รีวิว Honda City Hatchback e:HEV RS เครื่องไฮบริด ในบอดี้แฮทช์แบค Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Honda City Hatchback e:HEV RS เครื่องไฮบริด ในบอดี้แฮทช์แบค

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 08 July 2564

Honda City Hatchback e:HEV RS เครื่องยนต์ไฮบริดในตัวถังแฮทช์แบค อเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย และยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Honda SENSING และชุดแต่ง RS


ออโต้สปินน์วันนี้พาทุกท่านมาอยู่กับ Honda City Hatchback e:HEV RS เป็นรุ่นย่อยใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เองครับ ซึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือการใช้เครื่องยนต์ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i MMD) มาประจำการในบอดี้แฮทช์แบค

รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

Honda City Hatchback e:HEV RS ดีไซน์ภายนอก

Honda City Hatchback e:HEV RS มีมิติตัวถัง ความกว้าง 1,748 มม. ความสูง 1,488 มม. ความยาว 4,349 มม. ชุดแต่ง RS รอบคัน กระจังหน้าสีดำ Gloss black กึ่งกลางกระจังคือโลโก้ฮอนด้าขอบสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่บ่งบอกถึงความเป็นยนตกรรมไฮบริด ไฟหน้าเป็นแบบ Full LED เปิด-ปิดอัตโนมัติตามแสงไฟภายนอก และยังมีระบบปรับไฟสูงต่ำมาให้ด้วยครับ ที่ด้านบนของกระจกหน้ารถจะเห็นได้ว่ามีกล้อง ซึงกล้องตัวนี้ทำหน้าที่ในการจับวัตถุ และกะระยะในระบบความปลอดภัย Honda SENSING

กระจกมองข้างสีดำเงา พับและปรับได้ด้วยไฟฟ้า มีไฟเลี้ยวให้ในตัว ที่ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้าย มีกล้องมาให้ 1 ตัว ซึ่งกล้องตัวนี้จะทำงานในระบบความปลอดภัย Honda LaneWatch เมื่อเราเปิดไฟเลี้ยวซ้าย จะขึ้นเป็นภาพแสดงให้ที่หน้าจอตรงกลาง ซึ่งเป็นอีกระบบความปลอดภัยที่ช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากมุมอับสายตาในขณะขับขี่ และในรุ่นนี้ จะได้เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ

เมื่อเราเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะล็อกรถให้เอง ซึ่งระบบนี้มีชื่อเรียกว่า walk Away Auto Lock และเรายังสามารถสตาร์ทรถผ่านกุญแจรีโมทได้อีกด้วยครับ

สำหรับล้อแม็กซ์ จะได้เป็นล้อขนาด 16 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 185/55R16 และเป็นระบบดิสก์เบรกทั้ง 4ล้อ

ไฟท้ายเป็นแบบ LED มีกล้องหลังให้ กันชนแบบสปอร์ต พร้อมไฟทับทิม และที่ด้านล่างสุดมีดิฟฟิวเซอร์หลังสีดำตัดกับสีรถได้อย่างสวยงาม

Honda City Hatchback e:HEV RS ดีไซน์ภายใน

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางโดดเด่นด้วยเบาะหนังกลับดีไซน์ใหม่ตกแต่งแถบสีแดง สื่อถึงความสปอร์ต นุ่ม กระชับกำลังดี 

พวงมาลัย 3 ก้านหุ้มหนัง มีปุ่มมัลติฟังก์ชันฝั่งซ้ายสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง ส่วนปุ่มทางฝั่งขวาสำหรับตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน และระบบความปลอดภัยต่างๆ

จอเรือนไมล์แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับดูค่าต่างๆ ของตัวรถ

จอเครื่องเล่นแบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay พร้อม Google Maps มีระบบสั่งการด้วยเสียงผ่าน SIRI และระบบเชื่อมต่อ Honda Connect

และถ้าหากเปิดไฟเลี้ยวซ้าย หรือกดปุ่มที่อยู่ปลายก้านทางฝั่งขวา กล้องที่อยู่ใต้กระจกมองข้างฝั่งซ้ายจะทำงาน หน้าจอกลางในรถจะขึ้นเป็นภาพด้านซ้ายของตัวรถ ซึ่งระบบนี้เรียกว่า Honda LaneWatch เป็นระบบความปลอดภัยเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา

สำหรับที่นั่งผู้โดยสารตอนหลัง นั่งสบาย มีพื้นที่เหลือเยอะ มีแอร์หลัง พร้อมช่องจ่ายไฟ ตัวเบาะยังสามารถพับได้หลากหลายรูปแบบ รองรับทุกสไตล์การใช้งาน เมื่อพับเบาะแล้วจะได้พื้นที่ความจุอยู่ที่ 822 ลิตร เท่ากับในรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบเลยครับ

ในส่วนของแบตเตอรี่ไฮบริด ตำแหน่งการวางจะอยู่ตรงช่องวางยางอะไหล่ ยาวไปถึงใต้เบาะหลัง แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เสียพื้นที่ในการโดยสาร หรือบรรทุกของแต่อย่างใด

Honda City Hatchback e:HEV RS เครื่องยนต์

Honda City Hatchback e:HEV RS ขับเคลื่อนด้วยระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i MMD) ระบบ Full Hybrid เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวนึงทำหน้าที่ในการปั่นไฟ ส่วนอีกตัวทำหน้าที่ในการขับเคลื่อน แรงบิดรวม 253 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E-CVT ประหยัดน้ำมันสูงสุด 27 กม./ล. และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 86 กรัม/กิโลเมตร รองรับน้ำมัน E20

พูดง่ายๆก็คือใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกันกับที่อยู่ในบอดี้ซีดาน หากเปรียบเทียบความประหยัดน้ำมันระหว่าง 2 รุ่น City e:HEV รุ่นซีดานจะได้เปรียบเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีกว่า เนื่องจากความแตกต่างของแรงต้านอากาศและน้ำหนักของตัวรถ

ทดสอบการขับขี่ Honda City Hatchback e:HEV RS

ในจังหวะที่ขับออกตัว แค่ยกเท้าออกจากเบรก ตัวรถก็เคลื่อนที่ให้แล้วครับ การออกตัวแทบไม่ต้องเหยียบคันเร่งช่วยเลย การใต่ระดับความเร็ว เพียงแค่เราเหยียบคันเร่งลึกไปอีกนิดเครื่องยนต์รีดกำลังออกมาได้ดี ความเร็วขึ้นพร้อมกับจังหวะเท้า ไม่มีอาการหน่วงใดๆทั้งสิ้น

ในช่วงที่ขับเร่งแซง สามารถเร่งแซงได้แบบทันใจ ไม่ต้องลุ้น เครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือ แต่ขอติอยู่นิดเดียวคือช่วงที่กดคิกดาวน์ เสียงเครื่องยนต์ดังเข้าห้องโดยสารมากไปนิด แต่ก็ไม่ถึงกับรำคาญอะไรครับ

จังหวะที่ขับเข้าโค้ง และเปลี่ยนเลนแบบเร็วๆ ก็ทำได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการท้ายปัด หรือเกิดการไถล น้ำหนักของพวงมาลัยในขณะทำความเร็วตึงมือ ไม่ร่อนไปมา ความนุ่มนวลของช่วงล่างก็ตามสไตล์ของฮอนด้าเลยครับ จะออกแนวสปอร์ต ค่อนไปทางแข็ง แต่ไม่ถึงกับกระด้าง ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็คเฟอสัน สตรัท อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม

สำหรับการเก็บเสียงลมภายนอก หากใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. ก็ถือว่าเก็บเสียงอยู่ในระดับที่รับได้ แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านั้นก็จะเริ่มได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้าห้องโดยสาร

จุดเด่นของรุ่นนี้นอกเหนือจากการใช้เครื่องยนต์ไฮบริดแล้ว Honda City Hatchback E:HEV ยังมาพร้อมกับระบบ Honda SENSING 5 ระบบ ซึ่งผมก็ได้ลองทดสอบแล้ว ถือว่าเจ๋งใช้ได้เลย การทำงานเสถียรมากครับ

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก : หากเราขับจี้ท้ายรถคันหน้ามากเกินไป จะมีสัญญาณเตือนที่หน้าจอ และระบบจะช่วยเบรกหากอยู่ในระยะที่เริ่มไม่ปลอดภัย
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน : เมื่อเราล็อกความเร็วเอาไว้ เราสามารถยกเท้าออกจากคันเร่งได้เลย หากคันหน้าเบรก รถเราก็จะเบรกตาม หากคันหน้าเพิ่มความเร็ว รถเราก็จะเพิ่มความเร็วตามจนถึงความเร็วที่เราล็อกเอาไว้ นอกจากนี้ เรายังสามารถตั้งระดับของความห่างระหว่างคันหน้าได้ถึง 4 ระดับครับ
  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ : หากเราเปลี่ยนเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะขึ้นสัญญาณเตือนที่หน้าจอ พร้อมกับหน่วงพวงมาลัย
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ : การใช้งานระบบนี้ เราจะต้องกดปุ่มที่ฝั่งขวาของพวงมาลัย โดยระบบนี้กล้องที่อยู่ด้านบนของกระจกหน้า จะตรวจจับเส้นเลนถนน และจะบังคับควบคุมตัวรถให้อยู่กึ่งกลางของเลน และในทางโค้งพวงมาลัยก็จะหมุนเลี้ยวให้เอง แต่ถ้าเรายกมือออกจากพวงมาลัย ระบบจะเตือนเพื่อให้เราเอามือจับพวงมาลัยครับ
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ : เมื่อขับผ่านเส้นทางที่มืด ไม่มีรถอยู่ด้านหน้า ระบบจะเปิดไฟสูงให้แบบอัตโนมัติ แต่ถ้ากล้องที่อยู่ด้านบนของกระจกตรวจจับได้ว่ามีรถวิ่งสวนทางมา ก็จะปรับเป็นไฟต่ำให้แบบอัตโนมัติ

สรุปโดยรวม ในความเห็นส่วนตัว ผมว่า Honda City e:HEV ในบอดี้แฮทช์แบคทำออกมาได้สวยลงตัวกว่าซีดาน เป็นรถอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลาย ขับได้ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด เป็นรถไฮบริดที่ขับแล้วประหยัดน้ำมันจริง แม้ตัวเลขที่เคลมเอาไว้ใน Eco Sticker จะอยู่ที่ 27 กม./ล. แต่จากการใช้งานจริงได้ประมาณ 24 กม./ล. สำหรับผมได้เท่านี้คือพอใจมากแล้ว เป็นรถที่ขับแล้วรู้สึกปลอดภัย เพราะมีระบบช่วยต่างๆมากมาย จนแทบจะกึ่งๆ Auto Pilot ความรู้สึกเหมือนได้ขับฮอนด้าแอคคอร์ดแบบย่อไซส์

Honda City Hatchback e:HEV RS ราคา 849,000 บาท

มีให้เลือก 6 สี ได้แก่

  • สีน้ำเงินบริลเลียนท์ สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) สีใหม่
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก)
  • สีดำคริสตัล (มุก)
  • สีเทาโซนิค (มุก)
  • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/cityhatchbackehev


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ