ทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม.

ในการทดสอบหาอัตราสิ้นเปลืองพลังงานของ Mercedes-Benz VISION EQXX นี้ ทาง Mercedes ตั้งโจทย์ว่าอยากให้เป็นการทดสอบแบบใช้งานจริง ภายใต้สถานะการณ์จริงทั้งหมดด้วยการชาร์จแบตเตอร์รี่จากต้นทางเท่านั้น โดยมีการปิดผนึกช่องชาร์จแบตเตอร์รี่เอาไว้ด้วย เพื่อการันตีว่าไม่ได้มีการแอบชาร์จระหว่างทางแน่นอน ได้รับการรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญจาก TÜV Süd และนี่จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ กับรถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes ในอนาคตทั้งหมดว่าต้องได้รับการพัฒนาในทุกรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอากาศพลศาสตร์, ระบบขับเคลื่อน, วิศวกรรม, ระบบซอฟแวร์ รวมไปถึงรายละเอียดอื่นๆ ให้มีความสอดคล้องกันที่สุด เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

Mercedes-Benz VISION EQXX เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นด้วยองค์ความรู้ขั้นสูงที่สุดที่ทาง Mercedes มี เป็นการทำงานร่วมกันกับทีมวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ผสมผสานจากบทเรียนมากมายจาก Mercedes AMG F1 ซึ่งเทคโนโลยีหลายๆ ส่วนของแบรนด์ ได้ถูกบรรจุลงไปในรถยนต์รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบันหลายรุ่นแล้ว โดยเจ้า Mercedes-Benz VISION EQXX ถือเป็นการผลักดันสิ่งที่เป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างรถยนต์สักคันหนึ่ง

เส้นทางทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX

ในการทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX เป็นการทดสอบบนถนนจริงทั้งหมด ซึ่งจะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน, สภาพเส้นทาง, การจราจร ล้วนแล้วมีความแตกต่างกันทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ว่า EQXX รถยนต์ไฟฟ้าที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมทั้งด้านวิศวกรรมโครงสร้าง และซอฟแวร์ จะสามารถทำลายขีดจำกัดเดิมๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงรถยนต์แบบปกติทั่วไปอย่างไรได้บ้าง เพื่อแสดงให้เห็นว่ามัน "เป็นไปได้" การทดสอบนี้จึงกำหนดเส้นทางขับขี่ผ่านประเทศในยุโรปหลายแห่ง จากเยอรมนีไปยังสวิตเซอร์แลนด์ เข้าสู่อิตาลี ผ่านมิลาน และสิ้นสุดปลายทางที่เมืองท่า แคสซิส ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

Mercedes-Benz VISION EQXX ขับขี่ผ่านทั้งเส้นทางในเมือง, ทางด่วน และภูเขา โดยออกเดินทางจากเมือง ซินเดลฟิงเงน อันเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Mercedes ซึ่งมีสภาพอากาศหนาวเย็น โดยมีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 3 - 18 องศาเซลเซียส วิ่งผ่านเส้นทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ ที่มีฝนตกบ้าง และไปยังทางใต้ ที่มีทั้งลมพายุและแสงแดด เพื่อทดสอบผลการทำงานของตัวรถหลายๆ อย่าง

ทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX

เริ่มต้นการทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX ออกเดินทางจากเมือง ซินเดลฟิงเงน มุ่งหน้าไปยังเมืองซูริก ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผ่านทางด่วน Autobahn 81 โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยที่ 140 กม./ชม. ด้วยค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน (c_d) เพียง 0.17 เท่านั้น ทำให้ตัวรถแทบไม่มีแรงลมต้านด้านหน้า โดยค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานต่ำเช่นนี้ เกิดมาจากการออกแบบตัวรถให้มีความลู่ลมสูงเป็นพิเศษ ประกอบกับช่องตัดอากาศต่างๆ ของตัวรถ รวมไปถึงล้อ ล้วนแล้วส่งผลให้ตัวรถมีความลู่ลมมากเป็นพิเศษ

Mercedes-Benz VISION EQXX ใช้ยาง Bridgestone ขนาด 185/65 R 20 97 T ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานกับ EQXX โดยตรง โดยมีแรงต้านทานการหมุนเพียง 4.7 เท่านั้น ซึ่งยางมาตรฐานยุโรปทั่วไป จะมีอัตราต้านทานการหมุนอยู่ที่ 6.5 เลยทีเดียว โดยใน EQS ใช้ยางที่มีอัตราต้านทานการหมุนที่ 5.9 ซึ่งก็ว่าต่ำมากแล้ว แต่ของ EQXX ต่ำมากกว่า ซึ่งยางรุ่นพิเศษนี้ ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่างทีม Bridgestone และทีมอากาศพลศาสตร์ของ Mercedes-Benz ซึ่งช่วยทำให้ลดแรงต้านการหมุนได้มากถึง 20% เลยทีเดียว

Mercedes-Benz VISION EQXX ขึ้นเขา

ในการทดสอบขับขึ้นเขาจาก Amsteg ถึง Göschenen ระยะทาง 14 กม. ที่มีความลาดชัน 5% ซึ่งในทางลาดชันนั้น เป็นจุดที่ชี้ขาดเรื่องของน้ำหนักส่วนเกินได้เป็นอย่างดี สิ่งใดที่ไม่จำเป็นสำหรับการสร้างขึ้นมาเป็นรถยนต์สักคัน จะเป็นจุดที่ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ จุดนี้ที่ทำให้เห็นประสิทธิภาพของน้ำหนักตัวถังที่เบาได้เป็นอย่างดี

หัวใจสำคัญของ Mercedes-Benz VISION EQXX นั่นคือโครงสร้างที่แข็งแกร่ง แต่มีน้ำหนักเบา โดยตัวถังของตัวรถได้รับการพัฒนาใหม่ขึ้นมาทั้งหมด อันเป็นการใช้องค์ความรู้จาก Formula 1 ในการพัฒนาขึ้นมา โดยออกแบบให้ตัวถังใช้โครงสร้างจากคาร์บอนไฟเบอร์เป็นหลัก ส่วนด้านท้ายรถ ใช้โครงสร้างเป็นอลูมิเนียมแบบหล่อขึ้นมาเป็นชิ้นเดียว แทนการเชื่อมหลายๆ ชิ้นเข้ามาเป็นชิ้นเดียว มีการตัดส่วนที่ไม่จำเป็นสำหรับความแข็งแรงออกไป นอกจากช่วยประหยัดวัสดุแล้ว ยังส่งผลให้โครงสร้างตัวถังรถมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 20% เมื่อเทียบกับรถรุ่นต้นแบบก่อนหน้านี้

แบตเตอร์รี่ Mercedes-Benz VISION EQXX

Mercedes-Benz VISION EQXX ใช้แบตเตอร์รี่แรงดันไฟฟ้า 900 โวลท์ ขนาดความจุ 100 kWh ที่มีความจุใกล้เคียงกับ EQS ทว่าแบตเตอร์รี่ใน Mercedes-Benz VISION EQXX มีขนาดที่เล็กกว่าถึง 50% และเบากว่าถึง 30% โดยตัวแบตเตอร์รี่มีขนาด (ยาว x กว้าง x สูง) 200 x 126 x 11 ซม. น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 495 กิโลกรัม

ตัวแบตเตอร์รี่มีความหนาแน่นของพลังงานถึง 400 Wh/1 กิโลกรัม

ขับลงเขา คือทีเด็ด

รถยนต์ไฟฟ้า คือยานพาหนะที่สามารถ "สร้างพลังงานใช้เองได้" แตกต่างจากรถยนต์สันดาป ที่ไม่ว่าจะใช้งานแบบไหน คุณก็ไม่สามารถเสกน้ำมันเพิ่มขึ้นในถังได้ ทำได้เพียง "ประหยัดมัน" แต่รถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถ "ปั่นไฟฟ้า" เพิ่มเข้าไปในแบตเตอร์รี่ได้

หลังออกจากอุโมงค์ Gotthard แล้ว เส้นทางจะเป็นทางลาดชันลงเขาที่ยาวไกลมากๆ ซึ่งเป็นจุดที่ Mercedes-Benz VISION EQXX จะได้ใช้ระบบปั่นไฟกลับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจากแรงหน่วง และการกดเบรก ซึ่งปกติแล้วในรถยนต์ไฟฟ้า เราแทบจะไม่จำเป็นต้องใช้แป้นเบรกแต่อย่างใด เพียงเราฝึกการควบคุมคันเร่งเพียงอย่างเดียวได้นั่น เราก็จะสามารถใช้งานประสิทธิภาพของ "การปั่นไฟกลับ" ที่เกิดจากแรงหน่วงของมอเตอร์ขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะช่วยปั่นไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอร์รี่ เพื่อเพิ่มระยะทางขับขี่แล้ว มันยังมีประสิทธิภาพการลดความเร็วที่แทบไม่แตกต่างจากการใช้งานเบรกในการขับขี่ปกติเลย

หลังคาโซล่ารูฟ ช่วยเพิ่มระยะทางขับ

ด้วยเส้นทางที่ทดสอบที่มีแดดออกตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในโซนประเทศอิตาลี Mercedes-Benz VISION EQXX ได้รับประโยชน์เต็มๆ ด้วยพลังงานฟรีจากแสงอาทิตย์ โดย EQXX ใช้โซล่ารูฟที่มีเซลผลิตไฟฟ้ามากถึง 117 เซล โดยพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะนำไปป้อนให้กับแบตเตอร์รี่ 12 โวลท์ (แบตเตอร์รี่ลูกเล็ก) เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ ในตัวรถอาทิเช่นระบบนำทาง ซึ่งจะไม่ดึงพลังงานไฟฟ้าออกจากแบตเตอร์รี่ลูกใหญ่ ช่วยทำให้ระยะทางขับขี่ไปได้ไกลมากยิ่งขึ้น โดยตลอดการทดสอบกว่า 1,000 กม. พบว่าเจ้าหลังคาโซล่ารูฟนี้ สามารถผลิตไฟฟ้าให้ได้มากถึง 2% หรือแปรเป็นระยะขับขี่ได้ระยะทางราวๆ 25 กม.

มอเตอร์ไฟฟ้า EQXX

ขุมพลังของ Mercedes-Benz VISION EQXX ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า และระบบส่งกำลังที่พัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก F1 มอบพละกำลังสูงสุด 241 แรงม้า โดยไฮไลท์ของเค้าไม่ได้อยู่ที่ความแรง แต่อยู่ที่การใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า โดยพลังงานที่ได้รับจากแบตเตอร์รี่ ถ่ายทอดลงไปถึงล้อรถนั้น สามารถใช้งานได้มากถึง 95% เลยทีเดียว

หากเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของระบบขับเคลื่อนแบบเดิม ซึ่งจะมีการสูญเสียพลังงานในช่วงของการส่งกำลัง ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์, ระบบแปลงพลังงาน รวมไปถึงระบบส่งกำลัง โดย EQXX สามารถทำได้ดีกว่าถึง 44% เลยทีเดียว

นอกจากนี้ EQXX ยังมีอัตราความหนาแน่นของพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยมีความหนาแน่นของพลังงานถึง 400 Wh./1 กิโลกรัม เลยทีเดียว ประกอบกับระบบจัดการพลังงานและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง ส่งผลให้ระยะทางขับขี่ของรถคันนี้ไปได้ไกลโดยไร้ปัญหาใดๆ

EQXX ระบายความร้อนด้วย "ตนเอง"

Mercedes-Benz ให้เหตุผลว่า ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ สร้างความร้อนเพียงเล็กน้อยมากๆ แม้จะให้ประสิทธิภาพที่สูงก็ตาม การให้รถสามารถระบายความร้อนด้วยตนเองก็ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยทางวิศวกรใช้ระบบระบายความร้อนด้วยแผ่นทำความเย็น อันจะได้รับอากาศมาจากหลักอากาศพลศาสตร์ของตัวรถโดยตรง ซึ่งจะช่วยรักษาอุณหภูมิของแบตเตอร์รี่ให้คงที่อย่างสม่ำเสมอ

โดยจากการทดสอบขณะขับขี่ผ่านอุโมงค์ Gotthard พบว่าช่องดักอากาศของตัวรถยังคงปิดอยู่ โดยช่องดักอากาศของตัวรถจะเปิดขึ้นเพื่อรับอากาศเข้ามาในกรณีที่รถต้องการอากาศเข้ามาระบายความร้อนของมอเตอร์ขับเคลื่อนในวันที่มีอากาศร้อน ส่วนระบบทำความอุ่นนั้นจะทำงานในวันที่มีอากาศเย็น เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับระบบขับเคลื่อนและห้องโดยสาร

EQXX มี AI

Mercedes-Benz VISION EQXX เป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ใส่ทุกระบบที่ Mercedes-Benz มี รวมไปถึงระบบ AI ที่จะช่วยในการประเมิณสถานการณ์การขับขี่ได้ด้วย โดยมันสามารถให้คำแนะนำกับผู้ขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ เปรียบเสมือนกับผู้ช่วยนักบินบนเครื่องบินเลยทีเดียว โดยมันสามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานพลังงาน, สถานะแบตเตอร์รี่, ภูมิประเทศ กระทั่งทิศทาง ความเข้มของลมและแสงอาทิตย์ ก็สามารถบอกได้ ผ่านหน้าจอ Hyperscreen ผืนใหญ่ภายในตัวรถ มาพร้อมกับฟังก์ชั่นบอกทางแบบเรียลไทม์เหมือนใน EQS

จบการทดสอบที่ฝรั่งเศส เหลือระยะทางขับได้อีก 140 กม.

Mercedes-Benz VISION EQXX สิ้นสุดการเดินทางที่เมืองแคสซิส เมืองชายฝั่งทางตอนใต้ในประเทศฝรั่งเศส โดยใช้เวลาการเดินทางไปทั้งหมด 12 ชั่วโมง 2 นาที (ขับจริง 11 ชั่วโมง 32 นาที) กับระยะทาง 1,008 กิโลเมตร โดยมีปริมาณแบตเตอร์รี่คงเหลืออีก 15% หรือไปได้อีก 140 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวรับลมทะเลได้แบบสบายๆ โดยไม่จำเป็นต้องแวะชาร์จ

และนี่ก็ถือเป็นการทดสอบ EQXX บนถนนครั้งแรกว่ามันสามารถทำอะไรได้บ้าง พิสูจน์ความโดดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้าว่าเป็นอย่างไร การเดินทางไกลครั้งนี้ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่มันคือจุดเริ่มต้นของโลกยานยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่อย่างแท้จริง

สรุปการทดสอบ Mercedes-Benz VISION EQXX

ไฮไลท์จากการทดสอบ EQXX

- รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับได้ไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร บนการจราจรปกติ ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว

- อัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำเพียง 8.7 kWh / 100 กม.

- ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานต่ำ เพียง 0.17 CD

- มีอัตราแรงต้านการหมุนที่ล้อต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา อันเป็นผลมาจากงานวิศวกรรมและการออกแบบอย่างชาญฉลาด

- อัตราสูญเสียพลังงานขับเคลื่อนต่ำมากเพียง 5%

- หลังคาโซล่ารูฟ เพิ่มระยะทางขับขี่ได้มากถึง 25 กม.

- ขับเคลื่อนด้วยซอฟแวร์เป็นหลัก เป็นกุญแจสำคัญทำให้มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานที่ต่ำ

- Mercedes-Benz ตั้งเป้าให้ตัวเองเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า และวิศวกรรมซอฟแวร์การขับขี่

ข้อมูลทางเทคนิค Mercedes-Benz VISION EQXX

สำหรับ Mercedes-Benz VISION EQXX คันนี้ จัดว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่อัดแน่นทุกเทคโนโลยีด้านยนตรกรรมของ Mercedes-Benz เข้าไปทั้งหมด ซึ่งเป้าหมายของเค้าทำไปเพื่อนำเอาองค์ความรู้เหล่านี้ ไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่จะออกตามกันมาในอนาคตอันใกล้นี้ เอาว่ารถ EQXX นี้เป็นรถคอนเซปต้นแบบที่จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes-Benz ต่อไปในอนาคตนั่นเองครับ