จากความสำเร็จของโปรเจ็กต์พิเศษ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ตัวจริงทุกเส้นทาง” ซีซั่น 1 สู่ “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads…ลุยท้าโลก” ซีซั่นที่ 2
Isuzu V-Cross 4x4
การเดินทางสำหรับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะใช้งานในแบบออนโรดหรือตะลุยในแบบออฟโรด เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถปิกอัพออฟโรดระดับพรีเมียมสู่ประสบการณ์จริงของการขับขี่ในเส้นทางอุดรธานี สู่วังเวียง และเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ถ้าคุณเป็นคนรักการท่องเที่ยวโดยการเดินทางโดยรถยนต์ นี้เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่เราสามารถท่องเทียวโดยรถยนต์ ขับข้ามประเทศง่ายๆพร้อมน้ำมันเพียงหนึ่งถัง
การเดินทางเริ่มต้นที่ จังหวัดอุดรธานี เติมพลังด้วยคิงส์โอชา ร้านอาหารเช้าขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี โดยเมนูเด็ดของร้านคือไข่กระทะและขนมปังยัดไส้ที่กรอบนอกนุ่มในหอมอร่อย ก่อนเริ่มเดินทางด้วย ISUZU V-CROSS 4x4 MAGIC EYEs รวมทั้งสิ้น 11 คัน ข้ามแดนผ่านด่านหนองคาย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว โดยการขับรถยนต์ท่องเที่ยวในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวนั้น
สามารถใช้ใบอนุญาตขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดของประเทศไทยได้ โดยไม่จำเป็นต้องทำใบขับขี่นานาชาติ เมื่อเข้าสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
มุ่งหน้าต่อไปยังร้านอาหาร “Lao Derm Som Ngum” ร้านอาหารแพริมน้ำ ตั้งอยู่บริเวณสะพานท่าง่อน ริมแม่น้ำงึม ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 23 กม. ที่ทุกคนสามารถชมบรรยากาศของลำน้ำงึม ไปพร้อมกับอาหารมื้ออร่อย เพื่อส่งต่อพลังให้กับการขับรถในช่วงบ่าย หลังจากอิ่มจากอาหารเที่ยงแล้ว ขบวนรถ ISUZU V-CROSS 4x4 เดินทางต่อไปอีก 123 กม.
ผ่านทางด่วนพิเศษตัดใหม่สู่เมืองวังเวียง เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของแขวงเวียงจันทน์ ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ จนได้ชื่อว่าเป็น "กุ้ยหลินเมืองลาว" พื้นที่ของเมืองนี้ เต็มไปด้วยป่าไม้ ถ้ำ และภูเขาหินปูนมากมาย โดยจุดหมายของเราอยู่ที่ สะพานสีฟ้า และถ้ำนางฟ้า ซึ่งเป็นจุดเช็กอินใหม่ของวังเวียงที่ห้ามพลาด “สะพานสีฟ้า” หรือมีชื่อเรียกที่รู้จักกันดีว่า “ขัวสีฟ้าถ้ำนอน” เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำซอง ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปพบกับ “ถ้ำนางฟ้า” ถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามตามธรรมชาติ และมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวมากมาย ได้แก่ จุดชมวิวบนสะพาน พายเรือคายัค ซิปไลน์โหนสลิง สำรวจถ้ำ และกิจกรรมอื่น ๆ ให้ร่วมสนุกกัน
จากนั้นจึงเดินทางเข้าที่พัก ณ โรงแรมอมารี วังเวียง ซึ่งแวดล้อมไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติแห่งขุนเขา ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำซอง และปิดท้ายวันด้วยการรับประทานอาหารค่ำที่ “M&M Rooftop Bar” ร้านอาหารรูฟท็อป ให้บริการด้วยเมนูอาหารที่คัดสรรเป็นอย่างดี พร้อมนั่งฟังเพลงชิล ๆ เคล้าวิวทิวเขา และแสงไฟของเมืองวังเวียง ด้วยความประทับใจ ก่อนแยกย้ายกันไปชาร์จพลังพร้อมลุยต่อ
วันที่สอง วันใหม่ที่ “พูม่ายคาเฟ่” ร้านกาแฟ ราคาหลักสิบแต่วิวหลักล้าน คาเฟ่ตกแต่งในสไตล์ธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยวิวภูเขาล้อมรอบ 360 องศา พร้อมเมนูเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปเพื่อรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านอาหารเวียงธารา” ตั้งอยู่ใน เวียงธารา วังเวียง รีสอร์ท ได้อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชนิด พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม และทุ่งนาอันเขียวขจี
จุดหมายต่อมาคือ “วัดสินไชยาราม” ณ เมืองเฟือง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาหินสูงตระหง่าน โดยวัดแห่งนี้มีการสร้างวัดไปพร้อมกับการดูแลอนุรักษ์ป่าไม้ ฟื้นฟูสภาพป่าไม้ เป็น 1 ในพุทธอุทยาน ที่สำคัญใน สปป.ลาว และเป็นสถานที่เรียนรู้พุทธศาสนาและปฏิบัติธรรม รวมถึงเป็นจุดหมายของสายมูทั้งหลายที่มักจะมาขอพรจากพญานาคเพราะมีความเชื่อว่าที่วัดสินไชยารามแห่งนี้เชื่อมต่อกับคำชะโนด ในประเทศไทย
ก่อนเดินทางต่อไปยังเมืองหลวงเวียงจันทน์ และเพลิดเพลินกับอาหารมื้อค่ำที่ร้านหมูกระทะฮิตติดลมบนของคนรักปิ้งย่างที่ร้าน “ซิ้นดาดโป๊ยเซียน” ที่คัดสรรมาแต่เนื้อคุณภาพดีมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะ ก่อนเข้าเช็กอินกันที่ “โรงแรมเลอธาตุหลวงดอร์ บูทีคโฮเทล” (Le Thatluang D'oR Boutique Hotel) โรงแรมดีไซน์ สวยและตกแต่งในสไตล์ลักซูรี่ มีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง
วันสุดท้ายของทริป หลังจากเช็กเอ๊าท์ที่โรงแรมแล้ว จึงได้แวะไปสักการะ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” (Pha That Luang Vientiane) หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของสปป.ลาว องค์พระธาตุหลวงเวียงจันทน์นั้น มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยองค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ก่อนแวะรับประทานอาหารเที่ยงกันที่ “ร้านอาหารลาวเดิม” (LaoDerm Restaurant) ร้านอาหารลาวแท้ ๆ
สุดท้ายกับร้านกาแฟกันที่คาเฟ่สไตล์มินิมอลของเมืองวียงจันทน์ Au8ust The Living Factory กันอิ่มหนำ ก่อนเดินทางกลับสู่ประเทศไทย และปิดท้ายทริป “Isuzu V-Cross 4x4 Master Of All Roads …ลุยท้าโลก”
สำหรับการเดินทาง ทั้งหมดเริ่มต้นจาก อุดรธานี วังเวียง เวียงจันทน์ และกลับมาที่ประเทศอีกครั้งโดยรวมเส้นทางกว่า 565 km น้ำมันยังเหลือให้วิ่งท่องเทียวในประเทศไทยต่อได้อีก
ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs
รถที่ใช้ในการเดินทางครั้งนี้ เครื่องยนต์ Isuzu 3.0 Ddi Blue Power รุ่น 4JJ3-TCX กำลังสูงสุด 190 แรงม้าที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รอบ/นาที ระบบ Terrain Command สวิตช์เปลี่ยนการขับเคลื่อนจาก 2 ล้อเป็น 4 ล้อ ทำงานได้ฉับไว แม่นยำ เลือกการใช้งานให้เหมาะกับทุกสภาพถนนทั้ง 2H/4H และ 4L พร้อมสมรรถนะในการลุยน้ำได้สูงสุด 800 มิลลิเมตร ระบบ Electronic Diff-Lock ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า
เป็นรถเดิมๆจากไม่ได้ปรับแต่งอะไร การเดินทางท่องเที่ยวด้วย ISUZU V-CROSS ความสะดวกสบายนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการเดินทาง ซึ่งISUZU V-CROSSมีให้ในการเดินทางไกล กับระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่มาพร้อมนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ร่วมไปถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรฝัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ และจะช่วยควบคุมความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยโดยอัตโนมัติได้จนถึงรถคันหน้าหยุดนิ่ง ทำให้การเดินทางแบบคาราวานสะดวกเพราะเมื่อเราต้องขับตามรถคันนำในความเร็วคงที่เปิด ระบบ ACC เหมือนมีคนขับให้เราทำให้ลดอาการเมื่่อยล้าลงไปได้บางจังหวะเราอาจจะเพลินกับธรรมชาติ ลืมดูรถคันหน้าระบบก็จะเบรคให้อัตโนมัติ หรือ เมื่อต้องเบรคฉุกเฉินตัวรถก็จะทำการเตื่อนก่อนและจะทำการเบรกโดยอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ยังไม่เหยียบเบรกหลังสัญญาณเตือน ซึ่งทำให้เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางได้อีกด้วย
ในส่วนเครื่องยนต์หายห่วงกับพละกำลังที่เหลือล้นมันใจสำหรับการเดินทางไกลที่จะต้องมีเส้นทางชัน หรือต้องเร่งแซงตอบสนองได้อย่างทันใจ พร้อมให้การประหยัดน้ำมันที่ดีด้วย ช่วงล่างที่มันใจในการเดินทางกับทุกโค้ง ISUZU V-CROSS ออกแบบช่วงล่างให้มีความนุ่มนวลในการเดินทางไกลของด้านท้ายไม่มีลดลมยางลงช่วงในอาการดีดด้านท้ายน้อยลง ทำให้การเดินทางสบายมากยิ่งขึ้น
สรุป “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs”
กับการเดินทางท่องเที่ยวแบบคาราวานถึงประเทศลาว ด้วยรถปัจจุบันเส้นทางในประเทศลาวสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเหมาะกับการเดินทางโดยรถยนต์ และรถ ISUZU V-CROSS ที่พร้อมในทุกเส้นทางให้ความสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้นเหมือนรถเก๋ง ทั้งประหยัดน้ำมัน ทนทาน แม้ว่าระบบขับสี่จะไม่ได้ใช้แต่เมื่อเราเดินทางไกลไม่รู้สภาพเส้นทางข้างหน้าเราอาจจะได้ใช้ก็ได้ มีดีกว่าไม่มี
จุดเด่นจริงสำหรับ ISUZU V-CROSS คือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรฝัน ACC พร้อมฟังก์ชั่น Stop & Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) โดยระบบจะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้คงที่ ช่วยให้เราเดินทางได้สบายยิ่งขึ้นรวมไปถึงให้ความปลอดภัยในการเดินทาง
พบกับ “NEW! ISUZU V-CROSS 4X4 MAGIC EYEs” ได้ที่โชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai
อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
ความคิดเห็น