อาวดี เปิดตัวแรงน้องเล็กจากค่ายสี่ห่วง Audi RS 3 มีให้เลือกทั้ง Sportback และ Sedan มาพร้อมพละกำลัง ขุมพลังเบนซินเทอร์โบ TFSI 5 สูบ 2.5 ลิตร 400 แรงม้า
Audi RS 3 2022
รุ่นใหม่นี้ กับ Audi RS 3 ที่มีให้เลือกตัวถัง Sportback เเละ Sedan ในครั้งเดียว แต่ยังมาพร้อมสีพิเศษ เฉพาะรุ่นสองสีอย่าง สีเขียว Kyalami Green และ สีเทา Kemora Gray พิเศษสำหรับตัวถัง 4 ประตู ที่สามารถตัดสีหลังคาด้วยสีดำ Brilliant Black ด้วย
ภายนอก
โดดเด่นด้วยชุดแต่ง RS sport ทำให้ RS 3 มีการออกแบบด้านหน้าแบบใหม่ ที่รวมไปถึงการเอาช่องรับอากาศที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ Singleframe ที่มีตาข่ายรังผึ้งสีดำทั้งกระจังรวมไปถึงโลโก้ด้วย แต่สิ่งที่พิเศษสุดคือ ส่วนของไฟหน้าที่มี กราฟิกไฟหน้า LED ขนาด 3 x 5 ลายธงหมากรุกที่พบได้ในรุ่น RS 3 เท่านั้น
ซุ้มล้อหน้าที่กว้างขึ้นพร้อมช่องระบายอากาศเพื่อรองรับล้อ ลายใหม่ขนาด 19 นิ้ว พร้อมทางเลือกยาง Pirelli P Zero Trofeo R มาให้ เป็นครั้งแรก ส่วนดีไซน์ด้านท้าย ไฟท้ายแบบ LED พร้อม ดิฟฟิวเซอร์หลัง ยาวไปหุ้มปลายท่อไอเสียทรงรีอันเป็นเอกลักษณ์ของ RS sport สองด้าน
การออกแบบภายใน กับบรรยากาศ ให้อารมณ์รถสปอร์ต เต็มขั้นเน้นโทนสีดำ ตั้งแต่พวงมาลัยท้ายตัดแบบสปอร์ตเฉพาะ RS sport ที่หุ้มด้วยหนังเเละ Alcantara พร้อมแถบสีแดงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา รับกับแดชบอร์ดคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบแสดงผลเป็น Audi virtual cockpit กับมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมจับเวลาต่อรอบสนาม แสดงแรง G รวมทั้งไฟแสดงจังหวะการเปลี่ยนที่จะกะพริบบนจอ HUD บนกระจกหน้า ส่วนหน้าจอสัมผัสมีขนาด 10.1 นิ้ว ทำงานเป็น RS Monitor แสดงค่าอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น น้ำมันเครื่อง ตลอดจนแรงดันลมยาง ปิดท้ายด้วยเบาะ sport seats พร้อมหนัง Nappa ประทับตรา RS เดินตะเข็บด้ายสี anthracite
Audi RS 3 รุ่นใหม่นี้ ทั้งในรูปแบบ Sportback เเละ Sedan ที่ยังคงรักษาเครื่องยนต์ TFSI 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi Sport ไว้
เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ TFSI 5 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 400 แรงม้า ที่ 5,600 – 7,000 รอบต่อนาทีเเละแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 500 นิวตันเมตร ที่ 2,250 – 5,600 รอบต่อนาที ซึ่งเพิ่มขึ้น 20 นิวตันเมตรจากรุ่นก่อนจับคู่กับเกียร์ S-tronic คลัตช์คู่ 7 จังหวะที่ปรับปรุงใหม่ ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ล้อ RS Torque Splitter แทนที่ differential ซึ่งระบบนี้จะสามารถกระจายแรงบิดไปยังทั้ง 4 ล้อได้จากอิสระ เพื่อส่งผ่านกำลังไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างสมบูรณ์
ทำให้ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเร็วกว่า RS 3 รุ่นก่อนถึง 0.3 วินาที ก่อนจะทำความเร็วสูงสุดที่ถูกจำกัดที่ 250 กม./ชม. แต่สามารถเลือกอัปเกรดเป็น 280 กม./ชม. หรือ 290 กม./ชม.
Audi RS 3 รุ่นมาตราฐานจะมาพร้อมจานเบรคขนาด 375 มม. ที่ด้านหน้าและ 310 ม. ในด้านหลัง พร้อมคาลิปเปอร์แบบ 6 ลูกสูบที่มีการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ซึ่งเบรคนั้นเบากว่ารุ่นก่อน 10 กก.
ที่มา.CarScoops
ความคิดเห็น