Honda HR-V e:HEV 2024 มาพร้อมกับ 3 รุ่นย่อยเหมือนเดิม แต่มีการอัปเกรดหน้าตาใหม่ พร้อมกับเพิ่ม Option อีกเล็กน้อยเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากยิ่งขึ้น
Honda HR-V เปิดตัวในไทยครั้งแรกช่วงปี 2014 ถือเป็นรถที่ได้กระแสตอบรับที่ดีมากรุ่นนึงเลยทีเดียว ก่อนจะสร้างเสียงฮือฮาให้กับสาวกฮอนด้าอีกครั้งด้วยการเปิดตัว HR-V โฉมใหม่ในปี 2021 ชูจุดเด่นเรื่องความประหยัดน้ำมันโดยการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ไฮบริด (e:HEV) จากการที่ได้ขับทดสอบถือว่าเป็นรถที่ขับดี คล่องตัว และประหยัดน้ำมันมากเมื่อเทียบกับโฉมแรก สำหรับรุ่นปี 2024 นี้ ถือเป็นรุ่นปรับปรุงโฉมของเจเนอเรชั่นปัจจุบัน
ราคา Honda HR-V 2024
มีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- e:HEV E ราคา 89x,xxx บาท
- e:HEV EL ราคา 1,0xx,xxx บาท
- e:HEV RS ราคา 1,1xx,xxx บาท
(เป็นราคาประมาณการ ส่วนราคาจริงประกาศในช่วงงาน MOTOR EXPO 2024)
ไฮไลต์จุดเปลี่ยนที่โดดเด่นของ Honda HR-V e:HEV 2024
ดีไซน์ภายนอกอัปลุคความสปอร์ตแกร่งสไตล์เอสยูวีไปอีกขั้น พร้อมดึงดูดสายตาด้วยการออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ ยกระดับความสปอร์ตแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมเพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย ได้แก่
- ใหม่! การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
- ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- ใหม่! อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
- มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรก
HR-V รุ่น RS 2024 ต่างจากรุ่นเก่ายังไง ?
- การออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
- ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซน์ใหม่ สี Smoke
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว สีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut
- เพิ่มระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB)
- เพื่มระบบไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
- เพิ่มเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
- ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง พร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์
- อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
HR-V รุ่น EL 2024 ต่างจากรุ่นเก่ายังไง ?
- ออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ
- ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง พร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
- เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
- แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
- แอร์หลังยังมีให้เหมือนเดิม
HR-V รุ่น E 2024 ต่างจากรุ่นเก่ายังไง ?
- ออกแบบด้านหน้าดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ (เหมือนกับรุ่น EL )
- ออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง พร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
- อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
- แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
- เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง
- ราคาถูกลงจากเดิมประมาณ 8 หมื่นบาท
Honda HR-V e:HEV 2024 ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ มอบการตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร และมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 94 กรัม/กิโลเมตร น้ำมันหนึ่งถังไปได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร
โดยระบบฟูลไฮบริด e:HEV มีจุดเด่นอยู่ที่การปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ โดยระบบจะเลือกโหมดที่เหมาะสมตามระดับแบตเตอรี่ สภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมดการทำงาน ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่อง
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวลและทรงพลัง
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยชุดล็อกอัพคลัตช์ที่อยู่ในเกียร์อัตโนมัติ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงและมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
(รับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
Honda HR-V e:HEV 2024 ทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสวิตช์ฟังก์ชัน Drive Mode ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
- ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
- Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
- Sport Mode - โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ
นอกจากนี้ ยังมีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ที่ช่วยหน่วงความเร็วรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องแตะเบรกบ่อย ๆ เมื่อขับรถตามคันหน้าหรือในจังหวะที่กำลังจะติดไฟแดง โดยเมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง จะสามารถควบคุมอัตราการชะลอความเร็วของรถได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมช่วงระยะการลดความเร็วได้ 4 ระดับ อีกทั้งเมื่อขับรถลงทางลาด ผู้ขับขี่สามารถควบคุมช่วงระยะการลดความเร็วได้ ส่งผลให้สามารถรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยกับรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าได้ นอกจากนี้ขณะลดความเร็ว ยังสามารถช่วยชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบตเตอรี่ได้อีกด้วย มอบความสะดวกสบายควบคู่ไปกับความปลอดภัย
ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)
ทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่ทำงานร่วมกับกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลักดังนี้
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง รวมถึงมีการสั่นเตือนของพวงมาลัยในกรณีรถสวนทาง ซึ่งหากผู้ขับขี่ยังไม่ตอบสนอง หรือในกรณีที่อยู่ในระยะเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) กล้องด้านหน้าจะทำการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ ซึ่งระบบจะช่วยเพิ่มแรงหน่วงของพวงมาลัย เพื่อช่วยผู้ขับขี่ควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางปกติ และลดอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) ระบบจะใช้กล้องด้านหน้าในการตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางจราจร หากพบว่ารถอยู่ในสภาวะเบี่ยงออกนอกช่องทางโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอแสดงข้อมูลพร้อมการสั่นเตือนของพวงมาลัย และในกรณีที่รถเริ่มเบี่ยงออกนอกช่องทางมากยิ่งขึ้น ระบบจะช่วยหน่วงพวงมาลัย เพื่อให้รถกลับเข้าสู่ช่องทางปกติ ช่วยลดความเสี่ยงที่รถจะออกนอกช่องทางจราจร
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติด้วยกล้อง โดยจะปรับเป็นไฟสูงเมื่อขับขี่ในที่มืด และจะปรับเป็นไฟต่ำเมื่อตรวจจับได้ว่ามีรถสวนทางหรือรถยนต์ด้านหน้า ใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) โดยระบบจะปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา อัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถยนต์ด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) ระบบช่วยควบคุมความเร็วของรถให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้ และระบบจะปรับความเร็วอัตโนมัติ โดยมีกล้องตรวจจับรถคันหน้าเพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างเหมาะสม และในการขับขี่ที่ความเร็วต่ำ ระบบจะช่วยปรับความเร็วให้รถเคลื่อนที่ตามรถคันหน้า รวมถึงเบรกและหยุดตามอัตโนมัติ ระบบจะเริ่มทำงานอีกครั้งเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มที่พวงมาลัยหรือเหยียบคันเร่ง
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) ระบบที่ตรวจจับการเคลื่อนที่ของรถคันหน้า โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่านหน้าจอแสดงข้อมูลและสัญญาณเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เคลื่อนที่ตามรถคันหน้า
ราคา Honda HR-V e:HEV 2024
มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย
- e:HEV E ราคา 1,1xx,xxx บาท
- e:HEV EL ราคา 1,0xx,xxx บาท
- e:HEV RS ราคา 89x,xxx บาท
Honda HR-V e:HEV 2024 ภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี
- สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) หลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น eHEV RS และ eHEV EL)
- สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) หลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
- สีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก)
- สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
- สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น