MG EV FAMILY รถไฟฟ้าชื่อนี้ต้องMG Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

MG EV FAMILY รถไฟฟ้าชื่อนี้ต้องMG

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 07 August 2566

เอ็มจี ถือเป็นเจ้าแห่งรถไฟฟ้าก็ว่าได้ ด้วยการเป็นผู้นำโดยการทำตลาดรถไฟฟ้า ตั้งแต่ปี 2562 ด้วยโมเดล NEW MG ZS EV และมีต่อเนื่องอีกหลากหลายรุ่นในประเทศไทยและถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีรถไฟฟ้าจัดจำหน่ายมากที่สุด


MG EV CAR

MG EV CAR

โดยปัจจุบัน MG มีรถไฟฟ้าจัดจำหน่ายมากถึง 4 รุ่น ได้แก่ NEW MG ZS EV, NEW MG ES, NEW MG4 ELECTRIC และ NEW MG MAXUS 9 

เมื่อมีหลากหลายรุ่นแล้วแต่ละรุ่นดีแย่ต่างกันอย่างไร วันนี้ทีมงานได้มีโอกาสทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น พร้อมกันแต่ขาดไปเพียงหนึ่งรุ่นกับ MG MAXUS 9 ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม MPV ซึ่งจะมีความแตกต่างจากรุ่นอื่นอย่างชัดเจน

รุ่นแรกกับ NEW MG ZS EV ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม crossover 

NEW MG ZS EV

มิติตัวถัง

  • ความยาว : 4,323 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,809 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,649 มิลลิเมตร
  • ความยาวฐานล้อ : 2,585 มิลลิเมตร
  • Ground Clearance : 161 มิลลิเมตร
  • น้ำหนักตัวรถ : 1,570 – 1,610 กิโลกรัม

ขุมพลังขับเคลื่อน

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor 1 ตัว กำลังสูงสุด 177 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร (รุ่นเดิม 150 แรงม้า 350 นิวตันเมตร) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 50.3 kWh 

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.6 วินาที
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง อยู่ที่ 403 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
  • ช่องชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC เป็นแบบ Type 2 ช่องชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC เป็นแบบ CCS2
  • ชาร์จไฟฟ้า AC ด้วย MG Home Charge จาก 0 – 100% ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที
  • ชาร์จไฟฟ้า DC ด้วย DC Fast Charge จาก 30 – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที

ราคาอย่างเป็นทางการ MG ZS EV Minorchange 

  • MG ZS EV D : 949,000 บาท
  • MG ZS EV X : 1,023,000 บาท

คันที่สอง MG ES รถไฟฟ้า100% รูปแบบ Station Wagon


MG ES

มิติตัวถัง

  • ยาว  4,600 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,818 มิลลิเมตร
  • สูง  1,543 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,665 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance  115 มิลลิเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย  464 – 1,367 ลิตร เมื่อพับเบาะ

ขุมพลังขับเคลื่อน

มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า เกียร์อัตโนมัติแบบ Single Speed แบตเตอรี่ Lithium-ion 51 kWh

ตัวเลขจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 8.5 วินาที
  • Top Speed ความเร็วสูงสุด 185 km/h
  • วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 412 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน NEDC)

Charging การชาร์จไฟฟ้า

  • หัวชาร์จแบบ Combined Type2 และ Quick Charge แบบ CCS Combo
  • รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 kW ใช้เวลา ภายใน 7 ชั่วโมง 15 นาที
  • รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC สูงสุด 11 kW ใช้เวลา ภายใน 5 ชั่วโมง
  • รองรับการชาร์จกระแสตรง DC Fast Charging สูงสุด 87 kW 0-80% ใช้เวลา ภายใน 40 นาที
  • ระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) 2200W จ่ายพลังงานจากรถ สู่เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้

ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU จากจีน)

  • MG ES  959,000 บาท

คันที่สาม MG4  Electric รูปแบบ Hatch Back


MG4  Electric

มิติตัวถัง

  • ความยาว : 4,287 มิลลิเมตร
  • ความกว้าง : 1,836 มิลลิเมตร
  • ความสูง : 1,516 มิลลิเมตร
  • ระยะความยาวฐานล้อ  :2,705 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดจากพื้น : 117 มิลลิเมตร

ขุมพลังขับเคลื่อน

ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ RUBIK’s CUBE Baterry ขนาดความจุ 51 kWh ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น มาพร้อมระบายความร้อนแบบ LIQUID Cooling System รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 6.6kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 88 kW

มาพร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO NORMAL SPORT CUSTOM SNOW นอกจากนี้ ยังมีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่ปรับได้ 4 ระดับ พร้อมโหมด Adaptive

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที
  • Top Speed ความเร็วสูงสุด 161 km/h
  • วิ่งระยะไกลสุด 425 km. (มาตรฐาน NEDC)

สมรรถนะตัวเลขเคลมจากโรงงาน

  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 425 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
  • ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
  • ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง 30 นาที

ราคา MG 4 Electric

  • MG 4 Electric D : 869,000 บาท
  • MG 4 Electric X : 969,000 บาท

ความแตกต่างสำหรับทั้ง 3 รุ่น

ความแตกต่างสำหรับทั้ง 3 รุ่น แน่นอนว่าเป็นเรื่องของรูปแบบของตัวรถที่แตกต่างกันเด่นชัดที่สุด

MG ZS EV เป็นรถในกลุ่ม crossover ที่ในตลาดถือว่าได้รับความนิยมสูงที่สุดด้วยรูปแบบตัวรถที่เหมาะสมกับการใช้งานในทุกรูปแบบจะลุยหรือจะใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันทำให้เป็นรถอเนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นที่ขายดีมาตั้งแต่รุ่นแรกแต่แน่นอนว่าในปัจจุบันมีผู้เข้ามาทำตลาดรถไฟฟ้าในกลุ่มนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้นซึ่งทำให้ผู้บริโภคย่อมมีตัวเลือกที่มากขึ้น เช่นกัน แต่จุดเด่นที่ทำให้ MG ZS EV เหนือกว่าก็ต้องยอมรับว่าชื่อเสียงจากรุ่นเดิมนั้นถือว่าทำได้ดีการดูแลรักษาง่ายไม่จุกจิกปัญหาน้อยการซ่อมบำรุงราคาไม่แพง ซึ่งถ้าไม่ดีจริงก็คงไม่มีรุ่นที่สองตามออกมาดังนั้นความเชื่อมั่นก็เป็นสิ่งสำคัญ
 

MG ES  รูปแบบ Station Wagon หรือรถแวนแนวครอบครัวอย่างแท้จริงซึ่งถ้าคุณมองหารถในกลุ่มแวนไฟฟ้าในตลาด ก็ถือว่าไม่มีคู่แข่งในตลาด ซึ่งรถแวนถือเป็นรถระหว่างกลางที่ตอบโจทย์ได้ทั้งรถอเนกประสงค์และเก๋งสไตล์สปอร์ต MG ES ถือเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อจาก MG EP แต่ก็มีความแตกต่างจาก EP ทุกประการตั้งแต่การออกแบบต่างๆรวมถึงสิ่งสำคัญกับระบบขับเคลื่อนที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นในทุกด้าน 

MG4  Electric รูปแบบ Hatch Back ก็เป็นรถที่นิยมในตลาดเช่นเดียวกันในกลุ่มรถเก๋ง ด้วยรูปทรงที่ดูมีความสปอร์ตพร้อมด้วยการใช้งานที่สามารถขนของได้มากกว่ารถเก๋ง ซึ่งสามารถตอบโจทย์ได้ทุกเพศทุกวัย รวมถึงหน้าตาที่ดูแตกต่างจากรถไฟฟ้าทั่วไปมีความโดดเด่นอย่างชัดเจน และที่สำคัญกับการออกแบบให้รถใช้มอเตอร์ที่วางอยู่ด้านหลังทำให้เป็นรถไฟฟ้าคันแรกที่ขับเคลื่อนล้อหลัง   

ระบบขับเคลื่อนทั้งสามรุ่น

ระบบขับเคลื่อนทั้งสามรุ่น มีความแตกต่างกันเล็กน้อย สำหรับแบตเตอรี่ MG ZS มีความจุน้อยสุด Lithium-ion 50.3 kWh อีกสองรุ่นมีความจุ 51 kWh ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อย ความแรงก็ต่างกันเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับการทดสอบรถที่ประหยัดไฟฟ้าได้ดีที่สุดคือ MG ES เกิดจากโปรแกรมของตัวรถที่มีความฉลาดสุดทำให้การจัดการไฟฟ้าทำได้ดีมากที่สุดในส่วนเรื่องความแรงถ้ามองจากตัวเลข ZS อาจจะเห็นว่าแรงม้ามากสุดแต่ในความเป็นจริงรวมถึงการออกแบบที่ดีทำให้ MG4 เป็นรถที่มีความแรงมากที่สุดรวมไปถึงให้การขับขี่ดีที่สุดในกลุ่มแน่นอนว่าเกิดจากการออกแบบ โดยการพัฒนา MG4 บนแพลตฟอร์ม NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM นวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งส่งผลทำให้การขับขี่ดีขึ้นด้วย

ทั้งหมดนี้คือความแตกต่างของทั้งสามรุ่น ตั้งแต่รูปแบบรถที่มีความแตกต่างกันทั้งหน้าตาและการใช้งาน MG ZS เป็นรถอเนกประสงค์ที่จะตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบพร้อมความสูงของตัวรถที่จะสามารถพาคุณไปได้ทุกที่  
MG ES เป็นรถที่อยู่ตรงกลางระหว่างรถใช้งานแบบครอบครัวและรถเก๋งทรงสปอร์ตด้วยรูปทรงที่สามารถขนของได้เยอะในวันที่ต้องพาครอบครัวเดินทางไกล แต่เมื่อถึงเวลาความสนุกในการขับขี่ตัวรถก็สามารถตอบสนองในการขับขี่ได้เป็นอย่างดีด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้การตอบสนองได้อย่างทันใจรวมไปถึงประหยัดไฟฟ้าไปพร้อมๆกัน

MG4 รถไฟฟ้าสายสปอร์ต ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองผู้ที่รักการขับขี่ได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่หน้าตาที่มีความสปอร์ตตั้งแต่แรกเห็นตัวรถทรง Hatch Back ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองสายซิ่ง การกระจายน้ำหนักของตัวรถเป็นแบบ 50:50 ทำให้การ

ควบคุมรถเป็นไปดังใจสั่งมอเตอร์อาจจะดูมีพละกำลังที่น้อยแต่เมื่อคุณได้ขับขี่ก็จะเห็นถึงการจัดการพลังงานที่ดีทำให้การตอบสนองของตัวรถเป็นไปได้ดีในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะการควบคุมหรือพละกำลัง

MG4 ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ CTB (Cell to Body)  ก็คือรวมร่างแบตเข้ากับ ตัวถังด้านล่าง ด้านบน ประกบผนึกซีลไปกับห้องคนขับ ข้อดีหลักๆคือลดทุกอย่างได้ลดขั้นตอนการประกอบ  ไม่เพียงช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของชิ้นส่วนโครงสร้างในส่วนล่าง ให้สามารถมีความยืดหยุ่นมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างเพื่อป้องกันการชนด้านหน้า ด้านข้างแต่มีข้อเสียในเรื่องการบำรุงรักษาและถ้าเกิดความเสียหายอาจจะเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด

 

ซึ่งแตกต่างจาก CTC (Cell to Chassis) เป็นเทคโนโลยีแรกๆที่นิยมใช้กับรถยนต์เครื่องสันดาบแชสซีเดิมและนำมาใส่แบตเตอรี่ภายหลังโดยการจัดวางจะต่างกันโดย จัดวางใต้ท้องรถได้เลย ส่วนโครงสร้างชุดแบตเตอรี่นั้นก็จะเป็นแบบแบตเตอรี่แพ็คที่ประกอบไปด้วยแบตเตอรี่โมดูล และหน่วยเล็กที่สุดเป็นแบตเตอรี่เซลล์ เพราะช่วยในเรื่องการจัดการความร้อน/การถ่ายเทความร้อนในแต่ละเซลล์ และการแบ่งเป็นหน่วยอย่างโมดูล ก็ยังช่วยในการตัดวงจรความเสียหายและง่ายต่อการซ่อมบำรุงแยกเป็นโมดูล

รวมถึงยังเพิ่มความแข็งแรงให้กับชุดแบตเตอรี่ในแง่ของความปลอดภัยที่มีโครงสร้างทั้งแบตเตอรี่โมดูลและแบตเตอรี่แพ็คครอบอีกชั้นหนึ่ง แต่รูปแบบ “เซลล์-โมดูล-แพ็ค” นี้ก็ส่งผลให้ต้องมีโครงสร้างและระบบสายไฟที่ซับซ้อนภายในแบตเตอรี่เพื่อเชื่อมระหว่างเซลล์และระหว่างโมดูล 

ซึ่งทั้งสองรูปแบบนี้ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปจึงทำตัดสินได้ยากเพราะจริงแล้วก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้บริโภคในเรื่องความคงทนเพราะสุดท้าย อีกหนึ่งความสำคัญคือผู้ผลิตที่จะให้การรับประกันได้ดีแค่ไหน
 

ดังนั้นเชื่อได้ว่า MG เป็นค่ายรถเพียงค่ายเดียวที่มีตัวเลือกรถไฟฟ้าให้มากที่สุด คุณต้องการรถแบบไหนก็สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการรวมไปถึงรถที่คุณลืมไม่ได้กับ MG MAXUS 9 รถหรูแบบ MPV ที่มีเพียงเจ้าเดียวในตลาด ณ เวลานี้สามารถเดินทางไปได้ทั้งครอบครัวแบบ VIP และที่สำคัญกับศูนย์บริการที่มีอยู่ทั่วไทยมั่นใจได้ในการรับประกัน

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ