Mitsubishi Xpander 2022 ในโฉมนี้ ไม่ใช่แค่การแต่งหน้าทาปากใหม่ แต่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขข้อด้อยจากในรุ่นก่อน แม้ราคาจะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่ได้เพิ่มมานั้นก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องการขับขี่จะเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันครับ
การทดสอบครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่ทางมิตซูบิชิ ประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อนำสื่อมวลชนร่วมสัมผัสสมรรถนะ Mitsubishi Xpander 2022 รถครอบครัวอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง บนเส้นทางกรุงเทพฯ-จันทบุรี รวมระยะทางไปกลับกว่า 600 กม. บนถนนที่มีหลากหลายสถานการณ์ ทั้งแบบในเมือง และนอกเมือง รวมไปถึงเส้นทางบางช่วงที่คดเคี้ยว โดยรุ่นที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้คือ Xpander GT (รุ่นท็อป)
ดีไซน์ภายนอก Mitsubishi Xpander GT 2022
สำหรับดีไซน์ภายนอก ได้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายจุด ด้านหน้าออกแบบในดีไซน์ใหม่แบบ Advanced Dynamic Shield โดยไฟหรี่ที่อยู่ด้านบนสุดจะรวมอยู่กับไฟเลี้ยว โคมไฟหน้าจะคล้ายตัว T และใช้เป็นหลอดไฟแบบฮาโลเจน
ล้อแม็กขนาด 17 นิ้วสีทูโทน ใหญ่ขึ้นจากเดิม 1 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 205/55 R17 ส่งผลให้ตัวรถมีความสูงที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 15 มม. ในส่วนของระบบช่วงล่าง ก็มีการปรับใหม่ โดยใช้โช้คอัพที่มีนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งมีขนาดที่ใกล้เคียงกับในรุ่นปาเจโร่สปอร์ต แต่สปริงโช้คยังคงใช้ของเดิม ค่า K เท่าเดิม
ในส่วนของท้ายรถ รูปทรงของกระจกหลัง รวมถึงลายเส้นของฝาท้าย จะต่างจากเดิมอย่างชัดเจน รวมไปถึงไฟท้ายรูปตัว T และไฟทับทิมที่มุมกันชนก็เป็นดีไซน์แบบใหม่ด้วยเช่นกัน พร้อมติดตั้งกันชนท้ายและแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ ดีไซน์แบบ 3 มิติ
เมื่อมองรวม ๆ จากภายนอก จะเห็นถึงขนาดของตัวรถที่ใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และด้วยความสูงจากพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 15 มม. จึงทำให้รถมีความสูงมากถึง 220 มม.
ดีไซน์ภายใน Mitsubishi Xpander GT 2022
ภายในห้องโดยสารใช้ดีไซน์ใหม่แบบ Horizontal Axis ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง ใช้เป็นสีทูโทน น้ำตาล-ดำ ดูหรูหราขึ้น และมีการเย็บตะเข็บจริงสำหรับที่พักแขน และแผงประตูข้าง
เบาะนั่งออกแบบใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติกันความร้อน หรือ Heat Guard ซึ่งคุณสมบัติจะใกล้เคียงกับเบาะ Quole Modure ที่อยู่ในปาเจโร่สปอร์ต
พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ จับถนัดกระชับมือ พร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชั่นสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง และมีปุ่มสำหรับตั้งค่า Cruise Control แต่แอบเสียดายที่ยังไม่มี Paddle Shift มาให้
จอเครื่องเล่นระบบสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้ว รองรับการใช้งาน Apple CarPlay หากใช้สมาร์ทโฟนระบบ ios ก็สามารถดึงแผนที่จากโทรศัพท์ขึ้นที่หน้าจอได้เลย และเมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอก็จะตัดมาเป็นกล้องหลัง ส่วนคุณภาพของเสียงลำโพงนั้นผมว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับกลาง ๆ ไม่ได้หวือหวามากนัก
ที่วางแขนตรงกลาง ใช้งานได้สะดวก มีช่องใส่ของขนาดใหญ่ที่สามารถใส่ขวดน้ำขนาด 600 ml. ได้ถึง 4 ขวด ที่ใต้ฝาปิดมีช่องสำหรับใส่กระดาษทิชชู่ ถือเป็นลูกเล่นที่มีประโยชน์และได้ใช้งานจริงขณะเดินทาง
เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Stop & Go ปุ่ม Auto Hold เป็นอีกหนึ่งระบบที่มีประโยชน์มากเมื่อจอดติดไฟแดงระยะสั้น ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ไปมา
อีกจุดที่ผมชอบก็คือมีช่องต่อ USB หลายจุด ทั้งตอนหน้า และ เบาะแถวที่สอง มีทั้งแบบ Type-A และ Type-C ในส่วนของช่องจ่ายไฟ DC 12 โวลต์ จะมีให้ที่คอนโซลหน้า และที่เบาะแถวสาม
ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล พร้อมฟังก์ชัน Max Cool ช่วยให้แอร์เย็นไวขึ้น และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
การเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะแถวสามทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ดึงคันโยกที่ข้างเบาะแถวสอง เบาะก็จะพับให้ทันที
เครื่องยนต์ เกียร์ Mitsubishi Xpander 2022
Mitsubishi Xpander 2022 ใช้เครื่องยนต์เดิม รหัส 4A91 ขนาด 1,499 ซีซี 4 สูบ MIVEC DOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง ได้ถึง E20 ในส่วนของระบบเกียร์มีการเปลี่ยนใหม่ จากเดิมเป็นแบบอัตโนมัติ 4 สปีด แต่ในรุ่นใหม่นี้ ใช้เป็นเกียร์อัตโนมัติ Eco Dynamic CVT
ความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากที่ได้สัมผัส
ในเรื่องการออกแบบภายนอก ผมว่าเป็นดีไซน์ที่ดูไม่แก่ หน้าตาดูล้ำสมัยสวยงาม แต่เสียดายที่ยังให้ไฟหน้าแบบฮาโลเจน ถ้าให้โคมแบบโปรเจคเตอร์ และให้ไฟหน้าแอลอีดี ผมว่าจะดูดีขึ้นมาอีกเยอะเลยล่ะครับ ส่วนการออกแบบภายใน หากเทียบกับรุ่นเก่า ก็ต้องบอกว่าปรับปรุงได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ ฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ใช้งานได้ง่ายและครอบคลุมการใช้งาน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง Mitsubishi Xpander GT 2022
ในเรื่องของการขับขี่ ในรุ่นนี้แม้จะใช้เครื่องยนต์เดิม แต่พอเปลี่ยนเป็นเกียร์ใหม่แบบ CVT ขับดีขึ้นเยอะเลยครับ หากใครที่เคยขับรุ่นเก่ามาก่อน คงทราบกันดีว่าถ้าวิ่งทางไกล จะใช้รอบเครื่องยนต์สูงมาก เพราะเกียร์มีแค่ 4 สปีด แต่พอใช้เป็นเกียร์ CVT รอบเครื่องยนต์ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด จากการทดสอบวิ่งลอยตัวในย่านความเร็วต่าง ๆ ได้ตามนี้ครับ
- วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 1,800 รอบต่อนาที
- วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 110 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 2,000 รอบต่อนาที
- วิ่งลอยตัวที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์ 2,200 รอบต่อนาที
เมื่อรอบเครื่องยนต์ต่ำลงก็ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้นไปด้วย เพราะเครื่องยนต์ไม่ต้องเค้นกำลังมาก จากการทดสอบทั้งทริปวิ่งด้วยระยะทางทั้งหมด 641 กม. ค่าเฉลี่ยการกินน้ำมัน ได้ตามนี้ครับ
- กิโลเมตรที่ 0-200 วิ่งในเมืองนิดหน่อย จากนั้นวิ่งถนนโล่งนอกเมือง ใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. ค่า AVG ที่หน้าจอขึ้น 15.1 กม./ล.
- กิโลเมตรที่ 201-365 วิ่งถนนโล่งนอกเมือง ใช้ความเร็ว 120-130 กม./ชม. ค่า AVG ที่หน้าจอลดลงมาเหลือ 14 กม./ล.
- กิโลเมตรที่ 366-641 เหยียบไม่ยั้ง มีเท่าไหร่ใส่หมด ขับแบบตีนผี ค่า AVG ที่หน้าจอลดลงมาเหลือ 12.4 กม./ล.
สำหรับระบบช่วงล่าง อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่ามีการเปลี่ยนโช้คใหม่ ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ใช่สปริงค่า K เท่าเดิม จากการทดสอบพบว่าตัวรถมีความนุ่มนวลในระดับนึง ไม่กระด้าง และไม่ย้วย เข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 100-110 กม./ชม. ตัวรถยังนิ่งไว้ใจได้แม้ตัวรถจะสูงขึ้นกว่าเดิม 15 มม. ก็ตาม การเก็บเสียงที่ความเร็วดังกล่าวก็ยังคงทำได้ดีเช่นกัน เพราะในรุ่นใหม่นี้ มีการเพิ่มความหนาของแผ่นแดมป์ ทำให้เก็บเสียงได้ดีขึ้น
สรุปโดยรวม
Mitsubishi Xpander 2022 นี้ น่าใช้กว่าในรุ่นก่อนอย่างชัดเจน แม้ราคาจะเพิ่มขึ้นจากเดิมแต่สิ่งที่ได้เพิ่มมาผมว่ามันคุ้มขึ้น หากคุณกำลังเล็งรุ่นนี้อยู่แล้วตั้งแต่รุ่นเก่าแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ ผมว่ารุ่นไมเนอร์เชนจ์นี้ น่าจะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
ราคา Mitsubishi Xpander 2022
- รุ่น GLS ราคา 799,000 บาท
- รุ่น GT ราคา 895,000 บาท
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น