เมื่อประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เราเชื่อว่าการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำท่วม คงกลายเป็นเรื่องที่ไบค์เกอร์ชาวกทม.หลายคนคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่เกิดฝนตกหนักหรือพายุเข้าก็มักจะมีน้ำท่วมขังตามถนนสายหลักและเส้นทางต่าง ๆ จนทำให้การเดินทางสัญจรเป็นเรื่องที่ลำบากมากขึ้น ซึ่งถึงแม้การเอารถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำจะไม่ใช่เรื่องดี แต่ก็ใช่ว่าไบค์เกอร์ทุกคนจะหลีกเลี่ยงหรือขับอ้อมหนีน้ำได้ วันนี้เราเลยนำเอาเทคนิคการขับมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำโดยไม่ทำให้เครื่องพัง มาให้ทุกคนได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ
1.เช็กระดับน้ำก่อนขับลุยเสมอ
เมื่อไหร่ที่เรารู้ตัวว่าต้องขี่มอเตอร์ไซค์ลุยพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง เราควรเช็กระดับน้ำก่อนเสมอว่าสามารถขับผ่านชได้ไหม โดยระดับน้ำที่เราสามารถขับผ่านได้คือประมาณ 1 ฟุต หรือ 30.48 เซนติเมตรจากพื้นถนน ซึ่งเป็นระดับที่อยู่ต่ำกว่าตำแหน่งของคาบูเรเตอร์หรือช่องอัดอากาศของตัวรถนั่นเอง
2.ถ้ารถดับ ห้ามสตาร์ทรถ
หากคุณขับรถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำแล้วอยู่ ๆ รถก็เกิดดับขึ้นมา จำไว้ว่าให้รีบเข็นรถเข้าข้างทางและห้ามสตาร์ทรถทันทีโดยเด็ดขาด คุณต้องตรวจเช็กให้เรียบร้อยก่อนว่ามีน้ำเข้าไปในท่อไอเสียหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีก็ต้องทำการระบายน้ำออกก่อนแล้วค่อยสตาร์ทด้วยเท้า จากนั้นก็เร่งเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อเป็นการไล่น้ำและตรวจเช็กการทำงานของเครื่องยนต์ไปในตัว
3.อย่าขับรถเร็วจนเกินไป
ไบค์เกอร์ทุกคนควรขับรถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำด้วยความเร็วที่จำกัด เพราะเราไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าพื้นถนนด้านหน้านั้นมีลักษณะเป็นแบบไหน การขับรถเร็วเกินไปอาจทำให้เราเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุได้ อีกทั้งยังเป็นการทำให้น้ำสาดกระจายมากเกินไปจนอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นได้
4.เบรกรถเป็นระยะ ๆ
การขับรถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำนั้นผู้ขับขี่ควรทำการเบรกรถเป็นระยะ ๆ โดยการกำเบรกและค่อย ๆ ปล่อยเบรกไปเรื่อย ๆ การทำแบบนี้คือการไล่น้ำออกจากผ้าเบรกเพื่อป้องกันเบรกลื่น ซึ่งมันอาจส่งผลให้ผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุได้ถ้าไม่ระมัดระวัง
5.หากถึงจุดหมาย ไม่ควรดับเครื่องทันที
เมื่อเราขับรถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำจนมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เราไม่ควรดับรถในทันที เพราะอาจยังมีน้ำตกข้างอยู่ในท่อไอเสีย ซึ่งมันอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครื่องยนต์ของรถคุณได้ ดังนั้นเราจึงควรสตาร์ทรถทิ้งไว้ครู่หนึ่งเพื่อเป็นการไล่น้ำออกจากท่อไอเสียก่อน ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไบค์เกอร์ทุกคนไม่ควรละเลยเป็นอันขาด
แต่ท้ายที่สุดแล้วการจอดรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำท่วมก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด คุณไม่ควรขับรถลุยน้ำหากไม่จำเป็นจริง ๆ เพราะมันแทบจะไม่คุ้มค่าเลยหากรถของคุณเกิดความเสียหายหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา และถ้าคุณจำเป็นต้องจอดรถทิ้งไว้ตลอดช่วงหน้าฝน คุณก็ควรหาเครื่องชาร์จแบตเตอรี่มาคอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการแบตเตอรี่เสื่อมจากการจอดนานจนรถมอเตอร์ไซค์สตาร์ทไม่ติด เพราะพอน้ำเริ่มลดลงเมื่อไหร่ คุณก็จะสามารถกลับมาขี่รถสุดที่รักได้ในทุกเวลาที่ต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก
ความคิดเห็น