รีวิว Haval H6 HEV เปลี่ยนหน้าใหม่ ใส่ออพชั่นแน่นขึ้น Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

รีวิว Haval H6 HEV เปลี่ยนหน้าใหม่ ใส่ออพชั่นแน่นขึ้น

Champ Autospinn
โพสต์เมื่อ 07 July 2566

Haval H6 HEV เอสยูวีเรือธงจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ แม้ว่ารุ่นเดิมจะใส่ออพชั่นมาให้แบบจัดเต็มแล้ว แต่รุ่นใหม่นี้ยังเพิ่มเติมประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และดีไซน์ด้านหน้าแบบใหม่ หรูหราขึ้นกว่าเดิม


Haval H6 HEV 2023 เมื่อมองจากด้านหน้า จะเหมือนกับในรุ่น Haval H6 PHEV ส่วนออพชั่นอื่น ๆ ยังคงมีให้เหมือนเดิม สำหรับการขับทดสอบในครั้งนี้ เป็นการขับขี่ทางไกล จากกรุงเทพฯ-สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ระยะทางไป-กลับ ประมาณ 700 กม. ระหว่างทางได้เจอสภาพเส้นทางที่หลากหลาย มีโอกาสทดสอบทั้งในเรื่องของสมรรถนะเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ จึงอยากใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าสู่กันฟังครับ

ดีไซน์ภายนอก Haval H6 HEV 2023

สำหรับดีไซน์ภายนอก หลัก ๆ แล้ว จะใช้พื้นฐานเดิมของในรุ่นก่อน โดยสิ่งที่แตกต่างจากเดิมสำหรับภายนอก คือการใช้ดีไซน์ด้านหน้าแบบใหม่ Star Matrix เพิ่มความล้ำสมัยด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ และอีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจคือโฉมใหม่นี้มีระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี มาให้แล้ว เพียงแค่ใช้เท้าเตะไปที่ใต้ท้องรถ ฝาท้ายก็จะเปิด-ปิดให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งในรุ่นก่อนยังไม่มีระบบนี้มาให้

ในส่วนของออพชั่นอื่น ๆ ก็ให้มาแบบจัดเต็มเลยทีเดียวครับ เช่น ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home)

ไฟท้าย LED Taillight Strip ดีไซน์เป็นแนวยาว พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED สปอยเลอร์ท้าย และเสาอากาศแบบ Shark fin

หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร

ล้ออัลลอยลายสปอร์ต ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19 (หน้ายางแคบกว่า H6 HPEV เล็กน้อย)

ดีไซน์ภายใน Haval H6 HEV 2023

ภายในมาในโทนสีดำตัดกับสีครีม ตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นสีโครเมียมและสีโรสโกลด์ ซึ่งก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับเจ้าคันนี้ เบาะคู่หน้าเป็นแบบปรับไฟฟ้า นั่งแล้วรู้สึกสบายโอบกระชับ พวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มหนัง มีปุ่มมัลติฟังก์ชันสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่นตรงกลาง และจอเรือนไมล์

จอเรือนไมล์แบบ HD Multi Information Display ขนาด 10.25 นิ้ว ซึ่งจะแสดงภาพเสมือนจริงของรถที่อยู่รอบข้างด้วย เช่น รถเก๋ง ,รถบรรทุก ,รถจักรยานยนต์ ถือว่าเป็นหน้าจอที่สวยงามและล้ำสมัยมากครับ นอกจากนี้ยังแสดงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวรถ

จอ Head Up Display สำหรับแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากเลนถนน แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถเข้าไปตั้งค่าปิดหน้าจอ HUD ได้

จอเครื่องเล่นแบบ HD Touch Screen Multi-media Display ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า การเชื่อมต่อก็ถือว่าไวในระดับนึงครับ

เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย หน้าจอจะตัดภาพเป็นกล้องหลัง พร้อมกล้องมุมมอง 360 องศา ความละเอียดคมชัด โดยจะแสดงภาพรถเราเป็นรูปรถจำลอง ส่วนแวดล้อมภายนอกจะเป็นภาพจริง สามารถเลือกดูกล้องแต่ละมุมได้

ถ้ามองในภาพรวม จะเห็นได้ว่าเจ้าคันนี้ให้ปุ่มกดเมนูลัดมาน้อยมาก มันไม่ค่อยสมเหตุสมผลกับออพชั่นที่มีเยอะ เพราะเป็นการรวบรวมปุ่มทั้งหมดไปไว้ที่จอ นั่นเท่ากับว่าเวลาเราจะตั้งค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับระบบในรถ เราจะต้องควบคุมผ่านที่ตัวหน้าจอกลางเป็นหลัก จนทำให้รู้สึกว่าใช้งานได้ยากไปหน่อย เพราะบางทีเราแค่ต้องการเข้าไปเปลี่ยนโหมดขับขี่ แต่เราต้องเสียเวลาเข้าไปงมหาเมนูที่ตัวหน้าจอ ทำให้การใช้งานในสถานกาณ์จริง เราจะต้องละสายตาจากเลนถนนเพื่อไปมองที่หน้าจอ

ในส่วนของระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ถือเป็นอีกฟังก์ชั่นที่น่าสนใจครับ เพราะสามารถจอดได้ถึง 3 รูปแบบ

  1. จอดเข้าซองแบบตรง
  2. จอดเข้าซองแบบเฉียง
  3. จอดขนานข้าง

และอีกหนึ่งสิ่งที่ผมชอบก็คือเจ้าคันนี้มีระบบขับถอยหลังให้เองในระยะ 50 เมตร ซึ่งหลักการทำงานของระบบนี้คือ ในกรณีที่เราขับเข้าไปในซอยที่เป็นซอยแคบ หรือซอยตันที่ไม่สามารถกลับรถได้ เราสามารถใช้ระบบของตัวรถให้ช่วยขับถอยหลังได้ โดยระบบนี้จะจำระยะทาง 50 เมตรสุดท้ายที่เราขับเข้ามา และจะขับถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิม หมุนพวงมาลัยให้เองแบบอัตโนมัติ ถือเป็นระบบที่หรูหราและล้ำสมัยเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ระบบนี้เราจะเจอในรถยุโรปคันละ 2 ล้านกว่า แต่เจ้าคันนี้ราคาแค่ 1,349,000 บาท ก็มีมาให้แล้ว

เครื่องยนต์ Haval H6 HEV 2023

Haval H6 HEV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบลิเธียม Ternary ความจุ 1.69 kWh ระบบเกียร์แบบ DHT จังหวะการต่อเกียร์สมูทใช้ได้เลยทีเดียว (เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้า แบต เกียร์ เหมือนกับ HAVAL H6 HEV รุ่นก่อน)

Haval H6 HEV สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดประหยัด โหมดสปอร์ต และโหมดพื้นหิมะ (สภาพถนนลื่น) ตัวรถมีระดับความสูงจากพื้น 175 มม. ซึ่งเพียงพอต่อการขับลุยน้ำท่วมได้ แต่เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกใช้โหมดลุยน้ำได้ ซึ่งโหมดนี้จะเป็นการปกป้องการทำงานของระบบไฮบริดไม่ให้เกิดความเสียหาย เมื่อต้องขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง

ขับทดสอบ Haval H6 HEV 2023

ช่วงที่ขับออกตัว เพียงแค่เราอยู่ในตำแหน่งเกียร์ D พอยกเท้าออกจากเบรก ตัวรถเคลื่อนที่แบบไร้แรงหน่วง พอเติมคันเร่งไปอีกนิดตัวรถไหลลื่นได้ดีมากครับ ไม่มีความรู้สึกว่ารถหนักเลย การขับขี่ในช่วงแรกการจราจรแออัดมากครับ จึงถือโอกาสนี้เพื่อทดสอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันที่ทำงานจนถึงจุดหยุดนิ่ง จากการทดสอบถือว่าเป็นระบบที่ทำงานได้สมูทมากครับ เมื่อตั้งระดับความเร็วเอาไว้ รถเราจะวิ่งตามรถคันหน้า หากคันหน้าเบรก รถเราก็จะค่อย ๆ เบรกแบบหัวไม่ทิ่ม และถ้าคันหน้าเบรกจนรถหยุด รถเราก็จะหยุดตาม เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ รถเราก็จะเคลื่อนที่ตามจนถึงระดับความเร็วที่ตั้งเอาไว้ ในช่วงที่เป็นทางโค้งแบบไม่ลึกมาก ระบบจะควบคุมพวงมาลัยเข้าโค้งให้ด้วย โดยเราสามารถเว้นระยะห่างระหว่างรถเรากับรถคันหน้า ได้ 4 ระดับ

เมื่อมีรถขับตัดหน้า Haval H6 HEV มีระบบเตือนก่อนการชนพร้อมช่วยเบรกให้ด้วย และในกรณีที่ด้านข้างมีรถใหญ่ ระบบจะเบี่ยงตัวรถออกเพื่อไม่ให้เข้าใกล้ แต่การเบี่ยงนั้น รถเราก็ยังคงอยู่ในเลนนะครับ ไม่ได้ข้ามไปเลนอื่น เมื่อเคลื่อนที่ผ่านรถใหญ่แล้ว ตัวรถก็จะกลับเข้าสู่กึ่งกลางเลนเหมือนเดิม และนอกจากนี้ ถ้าหากเราขับออกนอกเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ระบบจะช่วยดึงพวงมาลัยให้กลับเข้าเลนเหมือนเดิม รวมถึงยังมีระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา Blind Spot

โหมดการขับขี่ 4 โหมด จากการทดสอบ มีความแตกต่างดังนี้

  • โหมดประหยัด (ECO) คันเร่งจะรู้สึกหน่วงกว่าโหมดอื่น ๆ เพราะเน้นประหยัด
  • โหมดมาตรฐาน (Normal) คันเร่งไวกว่าโหมด Eco เป็นการขับแบบปกติทั่วไป คันเร่งตอบสนองตามเท้า
  • โหมดสปอร์ต (Sport) คันเร่งไว รอบจัดขึ้น เหยียบคันเร่งในน้ำหนักเท่ากันแต่รถจะพุ่งแรงกว่าโหมดอื่น ๆ รวมถึงกินน้ำมันมากกว่าโหมดอื่นด้วย
  • โหมดพื้นหิมะ (Snow) จะเหมาะสำหรับการใช้งานบนถนนลื่น โดยระบบจะใช้เกียร์สูง เพื่อลดการฟรีของล้อ

ช่วงที่เป็นทางโล่ง ได้ลองทดสอบ Top Speed ซึ่งเจ้าคันนี้ให้อัตราเร่งที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ออกตัว จนความเร็วไปตันอยู่ที่ 182 กม./ชม.

เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี เริ่มมีฝนตก ประกอบกับเส้นทางในช่วงนี้เป็นทางคดเคี้ยวเยอะมาก ละอองน้ำจากคันหน้าจะตีขึ้นทำให้เรามองเส้นทางไม่ชัด จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการขับที่มากขึ้น หากใครต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมแนะนำให้เปิดแผนที่นำทางร่วมด้วย เพราะเราจะได้เห็นทางโค้งได้แบบล่วงหน้าจากแผนที่ ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยขึ้น ประกอบกับเจ้าคันนี้เค้ามีระบบความปลอดภัยมาให้แบบจัดเต็ม ทั้งรักษาตัวรถให้อยู่ในเลน แจ้งเตือนเมื่อขับจี้ท้าย พร้อมระบบช่วยเบรก ทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่มีอะไรต้องกังวล

ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ อิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบ มัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ในช่วงที่เป็นทางโค้งแบบกว้าง ๆ เราสามารถขับสาดโค้งที่ความเร็ว 140 กม./ชม. ได้เลยครับช่วงล่างเอาอยู่ แต่เจ้าคันนี้จะไม่ค่อยถนัดกับโค้งแบบลึก เพราะเท่าที่ลองทดสอบเข้าโค้งแรง ๆ ด้านท้ายแอบมีหลุดเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะตัวถังที่มีขนาดใหญ่ และช่วงล่างปรับเซ็ทมาแบบกลาง ๆ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มแบบรถครอบครัว

ในเรื่องของการเก็บเสียงนั้นดีใช้ได้เลยครับ ใช้ความเร็ว 140 กม./ชม. เสียงยังเงียบ แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านั้น จะเริ่มได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินบ้าง

หลังจากที่ขับมาพักใหญ่ ผมขอย้ายไปเป็นผู้โดยสารด้านหน้าซ้าย แล้วให้คุณเตอร์จากเว็บไซต์ Autostation เป็นผู้รับช่วงต่อ ในมุมของผู้โดยสารด้านหน้าถือว่านั่งได้สบายมากครับ สบายจนนั่งหลับ รู้สึกตัวอีกทีตอนจอดแวะเข้าห้องน้ำ

สำหรับการโดยสารเบาะด้านหลัง ได้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง ไม่อึดอัด เพราะรถมีตัวถังที่ใหญ่ รวมถึงกระจกหน้าต่างก็บานใหญ่เช่นกัน และถ้าเราเปิดหลังคาซันรูฟ ก็จะยิ่งได้ความรู้สึกโล่ง โปร่งไปอีกเท่าตัวเลยทีเดียว แอร์ด้านหลังเย็นฉ่ำ แต่พนักพิงเบาะหลังปรับระดับไม่ได้ โดยรวมของการนั่งโดยสารเบาะหลัง ก็ถือว่านั่งทางไกลได้ไม่เวียนหัว แต่ถ้าง่วงมันจะนั่งหลับยากเพราะเบาะปรับเอนไม่ได้

สรุปโดยรวมหลังขับทดสอบ Haval H6 HEV 2023

หากดูจากราคา 1,349,000 บาท กับออพชั่นทั้งหมดที่มีให้ผมว่าคุ้มมากครับ เพราะราคานี้ถ้าเทียบกับคู่แข่ง เราจะซื้อได้แค่ในรุ่นเริ่มต้นที่ออพชั่นน้อยกว่านี้ ส่วนในเรื่องของการดีไซน์ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ สำหรับผม ผมว่า Haval H6 HEV 2023 ดูหรูหราขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับหน้าเก่า เป็นรถที่ดูภูมิฐาน ขับทางไกลสบายไม่เหนื่อย และถึงแม้ว่าตัวถังจะมีขนาดใหญ่ แต่การขับขี่ในเมืองที่การจราจรแออัดก็ทำได้คล่องตัว มีระบบจอดแบบอัตโนมัติที่เหมาะสำหรับมือใหม่ มีกล้องรอบคันให้ดูเมื่อขับอยู่ในชุมชน มีระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือต่าง ๆ มากมาย ไว้คอยอำนวยความสะดวก

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คันที่ผมทดสอบเราขับกันแบบตีนผีมาก วิ่งด้วยโหมดสปอร์ตใช้ความเร็วยืนพื้นกันที่ 140-180 กันเกือบตลอดเส้นทาง เจอทางโล่งเราก็เหยียบคันเร่งแทบทะลุ กินน้ำมันอยู่ที่ 11 กม./ลิตร แต่มีพี่ ๆ ที่อยู่สื่ออื่นลองขับแบบปกติ ซิ่งบ้าง ช้าบ้าง ได้ประมาณ 15 กม./ล.

สุดท้ายนี้ หากท่านใดสนใจ สามารถรับชมตัวจริงพร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูม เกรท วอลล์ มอเตอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศครับ

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ