เวลาเกิดปัญหาเรื่องระบบไฟในรถ รถสตาร์ทไม่ติด ส่วนใหญ่เราจะคิดว่าแบตเสื่อม แล้วแก้ไขปัญหาทั้งจั้มแบต เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แล้ว แต่ก็มีอาการเหมือนเดิม นั่นอาจหมายถึง รถคุณมีไฟรั่ว ไฟรั่วรถยนต์ เช็คได้ไม่ยาก
ไฟรั่วรถยนต์ เช็คได้ไม่ยาก
ก่อนอื่นให้เช็คไดชาร์จรถ เนื่องจากไดชาร์จรถ มีหน้าที่ผลิตกระแสไฟกระแสตรงเพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ วิธีเช็กว่าไดชาร์จปกติหรือไม่ ให้ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า เครื่องวัดโวลท์มิเตอร์ ปรับกระแสเป็น DC แล้วเอาด้านสีดำแตะที่ขั้วลบ ด้านสีแดงแตะที่ขั้วบวกของแบตเตอรี่ เพื่อวัดกระแสแรงดัน ค่าที่ได้ต้องอยู่ที่ประมาณ 12 โวลท์ จากนั้นให้ลองเร่งเครื่องไปที่ 1,500 รอบต่อนาที ค่าที่ได้ควรอยู่ที่ประมาณ 14.5 โวลท์
หากไดชาร์จปกติ นั่นหมายความว่า รถน่าจะมีไฟรั่วจริงๆ โดยสาเหตุของไฟรั่วมีหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสายไฟเก่า สายไฟโดนหนูแทะ หรือการต่อวงจรผิดพลาด หรือหากรถยังเป็นรถใหม่ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ผู้ใช้รถยนต์ได้ติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเข้าไปในรถยนต์ เช่น เกจวัดต่างๆ แก๊สรถยนต์ โวล์ดเตจสแตบิไลเซอร์ เครื่องเสียงรถยนต์ จีพีเอส เป็นต้น โดยที่อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้เองก็มีการกินกระแสไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีอุปกรณ์หรือไม่มีความรู้เรื่องรถ นำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถเช็คให้ น่าจะสะดวกกว่า หากรถมีปัญหาให้รีบแก้ไขก่อนที่จะลามเป็นเรื่องใหญ่ เสียเงินหนักกว่าเดิม
ที่มา silkspan
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น