รีวิว Honda Africa Twin 1100 Adventure Sport DCT เมื่อรถสายลุย ผสานความทันสมัย

หลังจากการเปิดตัว Honda Africa Twin 1100 (CRF1100L) 2020 ในประเทศไทยไปเมื่อต้นปี กระแสการสั่งจองรถคันนี้เรียกได้ว่าล้นหลามมากๆ เพราะมันคือรถสายลุยที่เทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดในขณะนี้

Africa Twin 1100 เกียร์ DCT หนึ่งเดียวในคลาส

Honda Africa Twin 2020 ได้เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา และเปิดตัวในประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม และเริ่มส่งมอบรถกันตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ ระดับที่มีคนออกรถกันตั้งแต่วันแรกแบบอุ่นหนาฝาคั่งสุดๆ

สิ่งที่ทำให้รถคันนี้น่าสนใจ หนีไม่พ้นเรื่องของออปชั่นของรถคันนี้ที่อัดมาแน่นเหนือคู่เปรียบเทียบในคลาสเดียวกัน และเหนือกว่ารถที่ราคาสูงกว่าอีกในหลายๆ รุ่น ประกอบเข้ากับชื่อชั้นของ Africa Twin ที่ใครๆ ก็ต่างให้การยอมรับ ทั้งในด้านการใช้งานบนทางเรียบ หรือทางฝุ่น ก็สามารถทำได้ดีทั้งคู่ โดยเฉพาะระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ DCT ที่ไม่เหมือนใครในโลกของมอเตอร์ไซค์ ทำให้เจ้ารถคันนี้ เป็นที่รักของใครหลายๆ คน

Honda Africa Twin 2020 ปรับดีไซน์ใหม่ เด่นเรื่องเทคโนโลยี

เริ่มต้นจากด้านหน้าของตัวรถ ความเปลี่ยนแปลงภายนอกหลักที่ชัดเจนคือดีไซน์ของไฟหน้าใหม่ ที่แม้ยังเป็นไฟหน้าคู่แบบ LED เช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนดีไซน์ให้ดูแหลมคมขึ้น ลักษณะของไฟ DRL เป็นไฟแบบวงแหวน ดูคล้ายดวงตาที่กำลังจ้องมองไปยังเส้นทางข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น

ส่วนความพิเศษของไฟหน้ารุ่นใหม่คือระบบ Cornering headling หรือไฟส่องสว่างขณะเลี้ยว ซึ่งติดตั้งอยู่ด้านล่างของไฟหน้า ซึ่งจะทำงานอัตโนมัติด้วยการวัดมุมเอียงจากแกน IMU ที่ติดตั้งอยู่บนตัวรถ

ช่วงล่าง ใช้เป็นโช๊คหัวกลับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางที่ 45 มม. ระยะยุบมากถึง 230 มม. และสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนระบบเบรกให้เป็นดิสเบรกคู่ขนาด 310 มม. พร้อมปั้มเบรก 4 พอตจาก Nissin

ล้อ ให้มาเป็นล้อซี่ลวด แบบไม่มียางใน เรียกได้ว่าลุยได้เลย หายห่วงเรื่องยางรั่ว ซ่อมง่าย

เรือนไมล์จอแบบสัมผัส

Honda CRF1100L Africa Twin 2020 จัดเต็มเรื่องเทคโนโลยีด้วยการนำเอาเรือนไมล์แบบจอสัมผัสมาใช้ และนี่เป็นครั้งแรกของวงการรถมอเตอร์ไซค์ที่นำเอาจอสัมผัสเข้ามาใช้งานบนรถจักรยานยนต์ ซึ่งเรือนไมล์ตัวนี้นอกจากจะเป็นจอสี บอกข้อมูลการขับขี่ครบครันแล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านระบบ Apple CarPlay เฉกเช่นรถยนต์

โดยผู้ขับขี่ สามารถปรับตั้งค่าของตัวรถได้ทั้งคันผ่านหน้าจอตัวนี้ เพียงใช้การสัมผัสเท่านั้น หรือจะใช้การควบคุมจากประกับแฮนด์ด้านซ้าย ก็ทำได้

อ๋อ รุ่นนี้ มีระบบอุ่นมือด้วยนะ

คันเร่งของรถ เป็นคันเร่งไฟฟ้าแบบเต็มระบบ ส่วนปุ่มควบคุมด้านขวาประกอบด้วยปุ่ม Off/Run/ติดเครื่อง, ปุ่มเลือกระบบเกียร์ N,D,S,M,A และปุ่มล็อกความเร็ว หรือ Cruise control

ส่วนประกับแฮนด์ด้านซ้าย เรียกได้ว่าปุ่มเยอะจริงๆ หลักๆ ประกอบด้วยชุดปุ่มสำหรับใช้เลือกเมนูต่างๆ บนหน้าจอ, ปุ่มตีย์ลัด, ปุ่มควบคุมระบบความบันเทิงต่างๆ ส่วนปุ่มเปิดไฟฉุกเฉิน, ไฟเลี้ยว แตร, ไฟสูง, ไฟพาส อยู่ฝั่งนี้ทั้งหมด

และที่ตำแหน่งก้านคลัทช์เดิมในรถบิ๊กไบค์ทั่วไป ถูกเปลี่ยนเปนเบรกมือแทน ใช้สำหรับจอดรถ

Paddle shift เพิ่ม/ลดเกียร์ อยู่ที่ฝั่งซ้ายเช่นกัน

สำหรับเบาะนั่งของ CRF1100L Africa Twin Adventure Sport DCT เป็นเบาะนั่ง 2 ตอน แยกระหว่างผู้ขับและผู้ซ้อนออกจากกัน ตัวเบาะมอบความนุ่มนวลค่อนข้างสูง และมีความสูงเพียง 810 ซม. เท่านั้น เรียกได้ว่าค่อนข้างต่ำมาก วางเท้าลงทั้ง 2 ข้างได้สบายๆ

เทียบไซส์กับผู้ขับขี่ ความสูง 168 ซม.

เครื่องยนต์ใหม่

ในส่วนของเครื่องยนต์ เพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น 86 cc. จาก 998 เป็น 1,084 cc. 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้พละกำลังมากขึ้น 6% ผ่านค่ามาตรฐานไอเสีย Euro 5 ซับเฟรมหลังเปลี่ยนใหม่ ใช้โครงสร้างอลูมิเนียมแบบถอดได้ และสวิงอาร์มใหม่ สไตล์รถแข่ง CRF450R ซึ่งน้ำหนักเบาและแข็งแรงขึ้น และยังมาพร้อมแกน IMU 6 แกน มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ ติดตั้งเพิ่มเติม อาทิ ระบบควบคุมอาการล้อหน้าลอย, cornering ABS, Rear-lift control, DCT cornering detection และ ระบบไปส่องสว่างขณะเลี้ยว

ข้อมูลทางเทคนิค Honda Africa Twin 2020

ตัวรถ

มิติรถ

ทดลองขับ Honda Africa Twin 1100 Adventure Sport DCT

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ ผมมีโอกาสทดสอบขับขี่รถคันนี้บนหลากหลายเส้นทาง ทั้งทางดินและทางฝุ่นตาม DNA ของตัวรถ โดยจะขอแบ่งแยกหมวดหมู่ของรูปแบบ 2 เส้นทางนั้นออกจากกัน เพื่อง่ายต่อการสื่อสาร

ทางดำ หรือทางหลวงลาดยาง หรือไฮเวย์ แล้วแต่ท่านใดจะเรียก คือศัพท์ในวงการไบเกอร์เรียกกันว่าทางดำนั่นแหละครับ ฟีลลิ่งของตัวรถที่ได้รับคือ เป็นรถที่ควบคุมได้ง่ายมากๆ อีกรุ่นหนึ่ง แม้ว่าน้ำหนักตัวตามสเป็กจะชี้ว่าสูงถึง  250 กิโลกรัม ทว่าในการขับขี่จริงบนทางดำ ด้วยน้ำหนักระดับนี้ส่งผลให้ในเรื่องของความมั่นคงในการควบคุม ขณะขับขี่รถด้วยความเร็วสูง โดยเราทดลองขับขี่ที่ความเร็วสูงกว่า 200 กม./ชม. เป็นระยะเวลาหนึ่ง กับตัวรถเปล่าที่ไม่มีกล่องสัมภาระ ไม่พบว่ารถมีอาการชกแต่อย่างใด

ซึ่งอาการชกลมบนความเร็วสูง มักเกิดจากรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Adventure ที่มีล้อหน้าขนาด 21 นิ้วโดยส่วนใหญ่ ซึ่งกับรถคันนี้ เราไม่พบอาการดังกล่าวแต่อย่างใน

ในส่วนของช่วงล่าง จัดว่าเซ็ตมาได้นุ่มนวลเป็นอย่างยิ่ง ซับแรงกระแทกบนทุกสภาพเส้นทางได้อย่างหายห่วง เอาว่าหากคุณเจอหลุม เจอลูกระนาด คุณสามารถรูดอุปสรรคเหล่านั้นไปได้เลย ช่วงล่างของรถ เอาอยู่หมัด !

ด้านพละกำลังของเครื่องยนต์ ด้วยพิกัดขนาดนี้กับทางดำ บอกเลยว่าเหลือเฝือ ไม่ต้องลุ้นว่าจะแซงใครดี เพราะสะกิดนิดเดียว ก็พร้อมทะยานไปข้างหน้าแล้ว

ทางฝุ่น บนการขี่ทางฝุ่น สิ่งที่ผมชอบที่สุดของรถคันนี้คือท่าทางการขับขี่ ตัวรถถูกออกแบบมาให้สามารถหนีบรถในขณะยืนขี่ได้ค้อนข้างแน่นเลยทีเดียว ผสานเข้ากับพักเท้าแบบหนาม ท่านตัดความกังวลเรื่องรองเท้าจะลื่นหลุดจากพักเท้าไปได้เลย

ช่วงล่างของมัน ซึ่งสามารถซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม ผสานพลังเข้ากับระบบขับเคลื่อนของรถที่เป็นเกียร์ DCT ทำให้เราตัดความกังวลเรื่องการใช้คลัทช์ไปได้เลย โดยส่วนใหญ่แล้ว รถมอเตอร์ไซค์ไซส์นี้ ถ้าจะเสียหลักล้มบนทางฝุ่น เกินครึ่งมักเกิดจากเรื่องบีบคลัทช์ผิดจังหวะ เครื่องยนต์ดับ และล้มแปะ หรือที่เราเรียกกันว่า "เบาดับ"

แต่เมื่อท่าน ขี่รถที่มีเกียร์ DCT เช่น Honda Africa Twin 1100 Adventure Sport DCT ท่านตัดความกังวลเรื่องเบาดับไปได้เลย เพราะระบบของรถจะจัดการเรื่องดังกล่าวให้ท่านเอง ท่านมีหน้าที่มองหาเส้นทางที่ต้องการจะขับไป เปิดคันเร่งให้ดี บาลานซ์ตัวให้ถูกต้อง รับรองว่าผ่านไปได้ทุกอุปสรรค์อย่างแน่นอน

แต่ รถคันนี้ก็เหมาะกับการลุยในระดับหนึ่งนะครับ ถ้าเอาถึงขั้น Hard Enduro ไต่ขึ้นเนินชันมากๆ กระโดดข้ามก้อนหินโตๆ ไต่ผา ฯลฯ สุดแท้แต่ที่ต้องการจะไป เกรงว่าด้วยน้ำหนักตัวรถ 250 กิโลกรัม ขอแนะนำเป็นรถสายตรงด้านทางเถื่อนกว่าอย่าง CRF250L

ระบบเกียร์ DCT ทีเด็ดของรุ่นนี้

ระบบเกียร์ DCT คือสิ่งที่ดีงามที่สุดสำหรับรถคันนี้ เพราะเจ้าเกียร์ DCT นี่แหละ ท่านตัดความกังวลเรื่องการควบคุมคลัทช์ในห้วงของการขับขี่ไปได้เลยแบบ 100% ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ทางไกล หรือขับช้าๆ ในเมือง เจ้าเกียร์ DCT นี่แหละ จะช่วยให้ชีวิตการเดินทางของคุณ สบายมากกว่าเดิม

ระบบเกียร์ DCT ถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบด้วยกัน คือโหมด D จะเป็นเกียร์อัตโนมัติปกติ รถจะเปลี่ยนเกียร์ราวๆ 1,600 - 2,000 รอบ/นาที โดยเกียร์ 6 จะถูกใช้งานที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ด้วยซ้ำ หากท่านขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ และเปิดคันเร่งเบาๆ รถจะชิพเข้าเกียร์ 6 บนความเร็วดังกล่าวได้อย่างนุ่มนวล และหากท่านเบรก หรือชลอความเร็ว ระบบเกียร์ก็จะลดเกียร์ให้ท่านโดยอัตโนมัติอีกด้วย

โหมด S เป็นเกียร์อัตโนมัติเช่นกัน แต่จะเพิ่มระยะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นไปเป็นราวๆ 3,500 รอบ/นาที ขึ้นไป ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ท่านลากรอบขึ้นไปได้อีก เพื่อความบันเทิง และในทุกโหมดเกียร์ ท่านสามารถกดปุ่มลดเกียร์ เพื่อชิพดาวน์เกียร์ เรียกแรงบิดแบบทันทีได้ทั้งโหมด D และ S

สุดท้ายโหมด M หากท่านคิดว่า ระบบเกียร์อัตโนมัติไม่ตรงความต้องการ เจ้า M คือคำตอบของท่าน ท่านสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ง่ายๆ ที่ปุ่มเพิ่ม/ลดเกียร์ ที่ประกับแฮนด์ด้านซ้าย ซึ่งรถจะเปลี่ยนเกียร์ตามคำสั่งของเราอย่างนุ่มนวลมากกว่าระบบ Quick Shifter ที่อยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล SuperBike เสียอีก

สรุป Honda Africa Twin 1100 Adventure Sport DCT เป็นรถมอเตอร์ไซค์สายลุยที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถมอเตอร์ไซค์ประเภทคันเดียวจบ ไปได้ทุกเส้นทาง เพราะเป็นรถที่ขับขี่ได้ง่ายด้วยเกียร์ DCT, ช่วงล่างที่ดีงาม และพละกำลังของเครื่องยนต์ที่ล้นเหลือ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มาเป็นอย่างดีอย่างยิ่งยวดครับ

ท่านใดที่สนใจ ก็สามารถจับจองได้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Honda BigBike ทั่วประเทศครับ

อ่านรีวิว BMW R1250GSA
อ่านรีวิว Honda ADV150
อ่านรีวิว Moto Guzzi V85TT

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car