รีวิว Lexus ES300h Premium นุ่ม เงียบ หรูหรา ในราคา 4 ล้านกว่า Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Lexus ES300h Premium นุ่ม เงียบ หรูหรา ในราคา 4 ล้านกว่า

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 26 October 2564

Lexus ES300h อีกหนึ่งรุ่นยอดนิยมของเลกซัส ที่ได้กระแสตอบรับที่ดีจากทั่วโลก ดีไซน์โดนใจ ภายในกว้างขวาง นุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะสำหรับเป็นรถผู้บริหารเลยทีเดียว


Lexus ES300h หลังจากที่เปิดตัวไปได้พักใหญ่ วันนี้ทีมงานออโต้สปินน์มีโอกาสได้ทดสอบกันแบบจริงจัง เลยใช้พื้นที่นี้มาเล่าสู่กันฟังครับ

รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่

Lexus ES300h เป็นรถยนต์ซีดานหรูไซส์กลางที่ค่อนไปทางใหญ่ เป็นรุ่นที่คั่นกลางระหว่าง IS และ LS มีความยาว 4,975 มม. ความกว้าง 1,865 มม. ความสูง 1,445 มม. และมีน้ำหนักสุทธิ 2,150 กม.

Lexus ES300h คันที่นำมารีวิวนี้ เป็นรุ่นย่อย Premium ซึ่งรุ่นย่อยนี้อดีตเคยเป็นรุ่นท็อปสุด แต่ในปี 2021 นี้ ทางเลกซัสได้เพิ่มรุ่น F Sport เข้ามา จึงทำให้รุ่น Premium กลายเป็นรุ่นรองท็อป

โดยรุ่นที่จำหน่ายในไทยมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย คือ

  • Lexus ES300h Luxury ราคา 3,625,000 บาท
  • Lexus ES300h Gland Luxury ราคา 3,795,000 บาท
  • Lexus ES300h Premium ราคา 4,210,000 บาท
  • Lexus ES300h F Sport ราคา 4,380,000 บาท

ดีไซน์ภายนอก Lexus ES300h Premium

ด้านหน้าดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ฝากระโปรงหน้ามีลายเส้นส่วนเว้าโค้งรับเข้ากับชุดกันชนหน้า ช่วยเสริมให้ตัวรถดูมีมิติมากขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่ดีไซน์ Spindle Grille เป็นเอกลักษณ์ ที่เมื่อใครได้เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าคันนี้คือเลกซัส ในส่วนของไฟหน้าเป็นแบบ 3-eye LED Headlamps มาพร้อมกับเทคโนโลยี Blade Scan Adaptive High-beam System ทำหน้าที่ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ โดยโคมเล็กๆที่อยู่ภายในจะทำงานแยกอิสระ ช่วยกระจายแสงไฟด้านหน้ารถได้อย่างแม่นยำและละเอียด พร้อมไฟ Daytime Running รูปทรงตัว L

ลายเส้นด้านข้าง มีเหลี่ยมสันที่ชัดเจน โดยการออกแบบ ยังได้คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ โดยอากาศที่ไหลผ่านด้านบนจะถูกรีดขึ้นหลังคาและกดตัวรถ ส่วนอากาศที่ไหลผ่านด้านข้าง จะถูกรีดมาตามแนวเส้นส่วนเว้าโค้ง และหากสังเกตดีๆจะพบว่าหลังคาด้านท้าย ช่วงเสา B ไปเสา C จะลาดลง นอกจากจะช่วยเรื่องแอโรไดนามิกแล้ว ยังทำให้ตัวรถมีความสปอร์ต ดูเป็นวัยรุ่นมากขึ้น

กระจกมองข้างถูกปรับระยะให้มีช่องว่างระหว่างเสา A มากขึ้น ลดมุมอับสายตาของผู้ขับขี่เวลาเลี้ยวเข้าซอย หรือเลี้ยวกลับรถ ซึ่งในจุดนี้ผมชอบครับเพราะช่วยให้มุมมองเวลาขับขี่ โล่งขึ้น และที่ด้านล่างของกระจกมองข้างยังฝังด้วยกล้อง ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ซึ่งอยู่ในฟังก์ชันกล้องมุมมองแบบ 360 องศานั่นเองครับ

กุญแจเป็นแบบคีย์เลสการ์ด การล็อค-หรือปลดล็อครถ สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องกดปุ่มที่รีโมท เพียงแค่พกกุญแจไว้ที่ตัว ก็เปิดประตูได้ทันที เวลาจะล็อครถเพียงแค่ใช้นิ้วสัมผัสที่มือเปิดประตูเบาๆ รถก็จะล็อคให้ทันที

ในรุ่นเริ่มต้นจนถึงรุ่น Premium จะได้เป็นล้ออัลลอยสีเทา ขนาด 18 นิ้ว พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ ซึ่งจะต่างกับในรุ่น F Sport ที่จะได้เป็นล้อขนาด 19 นิ้ว

ไฟท้ายเป็นแบบ LED โดดเด่นด้วยลำแสงสีแดงรูปตัว L ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเลกซัส เมื่อมองตอนกลางคืนจะเห็นเป็นแถบไฟ 3 เส้น สวยงามมากครับ และยังตกแต่งด้วยสปอยเลอร์หลัง และเน้นการใช้สีเงินโครเมี่ยมเข้ามาตกแต่งเพื่อเสริมให้ตัวรถดูพรีเมี่ยมหรูหราขึ้น เช่นเส้นโครเมี่ยมคาดฝากระโปรงท้าย และเส้นโครเมี่ยมที่ชายล่างกันชน

การเปิดฝาท้ายสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยระบบ Kick Sensor เพียงแค่ใช้เท้าวางไปที่ใต้กันชนหลัง ฝาท้ายก็จะเปิดแบบอัตโนมัติ หรือถ้าจะปิดฝาท้าย ก็แค่ใช้เท้าวางเข้าไปที่ใต้กันชนหลังอีกครั้ง หรือกดปุ่มที่อยู่ตรงขอบฝาท้ายก็ได้ครับ

ดีไซน์ภายใน Lexus ES300h Premium

ภายใน Lexus ES300h การออกแบบดูเรียบง่าย มีโทนสีให้เลือกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับเกรดของรถ แต่สำหรับคันนี้ เป็นภายในสี Hazel อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารก็มีให้อย่างครบครัน เช่น เบาะอุ่นร้อน เบาะเป่าลมเย็น ช่องจ่ายไฟ 12V ช่องเสียบ USB Type A, AUX แท่นชาจ์มือถือแบบไร้สาย และอื่น ๆ อีกพอสมควร เบาะตอนหน้าปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมเมมโมรี่ 3 ตำแหน่ง นั่งสบาย นุ่มกำลังดี ขับนานๆไม่รู้สึกเมื่อย สรีระท่านั่ง และมุมมองต่าง ๆ ของผู้ขับขี่โล่งโปร่งสบายตา

พวงมาลัยแบบ 3 ก้านหุ้มหนัง ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง ดีไซน์ของพวงมาลัยจะออกแนวผู้ใหญ่หน่อย มีปุ่มมัลติฟังก์ชั่นฝั่งซ้ายสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง มีปุ่มรับสาย-วางสาย ปุ่มสั่งงานด้วยเสียง ส่วนปุ่มทางฝั่งขวา สำหรับตั้งค่าเปิด-ปิดระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ของตัวรถ ที่หลังพวงมาลัยมีแป้น Paddle Shift มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน All Speed Adaptive Cruise Control

ก้านที่อยู่หลังพวงมาลัย ทางฝั่งซ้ายสำหรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ มีทั้งหมด 3 โหมด คือ Eco ,Normal ,Sport (ในรุ่น F sport จะมีโหมด Sport+ เพิ่มขึ้นมาอีกโหมด) และก้านทางฝั่งขวาสำหรับเปิด-ปิดระบบควบคุมการทรงตัว

จอเครื่องเล่นขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วระบบสัมผัส รองรับ Apple CarPlay ,Bluetooth และเมื่อเราอยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอจะสลับเป็นภาพด้านหลังรถ เพื่อช่วยให้การถอยจอดง่ายและปลอดภัยขึ้น และยังสามารถดูภาพรถรอบคันแบบ 360 องศา จากมุมสูง

นอกเหนือจากการใช้นิ้วสัมผัสที่หน้าจอเครื่องเล่นแล้ว ยังสามารถควบคุมผ่าน Touch Pad ที่อยู่ข้างคันเกียร์ ซึ่งวิธีใช้งานก็สะดวกครับ ใช้นิ้วเลือนที่ตัว Touch Pad แล้วคลิกลงไปได้เลย ที่ด้านบนจะมีปุ่มลัด 3 ปุ่ม คือ ปุ่ม Map,ปุ่มเมนู และปุ่มย้อนกลับ และข้างๆกันจะมีปุ่ม Hold และปุ่ม EV ขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า

Lexus ES300h ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิก ด้วยนาฬิกาแบบเข็ม และยังมีช่องสำหรับใส่แผ่นซีดี

ในส่วนของระบบแอร์ เป็นแบบออโต้ 3 โซน (หน้า 2 โซน หลัง 1 โซน)

ที่วางแขนตอนหน้าเปิดได้ 2 ทาง ภายในมีช่องสำหรับชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย

หลังคา Moon roof เปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้า และสามารถกระดกได้

เบาะตอนหลังกว้างขวาง ตามสไตล์รถผู้บริหาร นั่งสบาย ฟองน้ำนุ่มกำลังดี มีแอร์หลัง พร้อมช่องจ่ายไฟ และช่องเสียบ USB Type C 2 ช่อง

ผู้โดยสารเบาะหลังสามารถควบคุมระบบแอร์ และเครื่องเล่นวิทยุได้ด้วยตัวเอง ผ่านปุ่มคอนโทรลตรงที่วางแขนตรงกลาง นอกจากนี้ ที่เบาะหลังยังสามารถปรับเอนได้ด้วยระบบไฟฟ้า มีปุ่มเป่าลมเบาะร้อน มีม่านด้านข้าง และม่านหลังแบบไฟฟ้า

เครื่องยนต์ Lexus ES300h

Lexus ES300h ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,487 ซีซี. VVT-iE ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตร ที่ 3,600 – 5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร

เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังสูงสุดรวม 218 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ E-CVT แบตเตอรี่ Nickel-Metal Hydride อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.9 วินาที

ระบบความปลอดภัย Lexus ES300h

  • ระบบเบรก ABS / EBD / BA
  • ระบบช่วยเบรก Auto Glide Control AGC
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC + DSC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ระบบช่วยจอด Park Assist พร้อมจอแสดงภาพด้านหลัง
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด Parking Brake Assist System : PKSB
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า พร้อมเบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
  • ระบบช่วยเปลี่ยนเลน พร้อมสัญญาณเตือนมุมอับสายตา Lane Change Assist with Blind Spot Monitor
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน All Speed Adaptive Cruise Control
  • ระบบช่วยเตือนการออกนอกเลนพร้อมระบบสั่นเตือนที่พวงมาลัย 
  • กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Camera
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS
  • ระบบถุงลมนิรภัยรอบคัน 10 ตำแหน่ง

ทดสอบขับขี่ Lexus ES300h Premium

โหมดการขับขี่มีให้เลือกอยู่ 3 โหมดครับ ผมขอแยกอธิบายแบบทีละโหมดเลยนะครับ

  • Eco Mode โหมดนี้เน้นการขับขี่แบบประหยัดครับ เครื่องยนต์มีกำลังเพียงพอที่จะให้เราขับขี่แบบสบายๆ หรือเร่งแซงแบบธรรมดา ที่ไม่ได้ต้องการกำลังอะไรมากมาย หากเราไม่ใช่ขาซิ่ง สามารถขับขี่ในโหมดนี้ไปจนถึงจุดหมายปลายทางเลยก็ได้นะครับ เครื่องยนต์ไม่อืด ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เหมาะกับการใช้งานในเมืองแบบรถติดๆ แถมยังประหยัดเชื้อเพลิงด้วยครับ
  • Normal Mode โหมดนี้ ผมว่าเป็นโหมดที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งานของรถคันนี้แล้วล่ะครับ เพราะขับสนุก เร่งแซงทันใจแบบไม่ต้องลุ้น ขับขึ้นทางลาดชันก็มีกำลังแบบเหลือๆ แทบไม่ต้องเค้นคันเร่งเลยล่ะ หากอยากซิ่งในบางจังหวะ ก็แค่กดคันเร่งลึกเข้าไปอีกหน่อย เครื่องยนต์มีกำลังเหลือๆ
  • Sport Mode โหมดนี้เป็นโหมดแรงที่สุดของรถคันนี้ครับ เหมาะสำหรับขาซิ่งเลยล่ะ ขับได้สนุกคันเร่งติดเท้า รอบกวาดไว มุดซ้ายมุดขวาแบบมันๆ เร่งแซงทันใจ แต่ในโหมดนี้ก็ซดน้ำมันเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ

ซึ่งทั้ง 3 โหมดนี้ ถือว่าอัตราเร่งดีใช้ได้เลยครับ รอบมาไว ขับเร่งแซงได้แบบง่ายๆไม่ต้องลุ้น เครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือ ขับขึ้นเขา-ลงเขาได้สบายไร้กังวล ในเรื่องของพละกำลังไม่รู้จะติเรื่องอะไรเลย ช่วงการตัดต่อระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากับเครื่องยนต์ ทำได้สมูท ไม่กระตุก ไม่กระชาก ลื่นไหลได้แบบเนียนๆ

การทรงตัวและการเข้าโค้งของ Lexus ES300h ทำได้อย่างมั่นใจ ไม่ร่อน ไม่หลุดโค้ง ระบบกันสะเทือนหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังปีกนกคู่ จังหวะที่ขับจั้มคอสะพานตัวรถมีความนิ่มนวล ไม่โยน ไม่แข็งกระด้าง ออกแนวนุ่มแต่ไม่ย้วย ช่วงล่างไม่ต้องไปปรับอะไรเพิ่มแล้ว ผมว่าลงตัวมาก ขับผ่านทางขรุขระ ลูกระนาด ผ่านไปได้แบบเนียนๆ ไม่ตึงตัง แต่สำหรับระบบเบรก ผมยังไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่ครับ ต้องเผื่อระยะเบรกให้มากกว่าเดิม เพราะจังหวะที่คิดว่ารถจะต้องหยุด มันไม่หยุด อาจเพราะตัวรถมีน้ำหนักมากถึง 2 ตันกว่า ๆ ด้วยแหละมั้ง

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้ขับคันนี้ก็คือ มีระบบความปลอดภัยมาให้แบบครบครัน เช่นระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน เวลาขับทางไกลช่วยลดความล้าได้เยอะเลยครับ และอีกระบบที่ชอบคือ ระบบเบรกอัตโนมัติ ซึ่งไม่ได้เบรกให้แค่ด้านหน้านะครับ ในกรณีที่เราขับถอยหลัง หากมีสิ่งกีดขวางรถก็เบรกให้เช่นกัน

สำหรับการเก็บเสียง เป็นรถที่เก็บเสียงดีใช้ได้เลยครับ ใช้ความเร็ว 120-140 กม./ชม. ยังแทบไม่ได้ยินเสียงลมเข้าห้องโดยสารเลย รวมไปถึงเสียงของเครื่องยนต์ด้วย เก็บเสียงได้ดีเลย มีระบบควบคุมเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนโดยใช้ไมโครโฟนเป็นตัวดักจับเสียงจากเครื่องยนต์ เพื่อวัดระดับว่าต้องควบคุมเสียงรบกวนมากแค่ไหน โดยระบบจะปล่อยคลื่นเสียงที่ตรงกันข้ามออกมาทางลำโพงเพื่อหักล้างกัน จึงส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบ

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ทางเลกซัสเคลมไว้ว่า Lexus ES 300h ประหยัดอยู่ที่ 23.2 กม./ลิตร แต่จากการใช้งานจริง ขับแบบคนทั่วไปที่เขาขับกัน ช้าบ้าง เร็วบ้าง เร่งแซงบ้าง ตามการใช้งานในชีวิตประจำวัน ผมทำได้อยู่ที่ประมาณ 18-19 กม./ลิตร ซึ่งก็ถือว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันพอสมควร เพราะต้องแบกตัวรถที่มีน้ำหนักถึง 2 ตันกว่า ๆ

สรุปโดยรวม

ถ้าถามว่าคุ้มมั้ยกับเงินที่จ่ายไป 4ล้านกว่า เพื่อซื้อ Lexus ES 300h รุ่น Premium หากมองในมุมของผู้ใช้งาน ผมว่าก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ เพราะได้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดูหรูหรา ได้ออปชั่นและระบบความปลอดภัยแบบครบครัน เครื่องยนต์อัตราเร่งดี ประหยัดน้ำมัน เหมาะกับเป็นรถผู้บริหารอย่างแท้จริง

แต่ถ้าดูที่ราคา ก็ถือว่าแพงพอตัวอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าเทียบกับคู่แข่ง อย่างเช่น BMW Series 5 ,Mercedes Benz E Class ก็ถือว่าคู่แข่งทำราคาได้ต่ำกว่าพอสมควร สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนครับ ว่าชอบแนวไหน แต่ทั้งนี้ Lexus ES300h ก็ยังมีรุ่นย่อยอื่น ๆ ให้เลือกอีกมากมายเริ่มตั้งแต่ราคา 3,625,000 - 4,380,000 บาทซึ่งออฟชั่นที่ได้ก็แตกต่างกันไปตามราคา

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ