รถยนต์ไฟฟ้า หลายๆ คนมักจะคิดว่าหาที่ชาร์จยาก แต่มันอ่านดูแล้วแปลกๆ ไปหรือไม่? ทั้งๆ ที่ระบบไฟฟ้าเข้าถึงแทบจะทุกที่ทั่วประเทศไทยอยู่แล้ว มาดูกันว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบบไหนได้บ้าง
รถไฟฟ้า หาที่ชาร์จยาก "ไม่จริง"
หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมาว่า "รถยนต์ไฟฟ้า หาที่ชาร์จยาก" ซึ่งคนที่พูดแบบนี้ "เกือบทั้งหมด" ไม่เคยใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าซะด้วยซ้ำไป ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วรถยนต์ไฟฟ้า ก็ใช้พลังงานแบบเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเราทุกอย่าง หรือจะเปรียบว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าวิ่งได้ ก็ว่าได้
แต่ถ้าพูดเสริมว่า "หาสถานีชาร์จด่วนยาก" อันนี้จะทราบเลยว่า "นี่แหละคนใช้รถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ" เพราะแท้จริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้า สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทุกที่ที่มีเต้าไฟบนผนัง แต่ "ความเร็วในการชาร์จ" นี่แหละ ที่มีความแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้กี่แบบ
รูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบครับ โดยหากจำแนกออกมาเป็นหัวข้อใหญ่ๆ เลยจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบหลักด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบจะเป็นอย่างไรนั้น แบ่งเป็นหัวข้อได้ดังนี้
- การชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยใช้ปลั๊กไฟทั่วไป ต่อสายไฟฟ้าเข้าไปยังตัวรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง โดยไม่มีสายสัญญาณสื่อสารระหว่างตัวรถและอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว โดยหลายๆ ประเทศมีการห้ามใช้รูปแบบการชาร์จแบบนี้ เนื่องจากไม่ปลอดภัย โดยกำลังการจ่ายไฟฟ้าจะสูงสุดไม่เกิน 3.6 kW
- การชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) โดยใช้ปลั๊กไฟทั่วไป โดยมีระบบป้องกันไฟรั่ว และชุดควบคุมอยู่บนสายชาร์จที่เชื่อมต่อระหว่างจุดจ่ายไฟฟ้ากับรถยนต์ไฟฟ้า อาทิเช่นสายชาร์จฉุกเฉิน โดยกำลังการจ่ายไฟฟ้าสูงสุดมักจะไม่เกิน 3.6 kW คล้ายกับแบบแรก แต่รูปแบบนี้จะมีความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากมีอุปกรณ์ควบคุมการทำงานติดตั้งอยู่บนสายชาร์จด้วยนั่นเอง
- การชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ผ่านระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสายสัญญาณสื่อสารกับระบบชาร์จของตัวรถ มีระบบอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว แลชุดควบคุมการทำงานอยู่ในเครื่องควบคุมการชาร์จ อาทิเช่นตู้ชาร์จต่างๆ หรือ Wallbox นั่นเอง โดยมีกำลังสูงสุดได้มากถึง 43 kW ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจ่ายไฟของจุดชาร์จ และความสามารถในการรับไฟของตัวรถยนต์ไฟฟ้าเลย
- การชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ติดตั้งสายไฟเมนเข้ากับเครื่องชาร์จโดยตรง แปลงสัญญาณไฟฟ้าจากกระแสสลับ (AC) และส่งกำลังไฟฟ้าไปยังตัวรถด้วยระบบไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC) มีสายสัญญาณสื่อสารกับตัวรถ มีอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว และชุดควบคุมการทำงานเพื่อความปลอดภัยครบครัน ซึ่งจะพบรูปแบบการชาร์จนี้ได้ตามสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า อีกทั้งเป็นรูปแบบการชาร์จที่เร็วที่สุด เนื่องจากสามารถส่งกระแสไฟฟ้าได้มากนั่นเอง โดยมันสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 350 kW เลยทีเดียว
สรุปรูปแบบการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
รูปแบบการชาร์จ | ระบบการชาร์จ | สายสัญญาณสื่อสาร | ระบบป้องกันไฟฟ้ารั่ว | รูปแบบการชาร์จ | กำลังไฟฟ้าสูงสุด |
แบบ 1 | AC | ไม่มี | ไม่มี | สายไฟฟ้าธรรมดา | 3.6 kW |
แบบ 2 | AC | มี | มี | สายชาร์จฉุกเฉิน | 3.6 kW |
แบบ 3 | AC | มี | มี | Wall charger | 43 kW |
แบบ 4 | DC | มี | มี | สถานีชาร์จด่วน | 350 kW |
เห็นได้ชัดเจนว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีรูปแบบการชาร์จที่เยอะมากๆ เอาว่าขอแค่ไฟฟ้าเข้าถึงก็ชาร์จแบตเตอรี่ได้แน่นอน แต่จะแตกต่างกันไปตามความเร็วในการชาร์จ และความปลอดภัยในการชาร์จนั่นเอง ซึ่งถ้าให้แนะนำนั้น รูปแบบการชาร์จขั้นต่ำก็ควรเป็นการชาร์จแบบ AC จาก Wallbox หรือ Wall charger แต่ถ้าในกรณีฉุกเฉินจริงๆ สายชาร์จฉุกเฉินก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน แต่อย่าใช้เป็นหลักครับ
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น