หลังจาก BMW เปิดตัว SUV รุ่นแรกของค่ายอย่าง X5 (G05) และ SUV คู่แฝดทรงท้ายลาด เมื่อปี 2018 และปรับโฉมครั้งใหญ่เมื่อปี 2019 ล่าสุด ในปี 2024 ทั้งสองรุ่นได้ปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกให้แตกต่าง อัพเกรดอุปกรณ์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ที่สำคัญ สมรรถนะการขับขี่แรงกว่า เร้าใจกว่า ด้วยขุมกำลัง Mild-Hybrid
ดีไซน์ภายนอก X5 และ X6 ปรับรายละเอียดใหม่เยอะขึ้น
ภายนอกของทั้ง X5 และ X6 ในรุ่นปี 2024 จะปรับทั้งสัดส่วนต่างๆ รอบคัน ปรับรูปลักษณ์ของกระจังหน้าไตคู่ และเส้นสายกันชนหน้าและกันชนล่างที่สอดรับกัน ดูใหม่ขึ้น แหลมคมโฉบเฉี่ยวมีสไตล์ ตั้งแต่ชุดกันชนหน้าที่ออกแบบมาดูสลับซับซ้อนกว่าเดิม โคมไฟหน้าปรับขนาดให้เล็กลงนิดหน่อย เปลี่ยนลายแถบไฟ DRL ด้านในให้ตรงกับรุ่นอื่นๆ ร่วมค่าย
โดยในรุ่น X5 มาพร้อมกระจังหน้าไตคู่ซ่อนไฟเรืองแสงตามสมัยนิยม แต่ถ้าใครมีใจสปอร์ตหน่อย ลองหารุ่นตัวท็อปอบ่าง X6 M60i xDrive ที่เปลี่ยนโทนสีเป็นสีดำเงา ติดปลายท่อไอเสียด้านหลังชนิด 4 ช่อง หรือสามารถอัพเกรดเป็นแพ็กเกจ Sport Package Pro ที่ปรับได้ทั้ง X5 และ X6 มีสีตัวถังให้เลือกทั้งโทนสีฟ้า M Marina Bay Blue Metallic (เฉพาะ X5) และสีเขียว M Isle of Man Green (เฉพาะรุ่น X6) หากไม่ชอบสีดังกล่าว ในรุ่นปกติก็มีสีภายนอกให้เลือกเยอะขึ้น อาทิ โทนสีเทา Brooklyn Grey metallic, สีเทา Skyscraper Grey metallic, สีเทา Frozen Pure Grey metallic และสีน้ำเงิน Blue Ridge Mountain metallic
ขณะที่ไฟท้ายของ X5 ปรับขนาดกรอบโคมใหม่ และรายละเอียดภายในแบบปลายหางลูกศร ผสานทั้งสองข้างเป็นตัว X พร้อมติดแผงดิฟิวเซอร์สีเงินขนาดใหญ่ที่ออกแบบมารูปโฉมใหม่ด้วย
ตัวถัง
ความยาว: 4,935 มม. ความกว้าง: 2,004 มม. ความสูง: 1,755 มม.
ฐานล้อ: 2,975 มม.
รัศมีวงเลี้ยว: 6.3 ม.
ความจุถังน้ำมัน: 69 ลิตร
ความจุห้องสัมภาระ: 500 – 1,720 ลิตร
ภายใน X5 และ X6 อัพเทคโนโลยีล้ำกว่าเดิม
ในส่วนของภายในห้องโดยสาร ของ BMW X5 และ X6 รุ่นปี 2024 อัพเกรดเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มจากชุดหน้าจอแสดงผล เปลี่ยนมาใช้จอกลางแบบโค้งต่อกันเป็นชิ้นเดียวอย่างสวยงาม ระหว่างจอมาตรวัดผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว กับจอกลางระบบอินโฟเทนเมนต์ ขนาด 14.9 นิ้ว เหมือนรุ่นอื่นๆ ในค่ายนี้อย่างชัดเจน มีเทคโนโลยี BMW Operating System 8 และแป้นหมุน iDrive รุ่นใหม่ล่าสุด หากผู้ขับขี่อาจไม่สะดวกที่จะสั่งการด้วยเสียงหรือการใช้สัญญาณมือ
นอกจากนั้น แผงคอนโซลหน้ายังตกแต่งเพิ่มด้วยวัสดุคล้ายหนังแท้ Sensafin คู่กับลายไม้ มีการติดตั้งไฟ LED ambient light bar ใต้คอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสารและติด Label รุ่น X5 หรือ X6 ส่วนรุ่น M60i จะใช้ตัวอักษร M แทน ปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์เป็นสวิตช์ไฟฟ้าทดแทนคันเกียร์แบบรุ่นก่อนๆ ทั้งนี้ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์หรือปุ่มปรับโหมดการทำงานของระบบขับเคลื่อนต่างๆ ยังมีหน้าตาเหมือนเดิม
สำหรับระบบความปลอดภัยใน X5 และ X6 ส่วนใหญ่ยังคงเดิม เพิ่มเติมคือปรับรายละเอียดการทำงานให้ฉับไวมีความฉลาดมากขึ้น เช่น Front-collision wraning system ตรวจจับวัตถุต่างๆ บนท้องถนนได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนปั่นจักรยาน, Driving Assistance Professional Package ที่เพิ่ม Highway Assistant ระบบช่วยเหลือการขับขี่ทางไกลผ่านการควบคุมรถให้อยู่ในเลนและเปลี่ยนเลนอัตโนมัติจนถึงความเร็ว 137 กม./ชม. พร้อมแสดงผ่านระบบ Assisted View Mode บนหน้าจอกลาง
ไฮไลท์ที่น่าสนใจอยู่ที่ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Parking Assistant Professional) ที่ช่วยจดจำเส้นทางการนำรถเข้าช่องจอดเป็นระยะทางสูงสุดกว่า 200 เมตร และนำรถออกจากช่องจอดโดยไร้การควบคุมจากผู้ขับขี่ ซึ่งสามารถสั่งการไปยังรถด้วยแอปพลิเคชัน My BMW หรือใครที่อยากได้ระบบเสริมอื่นๆ ก็สามารถซื้อแยกเพิ่มเติมได้ อย่างไก็ตาม ในระบบกันสะเทือน ทุกรุ่นย่อยจะมีระบบโช้กไฟฟ้าเป็นออพชันพื้นฐาน แต่รุ่น M60i ได้ระบบกันสะเทือน Adaptive M suspension ที่เสริมความดุดันในการขับขี่ รวมทั้งมีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ (Integral Active Steering ซึ่่งระบบนี้ ใครจองรุ่นย่อยรองลงไป ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มเท่านั้น!!)
ขุมกำลังใหม่ แรงสะใจด้วยระบบ Mild-hybrid
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของ 2024 BMW X5 และ X6 ที่ใครทราบคงถูกใจสิ่งนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากขุมกำลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยในรุ่น X5 sDrive40i ขับเคลื่อนล้อหลัง xDrive40i ขับเคลื่อนสี่ล้อ และ x6 xDrive40i มาในเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบเรียงขนาด 3.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบคู่ เสริมด้วยระบบ Mild-Hybrid 48v ที่หยิบยืมจาก BMW X7 2023 ที่ปรับโฉมไปก่อนหน้านี้ ทำให้เพิ่มแรงม้ามากขึ้นอีก 12 แรงม้า แรงบิด 199 นิวตันเมตร หากทำงานร่วมกัน จะได้กำลังสูงสุด 375 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 519 นิวตันเมตร ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ จะทำได้เพียง 335 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร BMW ยังกล่าวอีกว่า X5 และ X6 xDrive40i ปี 2024 สามารถเร่งความเร็ว 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 5.2 วินาที
ในส่วนของ X5 และ X6 M60i xDrive ใช้เครื่องยนต์เบนซิน V8 DOHC 32 วาล์ว ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศ ทวินเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่ BMW M GmbH ปรับแต่งให้โดยเฉพาะ เสริมระบบ Mild-Hybrid ทำให้มีกำลังสูงสุด 523 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ภายใน 4.2 วินาที
X5 xDrive50e PHEV (เสียบปลั๊กชาร์จไฟได้) ที่มาแทน xDrive45e มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง พ่วงระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จแบบ inline-6 กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 197 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร (สามารถ Boost ได้สูงสุดในช่วงเวลาสั้นๆ มากถึง 450 นิวตันเมตร) หากทำงานร่วมกัน กำลังสูงสุดคือ 489 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ขนาด 25.7 kWH อัพเกรดจากรุ่นก่อนๆ 17.1 kWH หากใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน จะวิ่งได้ไกลถึง 64 กิโลเมตร จับคู่ด้วยเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลา 4.8 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง
สำหรับใครที่อยากสนุกสนานในการขับขี่ BMW เตรียมแพ็คเกจ M Sport ที่จะช่วยปรับอัตราทดเกียร์ให้อยู่ในค่าต่ำที่สุดหากเข้าสู่โหมดออกตัวพิเศษ ยังไม่พอ ทุกรุ่นได้ติดตั้งปั๊มน้ำมันไฟฟ้า และชุดลดแรงสั่นสะเทือนภายในเกียร์อีกด้วย ส่วนการเปิดตัวในไทย ต้องรอการอัพเดทอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าจะมีรุ่นใด ออพชันใด หรือมีราคาวางจำหน่ายเท่าไรบ้าง รวมทั้งกำหนดการเปิดตัวที่เร็วที่สุด อาจพบเห็นในงาน Bangkok Motor Show 2023 ที่จะมีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคมนี้...ก็เป็นได้
ที่มา: BMW, Carscoops, Motor1
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn
ค้นหารถมือสองทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถมือสอง One2car
LINE
ความคิดเห็น