อย่างที่ทราบกันดีว่าวิธีเลือกรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์มาใช้งานสักคันนั้น มีปัจจัยมากมายให้เราได้คิดและพิจารณาอยู่ เพราะนอกจากความเท่และความสวยงามของตัวรถแล้ว มันยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ทำให้ตัวรถบิ๊กไบค์แตกต่างจากมอเตอร์ไซค์ธรรมดาทั่วไป ที่อาจส่งผลถึงความปลอดภัยและประสบการณ์ในการขับขี่ โดยจะมีหลักเกณฑ์สำคัญอะไรในการเลือกบ้างนั้น เราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทุกท่านได้อ่านกันแล้วครับ
1.เลือกจากประเภทของตัวรถ
ในยุคปัจจุบันมีบิ๊กไบค์มากมายหลายประเภทที่วางขายอยู่ในตลาด ซึ่งตัวรถแต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป โดยเราสามารถใช้ประเภทของตัวรถ มาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกซื้อได้ ดังนี้
-
Sport บิ๊กไบค์ทรงสปอร์ตนั้นดูสวย เท่ ถูกใจวัยรุ่น เครื่องยนต์มีสมรรถนะสูงจึงทำให้ตัวรถประเภทนี้โดดเด่นในเรื่องของความเร็วและความแรง มีน้ำหนักเบา คล่องตัว พับรถเข้าโค้งได้ง่าย เหมาะกับการขี่บนสนามแข่งและทางเรียบ (ถ้าเจอถนนลูกรังก็อาจจะต้องคลานเลย) มีท่านั่งที่หมอบติดถังงอเข่าแบบนักแข่ง ถ่ายรูปแล้วเท่เวลาเข้าโค้ง แต่ถ้าใช้ออกทริปก็อาจจะขี่เมื่อยหน่อย จึงเป็นรถที่ไม่เหมาะกับการเดินทางไกล
-
Naked บิ๊กไบค์ทรงสตรีทที่เปลือยส่วนหน้าของตัวรถ จนทำให้เห็นส่วนประกอบสไตล์ดิบ ๆ จุดเด่นของรถ Naked คือระบายอากาศและถ่ายเทความร้อนได้ดี คล่องตัว เหมาะกับการขับขี่ระยะสั้นในเมือง มีท่านั่งที่ตั้งขึ้นกว่ารถสปอร์ต ถ้าขี่ทางไกลก็อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะลมตีตลอดเวลา
-
Chopper บิ๊กไบค์ที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของความคลาสสิค ทั้งรูปทรงและเสียงเครื่องยนต์ที่โดดเด่นแตกต่างจากรถประเภทอื่น ลักษณะของตัวรถจะค่อนข้างใหญ่ เบาะที่นั่งต่ำแต่ตัวแฮนด์ยกสูงมีสไตล์แบบคลาสสิค ตัวรถเหมาะกับการวิ่งทางตรงไกล ๆ เพราะผู้ขี่จะได้เอนหลังยืดขาเป็นช่วง ๆ แต่ถ้าต้องขับขึ้นเขาหรือเส้นทางคดเคี้ยวก็จะบังคับยากหน่อย
-
Motard รถบิ๊กไบค์ที่มีรูปทรงคล่องตัว ปราดเปรียว ทนทาน และสมบุกสมบัน มีจุดเด่นในเรื่องของการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ด้วยลักษณะที่คล้ายมอเตอร์ไซค์วิบากก็ทำให้ตัวรถได้รับความนิยมจากไบค์เกอร์เฉพาะกลุ่ม แต่ถึงอย่างนั้นรถประเภทนี้ก็ไม่ใช่รถวิบาก มันเหมาะสมที่จะวิ่งบนทางเรียบมากกว่าพื้นถนนที่ขรุขระ
-
Touring บิ๊กไบค์สำหรับสายออกทริป มักไม่ได้เป็นบิ๊กไบค์คันแรกเพราะรูปทรงไม่น่าสะดุดตาเหมือนรถสปอร์ตและ classic แต่ไบค์เกอร์ที่ได้ออกทริปเดินทางไกลบ่อย ๆ ก็จะเริ่มมองหารถที่ขี่ไกลแล้วสบาย ไม่เหนื่อย เพราะมีท่านั่งที่สบายและเบาะใหญ่ ขาเหยียดได้มากกว่ารถสปอร์ต บังคับในทางเขาคดเคี้ยวได้ง่ายกว่ารถ Classic ช่วงล่างดีถึกทนเป็นพิเศษ ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวล ลุยได้ทั้งทางเรียบและทางฝุ่น เหมาะกับการเดินทางไกล แต่ถ้าเอามาขี่ในเมืองก็อาจจะลำบากหน่อยเพราะคันใหญ่
2. เลือกจากความจุของกระบอกสูบ
ปริมาตรความจุของกระบอกสูบจะมีผลกับความเร็วและอัตราเร่งของตัวรถ นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งหลักเกณฑ์สำคัญที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อเป็นวิธีเลือกรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ได้ เพราะคุณจะสามารถพิจารณาได้อย่างทันที ว่ารถมีความเร็วและอัตราการเร่งประมาณไหน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และสามารถใช้งานได้หรือไม่ โดยในปัจจุบันรถมอเตอร์ไซค์ที่มีความจุของกระบอกสูบที่มากกว่า 250CC ขึ้นไปจะนับว่าเป็นรถบิ๊กไบค์หมด เครื่องขนาด 600CC ก็นับว่าเป็นบิ๊กไบค์ขนาดกลาง 1000CC หรือ “ตัวพัน” ก็จัดว่าเป็นบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่ ถือเป็น CC ในฝันที่ไบค์เกอร์หลายคนต่างหมายปอง
ซึ่งรถแต่ละประเภทก็จะมีความจุของกระบอกสูบที่แตกต่างกันไปตามเป้าหมายการใช้งาน ไบค์เกอร์มือใหม่ควรเริ่มจาก CC ที่น้อยก่อนเพื่อความปลอดภัย เมื่อขับขี่จนชำนาญแล้วค่อยขยับ CC ขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม CC ในรถสปอร์ตกับรถคลาสสิคมีความแรงต่างกัน เพราะรถสปอร์ตหรือ Naked ขนาดกลางมักมีความแรงมากกว่ารถคลาสสิค 1000 CC นั่นเอง
3. เลือกตามระบบความปลอดภัย
ระบบความปลอดภัยของตัวรถก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อเป็นหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจเลือกได้ เพราะรถบิ๊กไบค์ที่วางขายในปัจจุบันต่างก็มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แตกต่างกันออกไป เช่น ระบบ Traction Control (TRC) ในรถ Touring บางรุ่นที่ช่วยให้การขับขี่บนถนนเปียกมีความปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการทำให้ล้อทั้งหมดของตัวรถหมุนได้สัมพันธ์กัน หรือ ระบบเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) ที่จะช่วยให้การเบรกกะทันหันไม่เกิดอาการล้อล็อก จนนำไปสู่อุบัติเหตุที่อาจอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นการเลือกรถบิ๊กไบค์ด้วยระบบความปลอดภัยก็จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับตัวไบค์เกอร์ในระดับหนึ่ง
4. เลือกบิ๊กไบค์ที่มีรูปทรงเข้ากับสรีระ
การเลือกรถที่มีรูปทรงที่เข้ากับสรีระร่างกายของผู้ขับขี่ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งหลักเกณฑ์สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะรถบิ๊กไบค์แต่ละรุ่นต่างก็มีขนาดและรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งความกว้าง ความยาว ความสูง และตำแหน่งการจัดวางของชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลโดยตรงต่อตัวผู้ขับว่าจะคุมรถและรับน้ำหนักได้ไหม คุณควรเลือกรถที่มีขนาดพอดีกับร่างกาย ไม่หนักและสูงจนเกินไป เพื่อให้การขับขี่คล่องตัวและมีความปลอดภัยมากที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ไบค์เกอร์ควรไปลองคร่อมรถหรือลองขี่ดูก่อนว่าชอบท่านั่งและขาถึงไหม
นอกจากเลือกรถให้เหมาะสมแล้ว ไบค์เกอร์ทุกคนยังต้องรู้จักเลือกอุปกรณ์หรือตัวช่วยสำคัญที่มีคุณภาพ เพื่อปกป้องรถบิ๊กไบค์ของเราจากปัญหามากมายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหารถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติดจากการจอดนาน เพราะบิ๊กไบค์ไม่ได้เป็นรถที่ใช้กันทุกวัน ไม่ว่าบิ๊กไบค์สายไหน สุดท้ายก็จะกลายเป็นสายจอดในที่สุด ปัญหารถบิ๊กไบค์สตาร์ทไม่ติดสามารถป้องกันได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ชาร์จอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเราขอแนะนำ CTEK XS 0.8 เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะที่ขายดีที่สุดในท้องตลาด ลิขสิทธิ์เฉพาะจากประเทศสวีเดน ใช้งานง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องมีความรู้เรื่องช่างก็สามารถใช้งานได้ในทันที มาพร้อมกับระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อชาร์จเต็ม สามารถชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นเดือน ๆ โดยไม่ทำให้แบตเตอรี่เสีย เป็นมิตรกับระบบไฟภายในตัวรถอย่างแน่นอน แบตเตอรี่บิ๊กไบค์ของคุณจะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดเมื่อใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ CTEK
ขอบคุณข้อมูลจาก one2car.com
ความคิดเห็น