ประกันรถยนต์ ช่วยคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิตและรถของผู้ขับขี่ รวมทั้งผู้โดยสาร ผู้ทำประกันรถยนต์สามารถเอาประกันมาชดเชยความเสียหายต่างๆได้ตามที่ได้ทำประกันไว้ แต่บางครั้งยังมีข้อสงสัยว่าผู้ทำประกันได้รับความคุ้มครองอะไรบ้าง
7 คำถามที่ถามบ่อย “ประกันรถยนต์”
ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง
- ความเสียหายต่อร่างกาย ชีวิตของผู้เอาประกันและคู่กรณี รวมทั้งรถยนต์และทรัพย์สินของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- รถยนต์คันเอาประกัน แม้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า หินดีด กระจกร้าว ยางแตก รถพลิกคว่ำ ตกถนน เป็นต้น รวมทั้งยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้เอาประกัน และผู้โดยสาร
- กรณีรถหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม
- เงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ของผู้เอาประกัน ในกรณีรถชนรถและต้องมีคู่กรณีเท่านั้น เช่น ชนกับรถยนต์ รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก เป็นต้น
- ค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้เอาประกัน และผู้โดยสาร
- กรณี รถหาย ไฟไหม้รถ และน้ำท่วมรถ (บางกรมธรรม์)
- เงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ประกันรถยนต์ชั้น 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี รวมทั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อรถยนต์ของผู้เอาประกัน ในกรณีรถชนรถและต้องมีคู่กรณีเท่านั้น เช่น ชนกับรถยนต์ รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ รถบรรทุก เป็นต้น
- ค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้เอาประกัน และผู้โดยสาร
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา แต่ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้รถ หรือน้ำท่วมรถ
อะไรบ้างที่ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง
- เมาแล้วขับ
- ขับรถแข่งความเร็ว
- ไม่ได้ทำใบขับขี่
- นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
- ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหนัก หรือ รถเสื่อมสภาพตามอายุ
- ขับรถออกนอกพื้นที่คุ้มครอง
- ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้
- นำรถไปลากจูง กรณีเกิดสงคราม ปรมาณู หรือกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู
เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ประกันภัยคุ้มครองไหม
ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ชนต้นไม้ ชนฟุตบาธ ชนกำแพง หรืออุบัติเหตุอื่นๆ เช่น ยางแตก ยางระเบิด กระจกร้าว เบรกแตก จนเป็นเหตุให้รถเกิดอุบัติเหตุ และเกิดความเสียหาย หากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์
เคลมสด กับ เคลมแห้ง เหมือนหรือต่างกัน
- เคลมสด คือ การเคลมที่ต้องให้ตัวแทนบริษัทประกันเข้าไปตรวจสอบ ณ ที่เกิดเหตุทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อทำการออกใบเคลมค่าเสียหายสำหรับนำรถไปซ่อมต่อไป เช่น รถชนกับรถของคู่กรณี หรือรถชนเสียหายหนัก เป็นต้น
- เคลมแห้ง คือ การเคลมประกันหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้วระยะหนึ่ง ส่วนมากเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี โดยผู้เอาประกันจะต้องบันทึกเหตุการณ์อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จากนั้นจึงแจ้งเคลมกับทางบริษัทประกันด้วยตนเอง
ซื้อประกันรถยนต์แบบผ่อน ทำได้ไหม
ผ่อนเบี้ยประกันได้ โดยแบ่งชำระเป็นงวดๆ ได้ ซึ่งมีทั้งการผ่อนประกันรถยนต์ด้วยบัตรเครดิต และผ่อนประกันรถยนต์ด้วยเงินสด แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันด้วยว่ามีการผ่อนประกันรถยนต์หรือไม่อย่างไร
สรุป 7 คำถามข้างต้น หลายๆ คนคงได้ทราบข้อมูลที่จะเอาประกันรถกับบริษัทที่ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ได้พอสมควร หากจะทำประกัน ควรศึกษาข้อมูลประกันแต่ละประเภทเพื่อสิทธิประโยชน์ของเราเอง
ที่มา มาสิ,รู้ใจ
ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car
ความคิดเห็น