รีวิว Honda CBR600RR 2021 เป็นได้ทั้งรถแข่ง และรถบ้าน

Honda CBR600RR 2021 รถ Supersport 4 สูบเรียงขนาด 600 ซีซี เป็นรถคนละประเภทกับ Honda CBR650R ยอดฮิตในบ้านเรา โดยรหัส RR นี้ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมลุยบนสนามแข่งแต่เกิด

Honda CBR600RR 2021

หลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของรถซุปเปอร์สปอร์ตพันธุ์แกร่งจากค่ายปีกนก ที่จะมาสานต่อตำนานแห่งตระกูลนี้อย่าง Honda CBR600RR 2021 ที่มีการปรับปรุงใหม่ทั้งคัน ทั้งเรื่องของรูปโฉมใหม่ทั้งคันที่เน้นเรื่องอากาศพลศาสตร์โดยเฉพาะ รวมไปถึงเทคโนโลยีการขับขี่อันทันสมัย DNA สนามแข่ง ถูกถ่ายทอดลงบนรถคันนี้ทั้งหมด โดยยังคงเอกลักษณ์ท่อออกท้ายรถไว้ได้อย่างสวยงาม

โดยเครื่องยนต์ของ Honda CBR600RR ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และเป็นพื้นฐานของรถมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียงแทบจะทุกรุ่น แม้ว่าตัวเลข cc ของรุ่นนี้จะดูน้อยกว่า CBR650R ทว่าเรื่องของพละกำลัง รวมถึงเทคโนโลยีการขับขี่อันเหนือชั้น ถูกบรรจุในรถคันนี้แบบเต็มเปี่ยม ถอดฉบับมาจากรุ่นพี่ Honda CBR1000RR-R แทบทุกระเบียดนิ้ว ผิดจาก CBR650R ที่เป็นรถสปอร์ตที่พัฒนามาเพื่อสำหรับการขับขี่บนท้องถนนมากกว่าบนสนามแข่ง แต่ CBR600RR ถูกพัฒนาเพื่อขับขี่บนสนามแข่งโดยเฉพาะ แต่ก็ยังเป็นมิตรต่อการขับขี่บนท้องถนนเช่นกัน

Awaken the Race

Honda CBR600RR แม้ปริมาตรกระบอกสูบดูจะน้อยกว่า Honda CBR650R ถึง 50 ซีซี แถมมีราคาแพงกว่าถึง 2 แสนบาทอีกต่างหาก หลายๆ ท่านที่อาจไม่ได้คร่อมหวอดอยู่ในสายรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ตไบค์อาจจะแอบงงบ้างเล็กน้อยว่า ไหงรถซีซีน้อยกว่า ขายแพงกว่ารถที่มีซีซีมากกว่าซะงั้น...

ทว่า เรื่องของปริมาตรกระบอกสูบนั้น มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการตั้งราคาของตัวรถ สิ่งที่ชี้ชัดถึงราคานั่นคือ "ประสิทธิภาพ" ต่างหาก...

Honda CBR600RR เป็นรถ SuperSport ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานของรถแข่ง เพื่อที่จะนำไปใช้งานเป็นรถแข่งบนสนามแข่งขันตั้งแต่ถือกำเนิดออกมาจากโรงงาน แต่ก็มีความสามารถที่จะนำไปใช้ขับขี่บนท้องถนนได้แบบไม่ลำบากชีวิตมากไปนัก

ส่วน Honda CBR650R เป็นรถ Sport ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากพื้นฐานของรถแข่งเช่นกัน แต่จุดประสงค์ของมันคือ นำไปใช้ขับขี่บนท้องถนน และยังเพียงพอต่อการขับขี่บนสนามแข่งได้ ไม่ได้เกิดมาเป็นรถแข่งโดยตรง

ทำให้ฮอนด้าใส่รหัสที่เอาไว้บ่งชี้โมเดลความแรง "RR" หรือ Racing Replica เอาไว้ที่ท้ายรุ่นรถนั่นเอง

นอกจากนี้ เทคโนโลยีการขับขี่ใน Honda CBR600RR 2021 ก็ถูกยกมาจาก Honda CBR1000RR-R แทบจะทุกระเบียดนิ้ว ในราคาเพียงครึ่งเดียวของรุ่นพี่

รูปลักษณ์ภายนอกของ Honda CBR600RR 2021 เปลี่ยนใหม่หมดทั้งคัน เริ่มต้นจากดีไซน์โดยรวมที่เห็นได้ว่าได้เปลี่ยนแปลงฉีกออกจากรุ่นที่มีวางจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ทั้งหมดเลยทีเดียว ไฟหน้า LED คู่ในชุดแฟริ่งหน้าที่ถูกออกแบบมาให้เน้นด้านอากาศพลศาสตร์สูงสุด โดยบริเวณตรงกลางแฟริ่งหน้า มีช่องดักลมขนาดใหญ่มาให้

และด้านข้างของชุดหน้า มีการติดตั้งปีกสำหรับดักอากาศ เพื่อสร้างแรงกดด้านหน้า เสริมสมรรถนะการยึดเกาะถนนมากขึ้น เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง สอดรับกับแฟริ่งด้านข้างที่มีช่องดักลมขนาดใหญ่ เพื่อเสริมสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์เช่นกัน

โช๊คอัพหน้า ใช้โช๊คอัพแบบหัวกลับขนาด 41 มม. ปรับแต่งการตั้งค่าได้เต็มรูปแบบ มาพร้อมลูกสูบขนาดใหญ่ ช่วยซับแรงสะเทือนได้ดีทุกสภาพถนน ส่วนระบบเบรคให้ดิสก์เบรคคู่ขนาด 320 มม. ปั้มเบรก 4 พอต 2 ชุด (8 พอต) พร้อมระบบ ABS และมาพร้อมกับกันสะบัดไฟฟ้า ติดตั้งอยู่ใต้ฝาครอบถังน้ำมัน สามารถปรับความหนืดตามความเร็วของรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มอบความคล่องแคล่วที่ความเร็วต่ำได้ดี และเพิ่มความมั่นคงขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ส่วนระบบเบรกด้านหลัง ใช้ดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. พร้อมปั้มเบรก 1 พอต

หันดูด้านข้าง ดูส่วนของตำแหน่งท่านั่ง เห็นได้ว่าเบาะนั่งแบบ 2 ตอน แยกส่วนของผู้ขับขี่และผู้ซ้อนออกจากกัน ตัวถังน้ำมันแบนราบ สอดรับกับตำแหน่งของแฮนด์จับโช๊คอันหมอบต่ำ พร้อมพักเท้าที่ยกมาสูงพอตัว เน้นท่าทางขับขี่แบบสปอร์ตจ๋า

ส่วนชิวบังลมเดิมๆ ให้มาค่อนข้างสูง เหมาะสำหรับขับขี่ด้วยความเร็วสูง

ออปชั่นเด่นใน CBR600RR 2021

Honda CBR600RR 2021 ด้วยความที่เป็นรถซุปเปอร์สปอร์ต รหัส RR หรือ Racing Replica นั้น แน่นอนว่าเทคโนโลยีต่างๆ จากสนามแข่งในรถคันนี้จัดมาเต็มทั้งหมด โดยเฉพาะระบบควบคุมการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ IMU ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ของตัวรถทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ ABS, Traction Control, คันเร่งไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับโหมดขับขี่ให้เลือกใช้งานด้วย โดยรูปแบบหลักๆ แบ่งออกเป็นสำหรับใช้บนถนน เน้นความนุ่มนวล ขับขี่ง่าย และสำหรับใช้ในสนามแข่ง เน้นรีดประสิทธิภาพสูงสุดของรถออกมา

ส่วน Quick Shifter เพิ่มและลดเกียร์ได้โดยไม่ต้องกำคลัทช์ ไม่ได้ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ต้องซื้อเพิ่มภายหลัง ส่วน Sliper clutch มีมาให้แล้วเป็นที่เรียบร้อย

หน้าจอเรือนไมล์สี TFT-LCD บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน และสามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ของตัวรถ ผ่านหน้าจอนี้ได้เลย โดยเลเอ้าท์ของจอมีความคล้ายกับ Honda CBR1000RR Fireblade รุ่นปัจจุบัน มาพร้อมกับระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติตามสภาพแสง เทคโนโลยีเดียวกันกับ Honda RC213V-S

สำหรับรูปแบบหน้าจอใน Honda CBR600RR แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ Street Mode สำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน, Circuit สำหรับการขับขี่จับเวลาต่อรอบ และ Mechanic Mode สำหรับดูรายละเอียดเชิงวิศวกรรมของตัวรถ

แกน IMU 5 แกน

แกน IMU หรือระบบตรวจจับการเคลื่อนที่ของตัวรถแบบ 3 มิติ ทำหน้าที่ควบคุมการขับขี่ของตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยคำนวณการทำงานของระบบเบรคและการส่งกำลัง ให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมความปลอดภัยมากกว่าเดิม โดยเจ้าแกนตัวนี้มีหน้าที่โดยตรงกับการทำงานของระบบเบรก ABS ควบคุมการเบรกของตัวรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบ Wheelie Control ป้องกันล้อหลังยกตัวกระทันหัน เมื่อใช้เบรกหน้าอย่างรุนแรง และช่วยควบคุมกำลังของเครื่องยนต์และแรงเบรกอย่างเหมาะสม ส่งผลให้เบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ท่อออกตูดสไตล์สปอร์ต

เอกลักษณ์ในรถ Honda CBR600RR นั่นคือดีไซน์ท่อไอเสียออกท้ายรถ หรือที่เราเรียกติดปากกันว่าท่อออกตูดนั่นเอง หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ท่อไอเสียแบบ Middle Tip ช่วยเพิ่มอารมณ์สปอร์ตมากขึ้น และยังเป็นแบบ Slip-On แยกชิ้นส่วนได้ ง่ายต่อการตกแต่ง

โดยในรถรุ่นใหม่นี้มีการปรับปรุงระบบไอเสียใหม่ ให้มีการระบายได้อย่างรวดเร็ว พร้อม Catalytic รุ่นใหม่ ช่วยบำบัดไอเสียให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยรูปแบบการระบายไอเสียจะเน้นพละกำลังในรอบปลาย มาพร้อมกับน้ำหนักที่เบา ช่วยทำให้รถมีน้ำหนักเบาขึ้น ส่วนตัว Catalytic ใช้วัสดุแบบใหม่ ทำปฎิกิริยากับไอเสียได้อย่างรวดเร็ว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีขนาดกระทัดรัด และมีน้ำหนักเบา

(ทางทีมช่างกระซิบมาว่า ถ้าอยากให้รถแรงขึ้น พุ่งไวกว่านี้ พร้อมมีน้ำหนักตัวที่เบาขึ้น ให้เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ทั้งระบบ เพราะรถรุ่นนี้ทั้งตัวเครื่อง, เกียร์ และกล่องควบคุม ใช้สเป็กเดียวกับโมเดลต่างประเทศ ต่างกันที่ท่อไอเสียเท่านั้น ที่เป็นสเป็กเฉพาะบ้านเรา)

โหมดการขับขี่ CBR600RR

ระบบคันเร่งไฟฟ้า พร้อมโหมดการขับขี่ 5 โหมดด้วยกัน โดยการทำงานของคันเร่งไฟฟ้า จะใช้การส่งสัญญาณการทำงานผ่าน Grip APS อันเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ Honda RC213V

ในส่วนของ Riding Mode สามารถตั้งได้ 5 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ Mode 1 แรงที่สุด, Mode 2 แบบปกติ และ Mode 3 เน้นการควบคุมอย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังมีโหมด User 1 และ User 2 ให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการตั้งค่าทั้งหมดได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองของคันเร่ง, การส่งกำลัง, การยกตัวของล้อ, Engine Brake และ Traction Control หรือที่ฮอนด้าเรียกว่า HSTC

ระดับการทำงานของโหมดการขับขี่ (Riding Mode)

Level 1 แรงที่สุด มาเต็มกำลังที่สุด
Level 5 นุ่มนวลที่สุด

โดยการตั้งค่าต่างๆ ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ตลอดเวลาที่ขับขี่ โดยไม่ต้องลงจากรถ โดยการเลือกการตั้งค่าระดับ 1 ผู้ขับขี่จะสามารถใช้พละกำลังของเครื่องยนต์ได้แบบสูงสุดทั้ง 6 เกียร์ ส่วนระดับ 5 จะมอบพละกำลังที่นุ่มนวลที่สุด

เครื่องยนต์ CBR600RR 2021

Honda CBR600RR 2021 ใช้เครื่องยนต์รหัส 2BL-PC40 ชนิด 4 สูบเรียง 599 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยน้ำ รีดพละกำลังสูงสุดได้ 120 แรงม้า ที่ 14,000 รอบ/นาที แรงบิดสูดสุด 64 นิวตันเมตร ที่ 11,500 รอบ/นาที มีการอัพเกรดชิ้นส่วนต่างๆ อย่างมากมาย แบ่งเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

- ปรับปรุงการประจุไอดีใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใช้ลิ้นปีกผีเสื้อแบบ Direct to Head ขนาดใหญ่ถึง 44 มม. ทำให้มีส่วนผสมอากาศและเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในปริมาณมากขึ้น พร้อมดีไซน์พอร์ตไอดีที่ฝาสูบใหม่ให้มีความโค้งมนมากขึ้น ส่งผลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 2.2% ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีขึ้น

- ปรับปรุงระบบเผาไหม้ ด้วยฝาสูบแบบใหม่ พร้อมใช้หัวเทียนแบบก้านยาว ทำให้รถมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์มากขึ้น กระจายทั่วลูกสูบกว่าเดิม พร้อมเพิ่มทางเดินน้ำหล่อเย็นในฝาสูบ ช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ เพื่อการเผาไหม้อย่างมีประสิทธิภาพ

- ระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบคู่ เพื่อสมรรถนะสูงสุดในทุกรอบเครื่องยนต์ ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่ต่อเนื่องในช่วงรอบต้น และตอบสนองดั่งใจในรอบปลาย

- ระบบ Assist Slipper Clutch ช่วยลดแรงกระชากของล้อหลัง ขณะลดเกียร์สูงลงมาเกียร์ต่ำ ลดอาการล้อหลังล็อก

ข้อมูลทางเทคนิค Honda CBR600RR 2021

ตัวรถ

มิติรถ

ทดลองขับ Honda CBR600RR 2021

ในส่วนของการทดสอบขับขี่ Honda CBR600RR 2021 คันนี้ ทาง Autospinn มีโอกาสมาร่วมทดสอบที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ อันเป็นสนามที่ใช้แข่งขัน MotoGP และเคยถูกใช้แข่ง World SuperBike

สัมผัสแรกเมื่อขึ้นคร่อมตัวรถคือตัวรถมีขนาดที่ค่อนข้างกระชับตัวมากๆ ตัวของผมมีความสูงอยู่ที่ 168 ซม. กับเบาะนั่งที่มีความสูงเพียง 822 มม. ทำให้ผมสามารถวางเท้าลงพื้นได้สบายๆ ทั้ง 2 ข้าง ตัวถังน้ำมันของตัวรถมีการปาดเว้ามาให้กระชับเข้ากับสรีระของชาวเอเชียค่อนข้างมาก โดยทดสอบจากผู้ขับขี่ที่มีความสูงตั้งแต่ 160 - 180 ซม. ต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า ตัวรถค่อนข้างกระชับมาก และเข้ากับสรีระได้ดีมากๆ

จุดศูนย์ถ่วงของรถรุ่นนี้ จะอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ต่ำมากเหมือนกับ CBR1000RR-R อันเนื่องมาจากท่อไอเสียของรถรุ่นนี้อยู่บริเวณใต้เบาะนั่งนั่นเอง ทำให้ศูนย์ถ่วงของตัวรถจะไม่ได้ต่ำมากนัก ทว่าด้วยน้ำหนักของตัวรถเพียง 195 กิโลกรัม ก็ไม่ได้จัดว่ามีน้ำหนักมากจนเกินไป

ใส่เกียร์ และออกตัว สัมผัสแรกที่จับได้คือ การตอบสนองของเครื่องยนต์มีความนุ่มนวลที่สูงมากๆ การตอบสนองของคันเร่งไฟฟ้าเรียกได้ว่าคมมากๆ รอบเครื่องยนต์ช่วงตั้งแต่ 2,000 - 8,000 รอบ ให้อัตราเร่งที่ค่อนข้างนุ่มนวล เหมาะกับการขับขี่บนท้องถนนเป็นอย่างยิ่ง

ทว่า เมื่อท่านใช้รอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 9,000 รอบขึ้นไปจนถึง Redline นิสัยของรถคันนี้จะเปลี่ยนเป็นคนละคัน จากรถบ้านๆ ที่ขี่บนถนนได้ชิลๆ กลายร่างเป็นรถแข่งส่งตรงจากรายการระดับโลกสู่มือของคุณ สามารถทำความเร็วขึ้นไปยัง 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นไปได้แบบไม่ยากเย็นแต่อย่างใด

ช่วงล่างของ CBR600RR เป็นช่วงล่างปรับแมนนวลปกติ สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลด, รีบาวน์, คอมเพรชชั่น ได้เต็มระบบ โดยฟิลลิ่งของช่วงล่างของรถรุ่นนี้มันเหมาะสมมากๆ สำหรับการขับขี่ในสนามแข่ง ครั้นจะขี่บนถนนก็ยังได้ฟิลลิ่งความเป็นสปอร์ตเช่นกัน

ช่วงล่างเดิมๆ ติดรถเรียกได้ว่าเหลือกินเหลือใช้สำหรับผู้ขับขี่ระดับทั่วไป มันให้การตอบสนองขณะเข้าโค้งที่ดีมากๆ ไม่มีอาการบัมพ์แต่อย่างน้อย (ต้องปรับโช๊คให้เหมาะกับน้ำหนักตัวรวมถึงสไตล์การขี่ของเราด้วย) 

ระบบเบรกติดรถเดิมๆ จัดได้ว่าเหลือเฝือ ด้วยพลังดิสเบรกคู่ พร้อมปั้มเบรก 8 พอต ให้ระยะเบรกที่สั้นมากๆ สามารถลดความเร็วจาก 230 กม./ชม. เหลือเพียง 90 กม./ชม. ในระยะทางที่สั้นมากๆ ไม่ถึง 100 เมตรด้วยซ้ำไป

ตำแหน่งท่านั่งของ CBR600RR จัดว่าเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่บนสนามแข่ง ด้วยตำแหน่งของถังน้ำมันที่แบนราบด้านบน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถนอน หมอบลงไปกับรถได้อย่างกระชับ พร้อมมีการเว้าด้านข้างถังเพื่อที่เวลาโหนรถเข้าโค้งก็สามารถควบคุมรถได้อย่างกระชับ ทำให้ท่าทางการขับขี่ในสนามแข่งนั้นควบคุมรถได้ง่ายมากๆ

ราคา Honda CBR600RR 2021

ราคาของ CBR600RR 2021 อยู่ที่ 549,000 บาท มีเฉพาะสีแดง Grand Prix Red จับจองได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Honda BigWing ทั่วประเทศ

อ่าน รีวิว Honda CBR1000RR-R วาล์วเปิด โลกเปลี่ยน
อ่าน เจาะลึก ALL NEW Honda CBR1000RR-R Fireblade
อ่าน รีวิว Honda ADV 150

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car