมื่อขับขี่บนพื้นผิวในเขตภูเขาที่ลาดชัน ต้องใช้ความเร็วต่ำ และเน้นการควบคุมรถให้ขับเคลื่อนอย่างช้าๆ
- โหมดบาฮา – ระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูงเสมือนนักแข่งแรลลี่กลางทะเลทรายบาฮาอันเลื่องชื่อ โดยระบบป้องกันล้อหมุนฟรีจะถูกตัดการทำงาน เพื่อไม่ให้แทรกแซงการทำงานของเครื่องยนต์ รวมทั้งเกียร์จะถูกปรับให้มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด ระบบจะค้างรอบเครื่องไว้นานขึ้นและเปลี่ยนเกียร์ลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
การขับขี่ที่หลากหลายของ Ford Ranger Raptor 2020 ลุยทุกสภาพพื้นผิวอันสมบุกสมบัน กับโหมดบาฮา บนเส้นทางทรายและสภาพแวดล้อมที่เป็นทรายซึ่งทั้งลื่นและขรุขระ โดยระบบจะปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่ออฟโรดด้วยความเร็วสูง ระหว่างทางไปยังจุดชมวิว โด่ย ก่อ ฮอง
คาราวาน ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 2020 ยังได้ทดสอบระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา Hill Descent Control ซึ่งมีหน้าที่ปรับความดันเบรกอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยในการควบคุมการลื่นไหลและรักษาความเร็วให้คงที่เมื่อขับขี่ลงทางลาดชัน และยังสามารถควบคุมความเร็วได้เพียงปลายนิ้วเพียงกดปุ่มที่พวงมาลัยก็สามารถเพิ่มหรือลดความเร็วในการลงทางลาดชันได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ทดสอบระบบกันสะเทือนที่พัฒนามาเพื่อสามารถรองรับการขับขี่ความเร็วสูงของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ 2020 โดยมีโช้คอัพคู่ด้านหน้าและหลังของ Fox ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการพิชิตทุกเส้นทางหฤโหด ถึงแม้จะขับขี่ด้วยความเร็วสูงอยู่ก็ตาม
ในขณะที่ช่วยเรื่องการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่เพิ่มแรงต้านเมื่อมีการกระแทกเต็มช่วงยุบกระบอกสูบ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดให้ดียิ่งขึ้น ไปพร้อมกับช่วยให้เพลาเคลื่อนที่อย่างมั่นคง ทำให้สื่อมวลชนสามารถลุยฝ่าเส้นทางที่ขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือแม้กระทั่งเส้นทางอันท้าทายไปได้อย่างนิ่มนวล
ถึงแม้ว่าเส้นทางจะลื่นและขรุขระ แต่ด้วยระบบล็อคเฟืองท้ายไฟฟ้าของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ส่งมอบแรงบิดเครื่องยนต์เต็มกำลังไปยังล้อหลังทั้ง 2 ล้อถึงแม้ว่าล้อใดล้อหนึ่งจะไม่ได้อยู่บนพื้นก็ตาม โดยระหว่างการขับขี่บนเส้นทางด่านสุดท้ายของกิจกรรมวันแรก สื่อมวลชนได้ทดสอบโหมดกรวด ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้นพร้อมทั้งออกตัวด้วยเกียร์ที่สอง ลดโอกาสการลื่นไถลของล้อรถให้น้อยที่สุด ทั้งยังมอบความปลอดภัยและความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่ทั้งลื่นและพื้นผิวไม่เท่ากัน
Ford Ranger Raptor 2020 มุ่งหน้าไปยังเมืองมุยเน่
ในวันต่อมา คาราวาน เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองมุยเน่ ด้วยระยะทางประมาณ 205 กิโลเมตร ถึงแม้จะต้องเดินทางไกล แต่ด้วยเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่อย่างระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ฟีเจอร์ใหม่ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทำให้การขับรถระยะไกลเป็นไปได้อย่างผ่อนคลายยิ่งขึ้น ถึงแม้จะเจอสิ่งรบกวนบ้างก็ตาม
นอกจากนี้ ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน (AEB) ยังช่วยเหลือผู้ขับขี่เมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่มีการจราจรพลุกพล่าน และคลาคล่ำไปด้วยมอเตอร์ไซค์ในเวียดนาม
เดินทางถึง ทะเลทรายขาวมุยเน่ หรือ White Sand Dunes ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของเวียดนาม สื่อมวลชนได้ทดสอบสมรรถนะของ เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยการใช้ โหมดทราย ในการขับรถในทะเลทรายที่ทั้งลึกและยวบ ข้ามภูมิทัศน์อันแห้งแล้งของสิ่งมหัศจรรย์ทางภูมิศาสตร์ของที่นี่ ซึ่งระบบ TMS ของ Ford Ranger Raptor 2020 ให้การตอบสนองของรถ เพื่อป้องกันการลื่นไถลและรักษาโมเมนตัมที่ดีที่สุดด้วยการรักษาเกียร์ต่ำและแรงบิดให้อยู่ในระดับสูง
ปิดท้ายด้วยประสิทธิภาพของ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาพเส้นทางออฟโรดหรือทางเรียบได้ดี การเดินทางในครั้งนี้กับ Ford Ranger Raptor 2020 แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีของตัวรถซึ่งทำให้ง่ายต่อการควบคุมและเกิดความปลอดภัย รถกระบะขับขี่ทั่วไปขับในสภาวะต่างๆนี้ได้ไหมขับได้แต่ แร็พเตอร์ขับได้ง่ายกว่า จึงไปแปลกใจสำหรับแฟน แร็พเตอร์ ที่ชอบขับใช้งานในทุกวันเพราะ แร็พเตอร์ไม่ใช้รถที่ดีที่สุดแต่เป็นรถที่ขับสนุกที่สุด
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น