เปิดตัว Honda HR-V ใหม่ ทุกรุ่นย่อยใช้เครื่องยนต์ 1.5 ไฮบริด Share this
รถเปิดตัวใหม่
โหมดการอ่าน

เปิดตัว Honda HR-V ใหม่ ทุกรุ่นย่อยใช้เครื่องยนต์ 1.5 ไฮบริด

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 05 November 2564

All new Honda HR-V (ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่) ได้รับการออกแบบที่สะท้อนตัวตนของยนตรกรรมเอสยูวีได้อย่างชัดเจน โดยเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับและมอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในด้านของดีไซน์ที่ล้ำสมัย ดึงดูดทุกสายตา และทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม อีกทั้งสเปซภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง อเนกประสงค์ รองรับทุกรูปแบบการใช้งาน พร้อมมอบพลังใหม่ในทุกการเดินทาง

รับชมวีดีโอรีวิว Honda HR-V 2022 ได้ที่นี่

ดีไซน์ภายนอก Honda HR-V 2022 ใหม่

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นในสไตล์สปอร์ตคูเป้ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้า พร้อมด้วยการปรับตำแหน่งของเสา A ที่ช่วยให้กระโปรงหน้าดูลาดยาวยิ่งขึ้น ตอบรับกับการใช้เส้นสายในแนวนอนที่ยาวต่อเนื่อง

จากไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย มอบความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย อีกทั้งด้านหลังมาพร้อมดีไซน์ท้ายลาดสไตล์ Fastback ที่ผสานการออกแบบเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ไว้อย่างลงตัว ช่วยให้ตัวรถสวยงามและเฉียบคมสมบูรณ์แบบในทุกมิติ

  • กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่สะท้อนสไตล์ที่แตกต่างอย่างโดดเด่น โดยมาพร้อมสีเดียวกับตัวรถ (รุ่น e:HEV EL) และสีดำเงา (รุ่น e:HEV E)
  • กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED Light Strip ที่เชื่อมต่อกับไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
  • สปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต
  • เสาอากาศครีบฉลาม
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)
  • โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นยนตรกรรมไฮบริดได้อย่างชัดเจน

ครั้งแรกในโลกกับรุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอกซ์คลูซีฟรอบคัน

  • โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS
  • สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง สะท้อนพลังใหม่ที่แตกต่าง
  • กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม
  • ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential
  • ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke
  • ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว
  • หลังคากระจกแบบพาโนรามา (Panoramic Glass Roof)

ดีไซน์ภายใน Honda HR-V 2022 ใหม่

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบโดยมุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง พื้นที่กว้างขวาง สะดวกสบายทุกที่นั่ง และคงไว้ซึ่งอรรถประโยชน์ โดยบริเวณคอนโซลหน้ามีการใช้เส้นสายแนวนอน พร้อมผิวสัมผัสที่เรียบ ผนวกกับการออกแบบที่ให้แสงภายนอกให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ส่งผลให้ห้องโดยสารโปร่งโล่ง อีกทั้งมีการจัดวางเลย์เอาต์และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ มอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร พร้อมด้วยช่องปรับอากาศตอนหลัง (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)

ภายในห้องโดยสารทุกรุ่นมาพร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่สีดำ ที่ออกแบบให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งได้ดียิ่งขึ้น โดยในรุ่น RS มาพร้อมเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต แป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต และ พวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

เบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์ แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับพับได้หลากหลาย โดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ ได้แก่

  • Utility Mode : เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของฮอนด้า ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
  • Long Mode : เบาะด้านหน้าและด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
  • Tall Mode : ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ ฮอนด้า ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ซึ่งมีเพียงฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ รุ่นเดียวในเซกเมนต์ที่สามารถพับเบาะในโหมดนี้ได้

ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) อำนวยความสะดวกขึ้นอีกขั้น เพียงสอดเท้าไปที่เซนเซอร์บริเวณใต้กันชนด้านหลัง ระบบจะเปิดฝากระโปรงท้ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงกดสวิตช์ปิด พร้อมทั้งหยิบสัมภาระออกจากท้ายรถ และเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะทำการปิดฝากระโปรงท้ายลงโดยอัตโนมัติ โดยขณะใช้งานจะต้องมีกุญแจรีโมทอยู่กับตัว และอยู่ห่างจากตัวรถอย่างน้อย 1 เมตร (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

  • มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
  • ช่องปรับอากาศตอนหลัง (รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS)
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV RS) ลำโพง 6 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV EL) และ ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น e:HEV E)
  • ไฟอ่านหนังสือด้านหลังแบบ LED เปิด-ปิดแบบสัมผัส (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • แผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB จำนวน 4 ช่อง ด้านหน้า 2 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) และช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหน้า จำนวน 2 ช่อง (รุ่น e:HEV E และรุ่น e:HEV EL)

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง, ปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ และปุ่มควบคุมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING

เครื่องยนต์ Honda HR-V 2022 ใหม่

ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ ทุกรุ่นย่อย ขับเคลื่อนด้วยระบบฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร

โดยระบบ e:HEV มาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 โหมด ซึ่งระบบจะปรับเปลี่ยนโหมดให้เหมาะสมที่สุดในทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด มอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ได้แก่

  • โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง โดยแบตเตอรี่ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความจุมากยิ่งขึ้น ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่อง
  • โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
  • โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่

เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

โดยทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่

  • ECON Mode : โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
  • Normal Mode : โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
  • Sport Mode : โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ที่เหมาะกับการใช้งานบนถนนในทุกสภาวะการขับขี่ ให้ทั้งความสนุกสนานในการขับขี่ควบคู่ไปกับความปลอดภัย

Honda HR-V ใหม่ ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) : ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) : กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
  • ะบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) : ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) : ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) : ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง
  • ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) : ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า

Honda HR-V ใหม่ มีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย

  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบที่ทำงานเพื่อช่วยควบคุมคันเร่งและเบรก เพื่อรักษาความเร็วได้อย่างเหมาะสมเมื่อขับรถลงจากทางลาดชัน โดยระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (กม./ชม.)
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
  • ระบบ Auto Brake Hold ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยหากกดสวิตช์เปิดการทำงานของระบบไว้ ระบบจะเริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรกหยุดรถ และระบบจะปล่อยเบรกเมื่อผู้ขับขี่เหยียบคันเร่ง โดยระบบจะรักษาการเปิดการทำงานไว้อย่างอัตโนมัติ โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องกดสวิตช์ทุกครั้งเพื่อใช้งาน
  • ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
  • ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) สามารถล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถในระยะ 1.5 เมตรขึ้นไป
  • ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
  • ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
  • ระบบเพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่
  • พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเกียร์แบบแปรผัน
  • กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
  • ถุงลม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และ ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น
  • ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist - VSA)
  • ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist - HSA)
  • สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal - ESS)

Honda HR-V 2022 ราคาเท่าไหร่

Honda HR-V e:HEV มีให้เลือก 3 รุ่น มีราคาดังนี้

  • Honda HR-V รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,200,000 บาท
  • Honda HR-V รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณ 1,100,000 บาท
  • Honda HR-V รุ่น e:HEV E ราคาประมาณ 990,000 บาท

Honda HR-V ใหม่ มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่

  • สีใหม่ สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
  • สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
  • สีขาวแพลทินัม (มุก)
  • สีดำคริสตัล (มุก)
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำ เฉพาะรุ่น e:HEV RS

ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง ยกระดับความสปอร์ตอย่างมีสไตล์ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) โดยมีให้เลือกทั้งไอเท็มอุปกรณ์ตกแต่ง อาทิ กระจังหน้า ชุดสเกิร์ตหน้า ชุดตกแต่งกันชนหลัง ชุดตกแต่งประตูข้าง คิ้วตกแต่งไฟตัดหมอก ชุดไฟตัดหมอกหน้า LED คิ้วบันไดสเตนเลส LED ปลอกท่อไอเสีย ม่านบังแดดผู้โดยสารตอนหลัง หรือในรูปแบบ

แพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน อาทิ แพ็กเกจ Modulo Urban Package ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า ชุดตกแต่งกันชนหลัง และชุดตกแต่งประตูข้าง

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn
เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 
ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ