Suzuki Ertiga smart Hybrid รถ MINI MPV 7 ที่นั่ง ครั้งแรกกับระบบไฮบริด ในรถยนต์ 7 ที่นั่ง ประหยัดน้ำมันขึ้น เคลมอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 17.9 km/L
Suzuki Ertiga Hybrid
Suzuki Ertiga จัดจำหน่ายมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นรถยนต์ MINI MPV 7 ที่นั่ง ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีด้วย ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายพร้อม ทั้งสมถรรนะ ที่ดีและล่าสุดกับรุ่นใหม่ 2022 ครั้งแรกกับการเพิ่ม ระบบไฮบริด เพื่อการประหยัดน้ำมันที่ดีขึ้น และ เสริมสมถรรนะการขับขี่
ทาง ซูซูกิ ประเทศไทย จึงได้จัดการทดสอบขึ้นมาเพื่อให้เห็นถึงสมถรรนะของตัวรถก่อนประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ ในงาน Motor Expo 2022 30 พฤศจิกายน นี้
สำหรับ Ertiga Hybrid จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อย (คาดราคาประมาณ)
• 1.5 Hybrid GL AT 7xx,000 บาท
• 1.5 Hybrid GX AT 8xx,000 บาท
Suzuki Ertiga smart Hybrid ได้รับการปรับเปลี่ยนเพิ่มจากรุ่นเดิม
• เปลี่ยน กระจังหน้า ดีไซน์ใหม่
• เพิ่ม เส้นโครเมียมตกแต่งบริเวณฝาท้าย
• เพิ่ม โลโก้ Hybrid ด้านท้ายรถ
• เปลี่ยน มาตรวัดใหม่ ดีไซน์ใหม่
• เปลี่ยน หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT
• เพิ่ม การแสดงข้อมูล Energy Flow บนจอหน้าจอ MID
• เพิ่ม ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
• เพิ่ม ระบบไฟหน้า Welcome Home
• เพิ่ม ระบบ Auto Start Stop
• เพิ่ม ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
• เพิ่ม ระบบพับเก็บกระจกมองข้างอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ
• เพิ่ม ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
• เปลี่ยน วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร ลายไม้ เป็น โทนสีเทา
• เปลี่ยน เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าลายใหม่ เบาะหนาขึ้น
• เปลี่ยน ขุมพลังใหม่ 1.5 Hybrid ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Mild Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 6Ah 12V
เครื่องยนต์เดิม เพิ่มระบบ Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับ Integrated Starter Generator (ISG) Mild Hybrid และ แบตเตอรี่ Lithium-ion 6Ah 12V จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ECO Sticker : Suzuki Ertiga Hybrid
- ในเมือง จากเดิม 12.7 km/l เป็น 15.9 km/l
- นอกเมือง จากเดิม 18.5 km/l เป็น 19.2 km/l
- เฉลี่ย จากเดิม 15.9 km/l เป็น 17.9 km/l
การทดสอบ Suzuki Ertiga Hybrid
เริ่มจากภายนอก หน้าตาแทบจะไม่ต่างจากรุ่นเดิมกระจังหน้าที่ปรับใหม่ ช่วยทำให้รถดูมีราคามากขึ้นและเป็นเพียงชิ้นเดียวที่ต่าง รถในกลุ่ม MPV 7 ที่นั่งตอนนี้ในตลาดตัวเลือกเยอะขึ้น แต่จุดเด่นของ Ertiga คือประตูบานหลังใหญ่มากและเปิดตัวกว้างมากสุดทำให้ขึ้นลงสบายมากถือเป็นจุดแข็ง
ด้านหลังสิ่งที่ทำให้รู้ว่าเป็นรุ่น ไฮบริด มีเพียงโลโก้เท่านั้น และที่ปรับใหม่คือ คิ้วโคมเมียม ถูกย้ายตำแหน่งมาด้านบน ซึ่งทำให้ความแตกต่างจากรุ่นเดิมกับไฮบริดมีเพียงโลโก้เท่านั้น
เข้ามานั่งภายในรถสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีที่สุดคือหน้าปัดผู้ขับสีออกฟ้าดูสวยและเป็นความรู้สึกเดียวที่ทำให้รู้สึกว่าคันนี้คือรถไฮบริด การตกแต่งด้วยลายไม้ใหม่ ดูดีขึ้นแต่ก็ยังดูเป็นรถแนวครอบครัว ถ้าจะให้ดูทันสมัยควรเป็นโครมเมียมด้านหรือรมดำจะดีกว่า เบาะนั่งปรับใหม่นุ่มขึ้นผ้าหุ้มเบาะใหม่สวยขึ้น และสิ่งที่รอกับ Cruise Control ที่หลายคนรอคอยกับรถแบบครอบครัวตัวช่วยในการเดินทางไกล
การทดสอบในครั้งนี้อาจจะวิ่งไม่เยอะมากเพราะเป็นการทดสอบเพื่อให้ได้สัมผัสเรียนรู้ระบบเบื่องต้นก่อน เส้นทางการทดสอบวิ่งในเมืองเชียงใหม่เป็นหลัก วิ่งผ่านตัวเมืองออกนอกเมืองระบบไฮบริดทำงานแสดงผลบนหน้าจอ TFT ว่าทำงานตอนไหนบ้าง
ถ้าคุณเคยได้ขับรถ ไฮบริด บ้างและมาขับ Ertiga Hybrid จะงงว่าทำงานแล้วหรือเพราะจะให้ความรู้สึกแตกต่างชัดเจน ถ้าคาดหวังว่าจะแรงกว่ารุ่นเดิมคือไม่แตกต่างกัน แต่รู้สึกว่าคันเร่งเบาขึ้น เสียงเครื่องยนต์เบาลง เพราะจริงๆแล้วระบบไฮบริดของ Ertiga นั้นควรจะเรียกว่า mild hybrid มากกว่า เพราะโดยหลักการทำงานหลักคือ มอเตอร์ไฟฟ้า ISG หรือ Integrated Starter Generator พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION เพื่อเสริมการขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก และชาร์จกระแสไฟ (Regenerative) เข้าไปเก็บในแบตเตอรี่
มอเตอร์ไฟฟ้า ISG มีการทำงานหลัก 2 หน้าที่ คือ โหมดการผลิตกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ โดยมีอัตรากระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 165 แอมป์ อีกโหมด คือ ช่วยเสริมกำลังเครื่องยนต์ในช่วงออกตัวและเร่งแซง ผลิตกำลังได้ 2.3 กิโลวัตต์ มีแรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร
ส่วนตัว แบตเตอรี่ Lithium-ION ติดตั้งใต้เบาะหน้าฝั่งผู้โดยสาร มีขนาด 6 แอมป์ 12 โวลท์ น้ำหนักตัวแบตเตอรี่ ประมาณ 5 กิโลกรัม รับประกันแบตเตอรี่นาน 5 ปี
ระบบการทำงาน Smart Hybrid
เมื่อรถหยุด ระบบ Engine Stop ทำงาน ในจังหวะที่เครื่องยนต์กลับมาทำงาน ตัวมอเตอร์ไฟฟ้า ISG จะทำหน้าที่เป็นตัวสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อกดคันเร่งออกตัว หรือเมื่อขับรถแล้วต้องการเร่งแซง มอเตอร์ไฟฟ้า ISG จะเป็นตัวช่วยเสริมกำลังให้กับเครื่องยนต์ให้มีอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ทันใจมากขึ้น โดยในจังหวะถอนคันเร่งหรือเหยียบเบรก ตัว ISG ก็จะช่วยในเรื่องของการปั่นไฟเพื่อชาร์จกลับเข้าสู่แบตเตอรี่เช่นกัน
ดังนั้นการทำงานของ Smart Hybrid จะแตกต่างจากระบบ full hybrid ชัดเจนทำให้การขับขี่ก็ย่อมแตกต่างเช่นกัน กดคันเร่งแค่รู้สึกว่าคันเร่งเบาลงเท่านั้นถ้าเทียบกับรุ่นเดิมไม่ได้แรงขึ้นมาก ซึ่งจริงแล้ว ตัวมอเตอร์ไฟฟ้า ISG คือตัวช่วยในการลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์มากกว่า ซึ่งส่งผลหลักๆทำให้เครื่องยนต์ทำงานเบาแรงลงกินน้ำมันน้อยลงนั้นเอง
ในส่วนเรื่องการขับขี่ Ertiga เป็นรถที่ขับขี่ได้ดีอยู่แล้วทั้งช่วงล่างที่มีความพอดี แต่มีอาการกระเทือนบ้างเล็กน้อยในพื้นผิวที่ไม่เรียบแต่ในความเร็วสูงก็ยังให้ความมันใจได้ การเก็บเสียงทำได้ดีเงียบทั้งความเร็วสูงและความเร็วต่ำ แอร์ภายในห้องโดยสารแม้ว่าจะนั่งแถวสามก็ยังให้ความเย็นทั่วถึง
ระบบความปลอดภัย
- ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า
- เบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน
- EBD ช่วยกระจายแรงเบรก
- ควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP
- Idling Stop ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control),
- จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether,
- กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลัง
- ป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ภายใน Suzuki Ertiga Hybrid
- คอนโซลด้านหน้าสีดำตกแต่งลายไม้สีเทา
- คิ้วคอนโซลและคิ้วประตูตกแต่งด้วยสีเทาชาโคล (Charcoal pattern garnish)
- หน้าจอเครื่องเสียง Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
- รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
- ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charger
- ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
-จ่ายไฟสำรอง 12V 2 ตำแหน่ง
-จุดวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง
-ช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลาง
-เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง
-เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40
-แถวที่สามแบบ 50:50 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร
-พื้นที่เก็บของอเนกประสงค์บริเวณใต้ห้องเก็บสัมภาระ เปิด-ปิด ได้อย่างอิสระ 50:50
สรุป Suzuki Ertiga Hybrid
Suzuki Ertiga Hybrid ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกหนึ่งคันในตลาดกับรถ MPV 7 ที่นั่ง
จุดเด่น
1 ราคาที่ไม่สูงมาก
2 การขับขี่ที่ดี สมถรรนะ ช่วงล่าง การเก็บเสียง
3 ระบบไฮบริดที่เสริมให้รถมีอัตราการประหยัดที่ดียิ่งขึ้้น
4 พื้นที่ในตัวรถจัดวางออกมาได้กว้างขวางใช้งานได้สะดวก
ข้อเสีย
1 หน้าตารุ่นไฮบริด มีเพียงแค่โลโก้เท่านั้นบอกว่าเป็นไฮบริด
2 ช่องวางแก้วน้ำภายในรถน้อยเกินไปสำหรับรถครอบครัว
สำหรับ Suzuki Ertiga Hybrid ใหม่ ถ้าคาดหวังว่าจะแรงขึ้น หรือ ประหยัดน้ำมันแบบ 20km/L อาจจะไม่ใช่สำหรับ Ertiga Hybrid เพราะไฮบริดเป็นแค่ตัวเสริมให้เครื่องทำงานเบาแรงฉีดน้ำมันน้อยลง เครื่องดับบ่อยขึ้นเท่านั้น แต่ระบบไฮบริดแบบนี้นีก็มีข้อดีคือ การบำรุงรักษาต่ำไม่ยุ่งยากเพราะอุปกรณ์น้อยแถมตัวแบตเตอรี่เล็กซึ่งราคาไม่แพงเหมือนแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
สีตัวถังภายนอกของ Suzuki Ertiga Hybrid มีให้เลือก 4 สี
• สีแดงม่วง Mellow Deed Red
• สีขาว Pearl Snow White
• สีเงิน Metallic Magma Grey
• สีดำ Cool Black Metallic
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น