ฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ที่มีอยู่ในท้องตลาดตอนนี้ มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อต่างก็มีพื้นฐานคุณสมบัติแทบจะเหมือนกันหมด คือเน้นการกรองแสง กรองรังสียูวี และรังสีอินฟาเรด แต่จะดีกว่ามั้ย ถ้าฟิล์มที่เราติดนั้นมีคุณสมบัติที่เหนือกว่า เช่นป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน
90% ของรถยนต์ที่ขับอยู่ในประเทศไทย ผมเชื่อว่าติดฟิล์มกรองแสง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศไทยเป็นเมืองร้อน หากไม่ติดฟิล์มกรองแสง ผิวหนังของเราคงโดนแสงแดดแผดเผาจนไหม้เกรียม แต่ก็ใช่ว่าฟิล์มทุกยี่ห้อจะมีคุณสมบัติเหมือนกันหมด ดังนั้นการเลือกติดฟิล์มเราจึงควรศึกษาข้อมูล และดูรายละเอียดคุณสมบัติให้ดีๆ เพราะถ้าเลือกผิด เสียเงินฟรีแน่นอน วันนี้ผมมีวิธีเลือกฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์มาฝากครับ
รับชมรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
เลือกฟิล์มยังไงให้ตอบโจทย์การใช้งาน ?
ฟิล์มกรองแสง หลักๆแล้วมีค่าความทึบอยู่ 3 เบอร์ คือ 40% 60% และ 80%
- หากคุณสายตาไม่ค่อยดี หรือต้องใช้รถตอนกลางคืนเป็นหลัก แนะนำให้ติดเบอร์ 40% รอบคัน หรือ ติดกระจกบานหน้า 40% บานอื่นๆ 60%
- หากคุณใช้รถแค่ตอนกลางวัน แนะนำให้ติดเบอร์ 80% รอบคัน หรือ ติดกระจกบานหน้า 60% บานอื่นๆ 80%
- หากคุณใช้รถทั้งกลางวันและกลางคืน แนะนำให้ติดเบอร์ 60% รอบคัน หรือ ติดกระจกบานหน้า 40% บานอื่นๆ 60%
นอกเหนือจากการเลือกค่าความทึบของฟิล์มแล้ว สิ่งที่หลายท่านมองข้ามไป คือ เรื่องของความปลอดภัย จะดีกว่ามั้ย ถ้าฟิล์มที่เราติดมีคุณสมบัติทั้งการกรองแสง และเป็นฟิล์มนิรภัย ที่ช่วยป้องกันเศษกระจกกระเด็นใส่ร่างกายเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ และป้องกันกระจกแตกจากการทุบของผู้ไม่หวังดี ซึ่งบางท่านอาจเกิดคำถามในใจว่า เห้ย!!! มันมีด้วยเหรอ ฟิล์มที่ติดแล้วป้องกันกระจกแตกจากการทุบ คำตอบก็คือ ก็ฟิล์มนิรภัยกรองแสงยี่ห้อ Aestoma (เอสโตม่า) ไงครับ
ฟิล์มนิรภัยกรองแสง Aestoma นอกจากจะช่วยกรองแสงแล้ว ตัวฟิล์มยังมีการเพิ่มชั้นโพลีเอสเตอร์ เพิ่มชั้นกาว และเซรามิคคุณภาพสูงลงไปในชั้นฟิล์ม ทำให้ฟิล์มมีความเหนียวและแข็งแรงกว่าฟิล์มทั่วไป โดยหนากว่าฟิล์มทั่วไปถึง 4 เท่า ผ่านการทดสอบก้วยการทุบกระจกด้วยของแข็งแบบเต็มแรง ทุบจนเหนื่อยกระจกยังไม่แตกเลยครับ แตกยากมากๆ เพราะเนื้อฟิล์มมีคุณสมบัติในการกระจายแรงกระแทกเมื่อโดนทุบ ช่วยป้องกันการโจรกรรมได้ดีเลยทีเดียว และหากเราโดนก่อกวนด้วยการปาหินใส่กระจกหน้ารถ ความแรงของการกระแทกอาจจะทำให้กระจกแตกได้ แต่เศษกระจกจะไม่ทะลุถึงตัวด้านในรถได้เพราะติดเลเยอร์ของชั้นฟิล์ม ป้องกันความเสียหายจากอุบัติเหตุ และผ่านสัญญาณดิจิตอลทุกชนิดได้ รวมถึง Easy Pass
ที่สำคัญ ฟิล์มนิรภัยของ เอสโตม่าทุกเบอร์มีความหนาของฟิล์ม 4.0 Mil ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด และ UV 99% ทำให้ห้องโดยสารไม่ร้อนและประหยัดพลังงานพร้อมปกป้องการเสื่อมสภาพของคอนโซลรถ
อย่างรถคันนี้ ติดฟิล์มนิรภัยกรองแสง Aestoma ค่าความทึบ 60% จะเห็นได้ว่า เมื่อเรามองจากภายนอกเข้าไปในรถ จะเห็นเป็นแค่ภาพลางๆ และหากมองตอนกลางคืน เราจะมองไม่เห็นผู้โดยสารในรถเลย ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากๆครับ
และเมื่อมองจากภายในออกมาภายนอก ก็ให้ความรู้สึกสบายตา ทัศนวิสัยในการมองเห็น ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน รวมไปถึงตอนฝนตกด้วยครับ
หากดูที่คุณสมบัติโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าฟิล์มนิรภัยกรองแสง Aestoma เป็นฟิล์มที่ตอบโจทย์สำหรับคนรักรถ หลายๆ ท่านเลยทีเดียว นอกจากนี้ ฟิล์มนิรภัยกรองแสง Aestoma ยังมาพร้อมกับ การรับประกันแบบยาวนานถึง 7 ปี ดูแลตลอดอายุการใช้งาน
หากท่านใดสนใจ สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ติดตั้งฟิล์มนิรภัยกรองแสง Aestoma ได้เลยครับ ให้บริการทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-040-1681 หรือ 064-991-9806
ความคิดเห็น