อีซูซุคาดการณ์ตลาดรถรวมปีนี้ปิดที่ 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ห่วงการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ เงินเฟ้อ การชะลอตัวเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่ออุตสาหกรรม แนะผู้บริโภคซื้อรถก่อนไฟแนนซ์ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม
อีซูซุแนะ ผู้บริโภคซื้อรถก่อนไฟแนนซ์ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่ม
เมื่อเร็วๆนี้ ได้สัมภาษณ์ ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ และ ทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ และปนัดดา เจณณวาสิน ประธานที่ปรึกษา บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ในงาน Motor Expo 2022 โดยสรุปประเด็นต่างๆ ดังนี้
ยอดขายรถรวมในตลาด
ยอดขายรถยนต์ 10 เดือนแรกของตลาดฯ ปีนี้รวมทุกประเภทอยู่ที่ 698,508 คัน แบ่ง เป็นปิกอัพ 323,625 คัน เป็นรถพีพีวี 51,642 คัน และรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ 27,228 คัน เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาย 10 เดือนของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 16.8% โดยอีซูซุมียอดขายรวมทุกประเภท 177,714 คัน เป็นรถปิกอัพ อีซูซุดีแมคซ์ 148,784 คัน มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถปิกอัพไทย 46% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเท่าที่อีซูซุดีแมคซ์ทำได้ ส่วนรถมิว-เอ็กซ์ มียอดขาย 15,141 คัน รถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ 13,789 คัน เทียบกับยอดขาย 10 เดือนของปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 20.9% อันนี้เป็นตัวเลขในเชิงปริมาณ
สำหรับตลาดรถปีนี้ อีซูซุคาดการณ์ว่า ยอดขายของรถทุกประเภทจะอยู่ที่ 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยจำนวนนี้เป็นปิกอัพ 400,000 คัน เพิ่มขึ้น 17% ซึ่งเติบโตมากกว่าตลาดรถยนต์โดยรวม ส่วนรถอีซูซุปีนี้คาดว่าจะขายได้ 216,500 คัน หรือเติบโตขึ้น 17.6% คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 21% อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์เริ่มมีสัญญาณชะลอตัวตั้งแต่เดือน 10 เป็นต้นมา
ปัจจัยลบต่อตลาดรถ
สัญญาณชะลอตัวที่เกิดขึ้นในด้านมหภาค เกิดจากผลกระทบที่รุนแรงจากภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ราคาสินค้าต่าง ๆ แพงขึ้น โดยเฉพาะน้ำมัน และภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบกับทุกอุตสาหกรรม และในปีนี้ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศไทยในหลายภูมิภาคยังประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้เกิดการชะลอตัวในการตัดสินใจซื้อรถใหม่
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกยังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ค่อนข้างมาก ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้ผลิตรถทุกแบรนด์ แต่ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ สถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ผลกระทบก็ยังไม่หมดไป ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละค่ายสั่งซื้อเซมิคอนดักเตอร์กับผู้ผลิตรายใด ซึ่งคาดว่าผลกระทบจะยังต่อเนื่องไปถึงต้นปีหน้าด้วย และยังมีความเสี่ยงเรื่อง Zero Covid ในประเทศจีนที่ส่งผลกระทบเรื่องการปิดโรงงานในกรณีที่เกิดการแพร่ระบาด ทำให้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ได้รับผลกระทบไปด้วย และยังความเสี่ยงเรื่องการปิดโรงงานชิ้นส่วนที่มีแหล่งผลิตมาจากประเทศจีนด้วย
“ขณะนี้ อีซูซุมีรถไม่เพียงพอต่อการส่งออกแต่ละประเทศ เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ปัจจุบันตลาดส่งออกอันดับ 1 ของอีซูซุ คือ ออสเตรเลีย 2.ตะวันออกกลาง 3.ยุโรป และ อาเซียน และด้วยปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ไม่เพียงพอทำให้การส่งมอบรถอีซูซุในประเทศไทยมียอดค้างสะสม ยิ่งเรามีอุปกรณ์ Innovation ใส่เข้าไปเยอะ ก็ต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์จำนวนมาก ทำให้รถรุ่น Top ของเรามีไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งยอดค้างคงต้องรอถึงปีหน้าแต่ไม่ถึง 6 เดือน แต่ยังให้คำตอบเรื่องเวลาแน่นอนไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าปัญหา supply เซมิคอนดักเตอร์จะคลี่คลายไปเมื่อไหร่ ถ้าได้เร็วก็ไม่ต้องคอยนาน”
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยอีซูซุจะพยายามปรับราคาให้ช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ถ้าจำเป็นก็จะปรับราคาเป็นระยะ ที่ผ่านมาต้นทุนจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่นั้น ทางอีซูซุยังตอบไม่ได้ แต่ราคาสินค้าต่าง ๆ ถีบตัวสูงขึ้น สิ่งที่อีซูซุทำอยู่คือ ทนให้ได้นานที่สุดเพื่อ ไม่ให้ลูกค้าต้องรับภาระการปรับราคา หรือถ้าปรับก็จะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ถ้าเทียบกับราคาก่อนหน้านี้ เซมิคอนดักเตอร์ราคาสูงขึ้นมาก รวมทั้งราคาชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ก็เพิ่มขึ้นด้วย ตอนที่แนะนำรถรุ่นใหม่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคม ได้มีการปรับราคาบางส่วน ซึ่งไม่ใช่เฉพาะอีซูซุเจ้าเดียวเท่านั้นที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็ประสบปัญหาต้นทุนสินค้าเหมือนกัน และไม่ใช่เฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ทุก ๆ อุตสาหกรรมก็ประสบปัญหาต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น เพราะปัจจัยหลัก คือ เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
คาดปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อ
ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ผู้ที่กำหนดการผ่อนชำระ คือ ไฟแนนซ์ต่าง ๆ เป็นคนกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่า ไฟแนนซ์ก็ประสบปัญหาดอกเบี้ยขาขึ้นเช่นกัน ดังนั้นก็ต้องทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อในไม่ช้านี้ สิ่งที่อยากแนะนำกับลูกค้าผู้ใช้รถ คือ อยากให้รีบตัดสินใจซื้อรถ ไม่เช่นนั้นนอกจากราคารถจะเพิ่มขึ้นแล้วแล้ว อาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเช่าซื้อในอัตราสูงขึ้นด้วย
ปัจจัยบวก-เปิดตัว EV TRUCK ที่ญี่ปุ่น
สำหรับปัจจัยบวกที่สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว แต่สถานการณ์เงินเฟ้อน่าจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปีนี้ อีกทั้งราคาพืชผลการเกษตรในปี 2565 ถือว่าดีพอสมควร ดังนั้น สถานการณ์ยอดขายจึงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนักในช่วงปีหน้า แต่อีซูซุคาดว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้น หากแต่สิ่งที่อีซูซุกังวลมากที่สุด คือ ภาวะเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจของประเทศจีน
อีซูซุ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น มีการใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนาสำหรับเรื่องรถปิกอัพไฟฟ้าของอีซูซุอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ยังไม่มีกำหนดในการออกสู่ตลาดที่แน่นอน แต่ในรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่มีแผนที่แน่นอนแล้วว่าจะแนะนำ EV TRUCK ในปีหน้าที่ประเทศญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าภาคการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ คือ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจไทย ถ้าต่อให้ส่งออกชะลอตัว แต่ถ้ามีข่าวด้านบวก เช่น การท่องเที่ยวฟื้นตัว จะทำให้ผู้คนเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยมากขึ้น แต่ถ้ามีข่าวเชิงลบบ่อย ๆ เช่น หลายประเทศจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเสื่อมถอยลงไปเรื่อย ๆ ทำให้การตัดสินใจซื้อรถล่าช้าไปเรื่อย ๆ ส่วนอัตราเงินเฟ้อก็อยู่ในช่วงที่ปรับขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าราคาน้ำมันปรับตัวลงเมื่อไหร่ อัตราเงินเฟ้อก็จะชะลอตัวลงด้วย ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็จะดีขึ้นตามลำดับ
“ปกติถ้ามีการเลือกตั้งใหม่จะก่อให้เกิดผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวม แต่ประธานมีความกังวลเรื่องสมดุลระหว่างปัจจัยบวกกับลบ ข่าวดีกับข่าวร้ายที่มีผลกระทบกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ซึ่งเป็นตัวหลักสำคัญในการพิจารณาว่าตลาดรถยนต์จะเป็นอย่างไร”
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ ตรวจสอบราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น