ครั้งแรกของโฉมนี้ กับภายในสีดำ ที่หลายคนรอคอย ในส่วนของออพชั่นอื่น ๆ แม้จะเหมือนกับในรุ่นปกติ แต่บอกเลยว่า รุ่นพิเศษ Phantom Collection นี้ ดูลงตัวขึ้นเยอะ กับราคาที่จ่ายเพิ่ม 12,000 บาท จากรุ่นปกติ
Isuzu MU-X Phantom Collection (รุ่นพิเศษ) คือการนำเอารุ่นท็อปของรุ่น 1.9 และ 3.0 มาตกแต่งเพิ่มเติม พร้อมกับเพิ่มสีพิเศษ เทาไอลาย์ โอเพค โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยดังนี้
- MU-X 1.9 4X2 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,506,000 บาท
- MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,551,000 บาท
- MU-X 3.0 4X4 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,651,000 บาท
ซึ่งทั้ง 3 รุ่นดังกล่าว มีราคาที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติเพียงแค่ 12,000 บาท เท่านั้น โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีเทาไอลาย์ โอเพค และสี ขาวมุกโดโลไมท์ (สีขาวมุกโดโลไมท์ จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 12,000 บาท)
สำหรับคันที่ออโต้สปินน์นำมารีวิว คือรุ่น MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,551,000 บาท ความน่าสนใจของเจ้าคันนี้จะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
รีวิว MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection ดีไซน์ภายนอก
โดยรวมของภายนอก หลัก ๆ แล้วจะเหมือนกับในรุ่นปกติ แต่จะโดดเด่นมากกว่าด้วยล้อแมกซ์สีดำเงา และตัวถังสีใหม่ เทาไอลาย์ โอเพค ที่มีเฉพาะในรุ่นพิเศษเท่านั้น ส่วนออพชั่นอื่น ๆ ของภายนอกยังคงมีให้เหมือนเดิม เช่น ไฟหน้าแบบ Bi LED โปรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบเปิดไฟสูงอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะใช้กล้อง ADAS ที่อยู่ด้านบนของกระจกหน้าในการตรวจจับ หากทางข้างหน้ามืดไม่มีแสงไฟ ระบบจะเปิดเป็นไฟสูงให้เอง แต่ถ้ามีรถอยู่ด้านหน้า หรือมีรถวิ่งสวนทางมา จะปรับเป็นไฟต่ำให้แบบอัตโนมัติ
กระจังหน้าสี Magnetite และ Black Chrome ดูสวยงามดุดัน ชุดแต่งรอบคัน ในเฉดสี Magnetite Gray รวมถึงแร็คหลังคา และขอบชายบันไดข้าง
ไฟท้าย LED สไตล์ Winglet Signature เล่นระดับแบบ 3 มิติ
ระบบฝาท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ทำงานร่วมกับระบบ Step Sensor เป็นฝาท้ายที่มีลูกเล่นน่าสนใจและใช้งานง่ายเลยทีเดียวครับ เพียงแค่เดินเข้าใกล้เซนเซอร์ด้านท้าย แล้วถอยหลังออกมาประมาณ 2 ก้าว ฝาท้ายก็จะเปิดให้เอง โดยไม่ต้องใช้มือ และไม่ต้องใช้เท้าเตะไปที่ใต้ท้องรถ เวลาปิดฝาท้ายก็เช่นกัน ใช้วิธีเดียวกับตอนเปิดเลย นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดฝาท้ายได้จากปุ่มภายในรถ กดที่กุญแจรีโมท หรือเปิดที่ปุ่มตรงฝาท้ายก็ได้เช่นกัน
ระบบสตาร์ตรถทางไกลผ่านกุญแจรีโมท เราสามารถใช้กุญแจรีโมทสั่งสตาร์ทรถทางไกลได้ในรัศมี 20 เมตร พร้อมเปิดแอร์เย็นฉ่ำ แต่รถจะยังถูกล็อคประตูเอาไว้เพื่อป้องกันการโจรกรรม เป็นอีกหนึ่งระบบที่ล้ำสมัยเลยทีเดียว
รีวิว MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection ดีไซน์ภายใน
ภายในเบาะหนังสีดำ ต่างจากรุ่นปกติที่เป็นสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกเป็นวัยรุ่นมากขึ้น เบาะฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะคนนั่งข้างปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง นั่งสบายนุ่มกำลังดี เป็นเบาะหนังที่ใช้เทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน จากการทดลองนำรถไปจอดตากแดดเป็นเวลานาน พอขึ้นไปนั่ง เบาะจะมีความรู้สึกร้อนก้นน้อยกว่าเบาะหนังแบบธรรมดาทั่วไป
ภายในยังตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black และสีเทาดำ Dark Magnetite เป็นการเล่นโทนสีที่ดูเข้มขรึม ส่วนงานประกอบนั้นโดยรวมก็ถือว่าเนี๊ยบใช้ได้เลยครับ
แผงข้างประตูตกแต่งด้วยสี Dark Magnetite และยังมีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light อีกด้วยครับ
พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมปุ่มมัลติฟังก์ชัน ปุ่มทางฝั่งซ้ายบนพวงมาลัยสำหรับควบคุมจอเครื่องเล่น ส่วนปุ่มทางด้านขวาสำหรับควบคุมมาตรวัดเรือนไมล์ และมีปุ่มสำหรับตั้งค่า Cruise Control ที่เป็นแบบแปรผัน พร้อมปุ่มเว้นระยะห่างระหว่างรถเรากับคันหน้า
จอเครื่องเล่นแบบทัชสกรีน ขนาดใหญ่ 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CayPlay แบบไร้สาย ใช้งานง่าย เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอย ภาพจะตัดเป็นกล้องหลังพร้อมเส้นกะระยะแบบเลี้ยวตามพวงมาลัย ให้ภาพที่คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ในส่วนของระบบแอร์ ด้านหน้าจะเป็นแบบออโต้ 2 โซน แยกซ้าย-ขวา มีปุ่มสำหรับเปิด-ปิดแอร์ด้านหลัง
หัวเกียร์จับกระชับมือ ปุ่มที่อยู่ฝั่งซ้ายคอนโซลเกียร์สำหรับเปิด-เซนเซอร์ ,ปุ่มเปิด-ปิดระบบ idling Stop ส่วนปุ่มทางฝั่งขวา สำหรับเปิด-ปิด Traction Control และปุ่มควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน นอกจากนี้ยังมีระบบ Auto Hold Break รวมถึงเบรกมือไฟฟ้า ให้อีกด้วยครับ
เบาะแถวสองสามารถพับได้เรียบ ขึ้นลงง่าย จากการทดลองนั่งในระยะทางยาว ๆ ถือเป็นเบาะที่นั่งสบาย ฐานเบาะใหญ่นั่งเต็มก้น พนักพิงสามารถปรับเอนได้ มีแอร์เพดาน ปลั๊กไฟ AC 220 v และช่อง USB Type A 2 ช่อง สำหรับชาร์จโทรศัพท์
ในส่วนของเบาะแถวสามนั้น การขึ้นลงทำได้สะดวก เพียงแค่ดึงสลักที่เบาะแถวสอง แล้วก้าวเท้าขึ้นไปนั่งที่เบาะแถวสามได้เลย จากการทดลองนั่งแบบนาน ๆ ต้องยกนิ้วให้เลยครับ เพราะนั่งได้สบาย ขนาดว่าผมเป็นคนตัวสูง แต่นั่งแล้วหัวเข่าไม่ได้ตั้งชันจนเกินไป สามารถนั่งโดยสารได้นานประมาณ 3 ชั่วโมง หากนานกว่านั้นจะเริ่มเวียนหัวนิดหน่อย เพราะตำแหน่งของเบาะหลังอยู่ช่วงซุ้มล้อหลัง และยังมีแอร์ด้านหลังสุดให้อีกด้วยครับ
ระบบช่วงล่าง MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection
ระบบช่วงล่างจะเหมือนกับในรุ่นปกติ คือด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension พร้อมเหล็กกันโคลง ให้ความรู้สึกไปทางนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง
เครื่องยนต์ MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection
ในส่วนของเครื่องยนต์และเกียร์ยังคงใช้ของเดิม ซึ่งมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร และ 3.0 ลิตร สำหรับคันที่นำมารีวิว ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รหัส 4JJ3-TCX 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ระบายความร้อนด้วยน้ำ คอมมอนเรลไดเร็คอินเจ็กชั่น พร้อม VGS Turbo Intercooller ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6จังหวะ พร้อม Rev Tronic
แต่ถ้าเป็นรุ่นเครื่อยนต์ 1.9 ลิตร จะใช้รหัสเครื่อง RZ4E-TC 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ (DOHC) ระบายความร้อนด้วยน้ำ คอมมอนเรลไดเร็คอินเจ็กชั่น พร้อม VGS Turbo Intercooller ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่1,800-2,600 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Rev Tronic
ระบบความปลอดภัย MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection
มีเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) กล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ทำหน้าที่เหมือนดวงตาอัจฉริยะ คอยตรวจจับเส้นถนนและวัตถุด้านหน้าแบบ Real Time พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน
- ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go
- FCW (Forward Collision Warning) ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า
- AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- LDW (Lane Departure Warning) ระบบแจ้งเตือนออกนอกเลน
- AHB (Automatic High Beam) ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ
- PMM (Pedal Misapplication Mitigation) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด
- MSL (Manual Speed Limiter) ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง
- BSM (Blind Spot Monitoring) ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา
- RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์
- Parking Aid System ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์
- MCB (Multi-Collision Brake) ระบบเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
เทคโนโลยีความปลอดภัยพื้นฐานอื่น ๆ
- Anti-lock Brake System (ABS) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก พร้อม Brake Assist (BA) ระบบเสริมแรงเบรก และ Electronic Brake-force Distribution (EBD) ระบบกระจายแรงเบรก
- Traction Control System (TCS) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว
- Electronic Stability Control (ESC) ระบบควบคุมการทรงตัวขณะขับขี่
- Trailer Sway Control (TSC) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย
- Brake Override System (BOS) ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก
- Hill Start Assist (HSA) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
- Hill Descent Control (HDC) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน
- โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่งและทนทาน
- SRS Airbags 6 ตำแหน่ง
ทดสอบขับ MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection
สมรรถนะของเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร มีอัตราเร่งที่ดีตั้งแต่เริ่มออกตัว แม้ตัวรถจะมีน้ำหนักถึง 2,080 กก. ซึ่งจะเบากว่ารุ่นขับสี่ราว ๆ 85 กก. เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกียร์ D พอยกเท้าออกจากเบรก รถก็เคลื่อนที่แบบไร้แรงหน่วง สามารถไต่ระดับไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกอืด แต่ก็ไม่ถึงกับพุ่งกระฉูดครับ ในจังหวะที่เร่งแซงจากความเร็ว 80-120 กม./ชม. ก็ทำได้อย่างมั่นใจ ว่าแซงแล้วพ้นรถคันที่อยู่ด้านหน้าได้อย่างแน่นอน และช่วงที่ขับลอยตัวที่ความเร็ว 100-120 กม./ชม. จะใช้รอบเครื่องเพียงแค่พันนิด ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือหากขับแบบปกติเครื่องยนต์แทบไม่ต้องเค้นกำลังเลยครับ แต่ถ้าหากเรากดคันเร่งแบบคิกดาวน์ เสียงของเครื่องยนต์จะเข้าห้องโดยสารได้ยินเสียงชัดเจนตามสไตล์รถอีซูซุ หากคุณเคยใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลมาก่อนก็น่าจะคุ้นเคยกับเสียงแบบนี้ แต่ถ้าคุณเคยขับแต่รถเครื่องยนต์เบนซิน แล้วมาจับคันนี้ อาจตกใจกับเสียงนิดหน่อยในช่วงแรก ๆ
สำหรับการเก็บเสียงภายนอกนั้น ถือว่าเก็บเสียงได้ดีเป็นที่น่าพอใจครับ ลองขับที่ความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. เสียงลมภายนอกไม่ดังเข้าห้องโดยสาร แต่ถ้าใช้ความเร็วมากกว่านั้น ก็จะเริ่มได้ยินเสียงลมเล็ดลอดเข้ามาบ้างเล็กน้อยครับ
การเข้าโค้งที่ความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ตัวรถไม่มีออกอาการใด ๆ ทั้งสิ้น เรายังสามารถควบคุมตัวรถได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยยังคงควบคุมง่าย เพราะโครงสร้างแพลตฟอร์มได้มีการออกแบบให้โครงสร้างตัวถัง แชสซีส์ การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ และช่วงล่าง ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ใช้โช้คอัพแก๊ส และมีเหล็กกันโคลงที่ใหญ่ ทำให้การทรงตัวทำได้ค่อนข้างดี หากใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กม. และเป็นรถที่มีช่วงล่างออกแนวนุ่มแต่ไม่ย้วย ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone พร้อมคอยล์สปริง ช่วงล่างด้านหลังแบบ 5-Link Suspension ช่วยให้การรับแรงสั่นสะเทือนทำได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
ในเส้นทางที่มีโค้ง ผมทดสอบโดยใช้ความเร็วประมาณ 60-80 กม./ชม. หากเป็นโค้งที่ไม่ลึกมากนัก ก็สาดโค้งเข้าไปได้เลยไม่ต้องกลัวหลุด แต่ถ้าเป็นโค้งที่ลึกมากเกินไป ระบบควบคุมการทรงตัว หรือ ESC จะเริ่มทำงาน เพื่อช่วยให้เราไม่หลุดโค้ง ซึ่งก็ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่หลุดโค้งได้ง่าย ๆ เพราะมีระบบคอยช่วยเหลืออยู่ นอกจากนี้ยังมีระบบเตือนเมื่อขับออกนอกเลน แต่ระบบนี้จะมีแค่เสียงเตือนแต่ไม่ดึงพวงมาลัยกลับ ต่างจากคู่แข่งที่ดึงพวงมาลัยกลับเข้าเลนให้ด้วย
ต่อด้วยการทดสอบระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and Go (Full Speed Range Adaptive Cruise Control - ACC) โดยได้ตั้งความเร็วไว้ที่ประมาณ 80 กม./ชม. แล้วขับตามคันหน้าโดยที่เท้าไม่ได้แตะคันเร่งและเบรกเลย ปล่อยให้ระบบทำงานเอง โดยระบบจะใช้กล้อง ADAS ในการตรวจจับและปรับลดความเร็วของรถให้เท่ากับรถคันหน้า เพื่อรักษาระยะห่างอัตโนมัติทุกช่วงความเร็ว รวมถึงหยุดรถและออกตัวตามรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้ถือเป็นจุดขายของเจ้า มิวเอ็กซ์ ในโฉมนี้เลยก็ว่าได้
ในส่วนของระบบความปลอดภัยที่ให้มาก็ถือว่าครอบคลุมการใช้งานครับ เช่น ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า ซึ่งระบบนี้จะทำงานควบคู่กับ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และ ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรก หากเราขับใกล้ชิดกับคันหน้ามากเกินไประบบจะแจ้งเตือนด้วยเสียงและสัญญาณไฟสีแดงบนกระจก แต่ถ้าระบบคำนวณแล้วว่าสุ่มเสี่ยงต่อการชนจะทำการเบรกให้เองแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด โดยระบบจะตรวจจับน้ำหนักการกดคันเร่ง หากตรวจพบว่ากดคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ จะตัดกำลังของเครื่องยนต์ทันทีครับ
สรุปโดยรวม
MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection ในเรื่องของการขับขี่นั้น ไม่มีอะไรต่างจากรุ่นปกติเลย เพราะใช้เครื่องยนต์เดียวกัน เกียร์เดียวกัน ช่วงล่างเดียวกัน ต่างกันแค่โทนสี ซึ่งการใช้โทนสีดำเข้ามาแต่งทั้งภายนอกและภายใน ทำให้รถดูดุขึ้น มีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น และรถอีซูซุมิวเอ็กซ์ทุกรุ่นทั้งเครื่อง 1.9 และ 3.0 ไว้ใจได้ในเรื่องความอึด ถึก ทน ใช้งานได้ยาวนาน ซื้อง่ายขายคล่อง หน้าตาดูทันสมัย ราคาก็ถือว่าไม่แรงมากหากเทียบกับค่ายอื่น ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถครอบครัวในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย
สรุปอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง MU-X 3.0 4X2 Ultimate Phantom Collection
จากการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง MU-X 3.0 4X2 จะกินน้ำมันไม่ต่างจากรุ่น 3.0 4X4 ครับ
- วิ่งในเมืองรถติด กินน้ำมัน 9-10 กม./ล.
- วิ่งแบบรถติดสลับถนนโล่ง กินน้ำมัน 12 กม./ล.
- วิ่งออกต่างจังหวัดถนนโล่ง ๆ ใช้ความเร็ว 100-110 กม./ชม. กินน้ำมัน 14 กม./ล.
ราคา Isuzu MU-X 2023
- 4x2 1.9 Active A/T 1,154,000 บาท
- 4x2 1.9 Elegant A/T 1,379,000 บาท
- 4x2 3.0 Elegant A/T 1,424,000 บาท
- 4x2 1.9 Ultimate A/T ราคา 1,494,000 บาท
- 4x2 3.0 Ultimate A/T ราคา 1,539,000 บาท
- 4x4 3.0 Ultimate A/T ราคา 1,639,000 บาท
- 4x2 1.9 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,506,000 บาท (รุ่นพิเศษ)
- 4x2 3.0 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,551,000 บาท (รุ่นพิเศษ)
- 4x4 3.0 Ultimate Phantom Collection A/T ราคา 1,651,000 บาท (รุ่นพิเศษ)
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น