ปัจจุบันนี้ในรถยนต์ไฟฟ้า มักจะมีระบบการชาร์จมาให้ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่การชาร์จแบบ AC และการชาร์จแบบ DC Fast charge ส่วนในรถยนต์ PHEV ส่วนใหญ่ มักจะให้มาเฉพาะการชาร์จแบบ AC ว่าแต่การชาร์จ 2 แบบนี้ ต่างกันอย่างไร?
AC/DC ย่อมาจากอะไร
ชาร์จ AC/DC ย่อมาจาก
- AC = Alternating Current = ไฟฟ้ากระแสสลับ เป็นระบบไฟฟ้าแรงดัน 220 โวลต์ ที่ใช้กันในบ้านเรือนทั่วไป
- DC = Direct Current = ไฟฟ้ากระแสตรง เป็นระบบไฟฟ้าที่ใช้กับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
การชาร์จรถไฟฟ้าด้วย AC คืออะไร
การชาร์จรถไฟฟ้าด้วย AC คือ การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน ผ่าน Wallbox นับเป็นวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีต้นทุนถูกที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะบ้านที่ติดตั้งมิเตอร์แบบ TOU
การชาร์จ AC ระบบจะทำการรับไฟฟ้าจาก Wallbox ผ่านเข้าสู่ On-Board AC-charger ในตัวรถ เพื่อแปลงเป็นระบบไฟฟ้าแบบ DC ส่งเข้าสู่แบตเตอร์รี
การชาร์จรถช่วง Offpeak จะจ่ายค่าไฟฟ้าเพียงหน่วยละ 2.6369 บาทเท่านั้น สมมุติว่าชาร์จ Tesla Model Y Long Range จาก 0-100% ที่มีความจุแบตเตอร์รี่ 82 kWh หากเราชาร์จแบตเตอร์รี่จาก 0-100% จะเสียค่าไฟฟ้าเพียง 216 บาทเท่านั้น
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบไฟแบบ AC คือ
- ติดตั้งได้ที่บ้าน โดยรองรับการชาร์จได้สูงสุด 22 kW ขึ้นอยู่กับระบบไฟฟ้าที่บ้านของท่าน, ตู้ชาร์จ และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ท่านใช้ว่ารองรับได้เท่าใด
- ชาร์จได้กับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น รวมไปถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดด้วย
- ค่าไฟฟ้าถูกที่สุด
- สามารถชาร์จข้ามคืนได้แบบไร้กังวลเรื่องแบตเตอร์รี่เสื่อม เพราะการชาร์จ AC ไม่ทำให้แบตเตอร์รี่ร้อนมาก
- ใช้งานง่าย แค่เสียบปลั๊ก และสั่งชาร์จได้เลย ไม่ต้องรอเชื่อมต่อระบบแบบตู้ชาร์จสาธารณะ
ข้อเสียของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบไฟแบบ AC คือ
- ใช้ระยะเวลาการชาร์จที่ค่อนข้างนาน ไม่เหมาะสำหรับคนที่เร่งรีบหรือขี้ลืม อารมณ์ว่าลืมชาร์จแบตมือถือก่อนนอนเลยล่ะ
- ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน กำลังการชาร์จสูงสุดยังอยู่เพียง 3 - 22 kW เท่านั้น
- ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ได้อยู่บ้านส่วนตัว ที่ไม่สามารถติดตั้งตู้ชาร์จส่วนตัวได้
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย DC คืออะไร
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วย DC คือ การชาร์จที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นับเป็นวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุด เพราะเป็นการชาร์จไฟฟ้าจากหัวจ่ายเข้าสู่แบตเตอร์รี่โดยตรง ไม่ต้องผ่าน On-Board AC-charger ในตัวรถ เหมือนกับการชาร์จด้วยระบบ AC
อาทิเช่นการชาร์จ Tesla Model Y Long Range จาก 0-100% โดยตัวรถสามารถรองรับการชาร์จด้วยระบบ DC สูงสุดที่ 210 kWh หมายความว่าตัวรถจะทำการชาร์จไฟฟ้าจนเต็มได้ภายในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น (ถ้าตู้ชาร์จนั้นสามารถจ่ายไฟได้มากกว่า 210 kW)
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
ข้อดีของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบไฟแบบ DC คือ
- ชาร์จไฟฟ้าได้เร็วที่สุด โดยรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นในไทย ด้วยตู้ชาร์จแบบ DC ในไทย สามารถชาร์จแบตเตอร์รี่จาก 10-80% ได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้นแทบทุกรุ่น
- เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ที่ต้องทำเวลาในการเดินทางให้สั้นลง
- เป็นโอกาสได้พักผ่อนที่ดีสำหรับนักเดินทาง และได้เติมพลังงานไปในตัวด้วย เพียงคุณแวะเข้าห้องน้ำ ทำธุระนิดหน่อยสัก 15 นาที ก็ได้ไฟฟ้าเพิ่มเข้ามาเพียงพอสำหรับระยะทางขับขี่หลักร้อยกิโลเมตรได้แบบสบายๆ
ข้อเสียของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าด้วยระบบไฟแบบ DC คือ
- มีราคาสูง โดยในประเทศไทยมีราคาสูงสุดถึงหน่วยละ 7.7 บาทเลยทีเดียว
- สถานีชาร์จยังไม่คลอบคลุมมากนัก ณ ปัจจุบันนี้ ยังจำเป็นต้องวางแผนการแวะจุดชาร์จอยู่
- มีความซับซ้อน (อาจจะเป็นแค่ในไทย) เพราะตู้ชาร์จ DC มีหลายผู้ให้บริการมากๆ และแต่ละผู้ให้บริการก็มีเงื่อนไขการใช้งานที่ต่างกันออกไป ใช้แอพลิเคชั่นการชาร์จคนละแอพฯ กัน แถมวิธีชำระเงินก็ต่างกันเกือบทั้งหมด ผู้ใช้ใหม่อาจจะต้องทำการศึกษาและเรียนรู้สักระยะ
ต่อไปสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอาจไม่ใช่ที่พึ่งหลัก
ในประเทศอังกฤษ ณ ตอนนี้ เริ่มมีการติดตั้งจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไว้กับ "เสาไฟส่องสว่าง" แล้วในหลายจุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และรถ PHEV ที่ไม่จำเป็นต้องขับรถเข้าไปชาร์จที่สถานีชาร์จเท่านั้น
อ่าน วิธีอ่านสเปครถยนต์ไฟฟ้า 2022
อ่าน รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป
อ่าน Toyota bZ4X รถ SUV พลังไฟฟ้า 100% พร้อมสเปคและราคา
Autospinn เว็บไซต์รายงานข่าวรถยนต์ รถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ เช็กวันเปิดตัวรถใหม่ ราคารถ ตารางผ่อน และรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยทีมงานมืออาชีพ
ซื้อ-ขาย รถมือสอง ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัยชัวร์ ต้องที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น