หลังจากที่ นิสสัน ได้เปิดตัว Nissan Kicks เทคโนโลยีใหม่ e-POWER เป็นรถไฟฟ้าที่ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก ทำให้หลายท่านสงสัยว่า รถยนต์ไฟฟ้า e-POWER ต่างกับ EV อย่างไร
e-POWER ต่างกับ EV อย่างไร?
รถยนต์ไฟฟ้า e-POWER (อี-พาวเวอร์) ประกอบไปด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และอินเวอร์เตอร์เพื่อจะไม่ต้องใช้การชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ภายใต้การขับเคลื่อนของเทคโนโลยีอี-พาวเวอร์นั้น ล้อจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่ได้จากเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยที่เครื่องยนต์จะไม่ได้ทำงานเฉพาะการชาร์จสู่แบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังให้กำเนิดกระแสไฟฟ้าจ่ายสู่ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) และไปสู่มอเตอร์ไฟฟ้า
เมื่อต้องการเร่งความเร็วเป็นพิเศษ หรือขึ้นที่สูงชัน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากทั้งแบตเตอรี่และเครื่องยนต์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์ ซึ่งเทคโนโลยี อี-พาวเวอร์จะให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่เหนือกว่าและปล่อยไอเสียน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายในทั่วไป
Nissan Kicks e-POWER (นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์)
เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ ในนิสสัน คิกส์ ใหม่ ประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (generator) และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) ทีผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาด 1.2 ลิตร 12 วาล์ว 3 สูบ แถวเรียงแบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ระบบอี-พาวเวอร์ ให้พละกำลังสูงสุด 95 กิโลวัตต์ (129 พีเอส) มีแรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร (Nm) และใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ที่มี 4 โมดูล
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ เรียกสั้นๆ ว่า EV(Electric Vehicle) นวัตกรรมที่ใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว 100% ในการขับเคลื่อน และสามารถชาร์จไฟได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด โดยรถยนต์ไฟฟ้านี้จะมีองค์ประกอบหลักสำหรับการขับเคลื่อนคือ แบตเตอรี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้า
ขั้นตอนการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า มีจุดเริ่มต้นจากแบตเตอรี่ที่เป็นแหล่งเก็บพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง ต่อมาตัวแปลงกระแสไฟฟ้าจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับและส่งต่อไปยังตัวมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนรถยนต์ต่อไป
และด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนอันนุ่มนวลและเงียบสงบ จึงเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ 100% ซึ่งสามารถทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งค่าซ่อมบำรุง และค่าพลังงานที่ไฟฟ้าจะมีราคาน้อยกว่าพลังงานเชื้อเพลิง ยิ่งไปกว่านั้นรถยนต์ไฟฟ้านี้ ยังให้อัตราเร่งที่ดี เพราะมอเตอร์ไฟฟ้าสั่งการให้เกิดการขับเคลื่อนได้ทันที ไม่มีการปล่อยไอเสีย จึงไม่สร้างมลภาวะให้แก่โลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ e-POWER ดีกว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV อย่างไร
รถยนต์ e-POWER (อี-พาวเวอร์) การขับขี่จะเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งแรงบิด และอัตราการเร่งที่ทันใจ ไม่หน่วง ไม่ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก หมดกังวลเรื่องการเดินทางไกล เพราะใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ต่างจากรถไฟฟ้า ที่ต้องชาร์จไฟฟ้าจากภายนอก และในการชาร์จไฟแต่ละครั้งใช้เวลานาน วิ่งได้ระยะทางเพียงแค่ประมาณ 200-300 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ทำให้การเดินทางไกลมีข้อจำกัด
รถยนต์ e-POWER ด้อยกว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV อย่างไร
รถยนต์ e-POWER มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่สูงกว่า เพราะรถยนต์ อี-พาวเวอร์ มีทั้ง เครื่องยนต์สันดาปภายใน ,อินเวอร์เตอร์,มอเตอร์ไฟฟ้า รวมไปถึงชิ้นส่วนหลักๆที่มีในรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งรถยนต์ อี-พาวเวอร์ นั้น ต้องใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีราคาแพงกว่าค่าไฟ
หากท่านใดที่กำลังมองหารถยนต์ประหยัดพลังงานไว้ใช้งาน รถยนต์ e-POWER และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งคู่ครับ แต่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน หากโจทย์ของคุณในการซื้อรถครั้งนี้ เป็นรถคันแรกของที่บ้าน หรือซื้อเพื่อใช้เดินทางไกลที่มีระยะทางมากกว่า 250 กม.ผมแนะนำให้ซื้อ รถยนต์ อี-พาวเวอร์ ครับ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหมดกลางทาง แต่ถ้าที่บ้านคุณมีรถยนต์อยู่แล้ว หรือการเดินทางต่อครั้งเป็นระยะทางแบบสั้นๆ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% EV ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีครับ
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็ควันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น