รีวิว Mitsubishi Xpander 2022 Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Mitsubishi Xpander 2022

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 26 April 2565

Mitsubishi Xpander 2022 ในโฉมนี้ ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าทาปากใหม่ แต่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขข้อด้อยจากในรุ่นก่อน แม้ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ได้เพิ่มมานั้นก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องการขับขี่จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันครับ


การทดสอบครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ทางมิตซูบิชิ ประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อนำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะ Mitsubishi Xpander 2022 รถครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง บนเส้นทางกรุงเทพฯ-จันทบุรี รวมระยะทางไปกลับกว่า 600 กม. บนถนนที่มีหลากหลายสถานการณ์ ทั้งแบบในเมือง และนอกเมือง รวมไปถึงเส้นทางบางช่วงที่คดเคี้ยว โดยรุ่นที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้คือ Xpander GT (รุ่นท็อป)

ดีไซน์ภายนอก Mitsubishi Xpander GT 2022

สำหรับดีไซน์ภายนอก ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายจุด ด้านหน้าออกแบบในดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield โดยไฟหรี่ที่อยู่ด้านบนสุดจะรวมอยู่กับไฟเลี้ยว โคมไฟหน้าจะคล้ายตัว T และใช้เป็นหลอดไฟแบบฮาโลเจน

ล้อแม็กขนาด 17 นิ้วสีทูโทน ใหญ่ขึ้นจากเดิม 1 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 205/55 R17 ส่งผลให้ตัวรถมีความสูงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 15 มม. ในส่วนของระบบช่วงล่าง ก็มีการปรับใหม่ โดยใช้โช้คอัพที่มีนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับในรุ่นปาเจโร่สปอร์ต แต่สปริงโช้คยังคงใช้ของเดิม ค่า K เท่าเดิม

ในส่วนของท้ายรถ รูปทรงของกระจกหลัง รวมถึงลายเส้นของฝาท้าย จะต่างจากเดิมอย่างชัดเจน รวมไปถึงไฟท้ายรูปตัว T และไฟทับทิมที่มุมกันชนก็เป็นดีไซน์แบบใหม่ด้วยเช่นกัน พร้อมติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์แบบ 3 มิติ

เมื่อมองรวม ๆ จากภายนอก จะเห็นถึงขนาดของตัวรถที่ใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และด้วยความสูงจากพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 15 มม. จึงทำให้รถมีความสูงมากถึง 220 มม.

ดีไซน์ภายใน Mitsubishi Xpander GT 2022

ภายในห้องโดยสารใช้ดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง ใช้เป็นสีทูโทน น้ำตาล-ดำ ดูหรูหราขึ้น และมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน และแผงประตูข้าง

เบาะนั่งออกแบบใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อน หรือ Heat Guard ซึ่งคุณสมบัติจะใกล้เคียงกับเบาะ Quole Modure ที่อยู่ในปาเจโร่สปอร์ต

พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ จับถนัดกระชับมือ พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง และมีปุ่มสำหรับตั้งค่า Cruise Control แต่แอบเสียดายที่ยังไม่มี Paddle Shift มาให้

จอเครื่องเล่นระบบสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay หากใช้สมาร์ทโฟนระบบ ios ก็สามารถดึงแผนที่จากโทรศัพท์ขึ้นที่หน้าจอได้เลย และเมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอก็จะตัดมาเป็นกล้องหลัง ส่วนคุณภาพของเสียงลำโพงนั้นผมว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลาง ๆ ไม่ได้หวือหวามากนัก

ที่วางแขนตรงกลาง ใช้งานได้สะดวก มีช่องใส่ของขนาดใหญ่ที่สามารถใส่ขวดน้ำขนาด 600 ml. ได้ถึง 4 ขวด ที่ใต้ฝาปิดมีช่องสำหรับใส่กระดาษทิชชู่ ถือเป็นลูกเล่นที่มีประโยชน์และได้ใช้งานจริงขณะเดินทาง

เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Stop & Go ปุ่ม Auto Hold เป็นอีกหนึ่งระบบที่มีประโยชน์มากเมื่อจอดติดไฟแดงระยะสั้น ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ไปมา

อีกจุดที่ผมชอบก็คือมีช่องต่อ USB หลายจุด ทั้งตอนหน้า และ เบาะแถวที่สอง มีทั้งแบบ Type-A และ Type-C ในส่วนของช่องจ่ายไฟ DC 12 โวลต์ จะมีให้ที่คอนโซลหน้า และที่เบาะแถวสาม

ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool ช่วยให้แอร์เย็นไวขึ้น และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน

การเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะแถวสามทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ดึงคันโยกที่ข้างเบาะแถวสอง เบาะก็จะพับให้ทันที

เครื่องยนต์ เกียร์ Mitsubishi Xpander 2022

Mitsubishi Xpander 2022 ใช้เครื่องยนต์เดิม รหัส 4A91 ขนาด 1,499 ซีซี 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ถึง E20 ในส่วนของระบบเกียร์มีการเปลี่ยนใหม่ จากเดิมเป็นแบบอัตโนมัติ 4 สปีด แต่ในรุ่นใหม่นี้ ใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ Eco Dynamic CVT

ความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากที่ได้สัมผัส

ในเรื่องการออกแบบภายนอก ผมว่าเป็นดีไซน์ที่ดูไม่แก่ หน้าตาดูล้ำสมัยสวยงาม แต่เสียดายที่ยังให้ไฟหน้าแบบฮาโลเจน ถ้าให้โคมแบบโปรเจคเตอร์ และให้ไฟหน้าแอลอีดี ผมว่าจะดูดีขึ้นมาอีกเยอะเลยล่ะครับ ส่วนการออกแบบภายใน หากเทียบกับรุ่นเก่า ก็ต้องบอกว่าปรับปรุงได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ใช้งานได้ง่ายและครอบคลุมการใช้งาน

อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง Mitsubishi Xpander GT 2022

ในเรื่องของการขับขี่ ในรุ่นนี้แม้จะใช้เครื่องยนต์เดิม แต่พอเปลี่ยนเป็นเกียร์ใหม่แบบ CVT ขับดีขึ้นเยอะเลยครับ หากใครที่เคยขับรุ่นเก่ามาก่อน คงทราบกันดีว่าถ้าวิ่งทางไกล จะใช้รอบเครื่องยนต์สูงมาก เพราะเกียร์มีแค่ 4 สปีด แต่พอใช้เป็นเกียร์ CVT รอบเครื่องยนต์ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด จากการทดสอบวิ่งลอยตัวในย่านความเร็วต่าง ๆ ได้ตามนี้ครับ

  • วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 1,800 รอบต่อนาที
  • วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 110 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาที
  • วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 2,200 รอบต่อนาที

เมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำลงก็ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นไปด้วย เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องเค้นกำลังมาก จากการทดสอบทั้งทริปวิ่งด้วยระยะทางทั้งหมด 641 กม. ค่าเฉลี่ยการกินน้ำมัน ได้ตามนี้ครับ

  • กิโลเมตรที่ 0-200 วิ่งในเมืองนิดหน่อย จากนั้นวิ่งถนนโล่งนอกเมือง ใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. ค่า AVG ที่หน้าจอขึ้น 15.1 กม./ล.
  • กิโลเมตรที่ 201-365 วิ่งถนนโล่งนอกเมือง ใช้ความเร็ว 120-130 กม./ชม. ค่า AVG ที่หน้าจอลดลงมาเหลือ 14 กม./ล.
  • กิโลเมตรที่ 366-641 เหยียบไม่ยั้ง มีเท่าไหร่ใส่หมด ขับแบบตีนผี ค่า AVG ที่หน้าจอลดลงมาเหลือ 12.4 กม./ล.

สำหรับระบบช่วงล่าง อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่ามีการเปลี่ยนโช้คใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ใช่สปริงค่า K เท่าเดิม จากการทดสอบพบว่าตัวรถมีความนุ่มนวลในระดับนึง ไม่กระด้าง และไม่ย้วย เข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 100-110 กม./ชม. ตัวรถยังนิ่งไว้ใจได้แม้ตัวรถจะสูงขึ้นกว่าเดิม 15 มม. ก็ตาม การเก็บเสียงที่ความเร็วดังกล่าวก็ยังคงทำได้ดีเช่นกัน เพราะในรุ่นใหม่นี้ มีการเพิ่มความหนาของแผ่นแดมป์ ทำให้เก็บเสียงได้ดีขึ้น

สรุปโดยรวม

Mitsubishi Xpander 2022 นี้ น่าใช้กว่าในรุ่นก่อนอย่างชัดเจน แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดิมแต่สิ่งที่ได้เพิ่มมาผมว่ามันคุ้มขึ้น หากคุณกำลังเล็งรุ่นนี้อยู่แล้วตั้งแต่รุ่นเก่าแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ ผมว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ น่าจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ

ราคา Mitsubishi Xpander 2022

  • รุ่น GLS ราคา 799,000 บาท
  • รุ่น GT ราคา 895,000 บาท

Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ