HONDA เป็นค่ายรถที่มีรถในกลุ่ม SUV หรือ crossover หลากหลายรุ่น มีตั้งแต่เล็กกลางไปจนถึงขนาดใหญ่
HONDA
เพื่อแสดงความเป็นผู้นำด้านรถ SUV ฮอนด้าจึงได้จัดกิจกรรม “Honda SUV V Drive All Lives” ในไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้ารวม 4 รุ่น ในหลากหลายเซกเมนต์ ได้แก่ ซีอาร์-วี ใหม่ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี บีอาร์-วี และ ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ในการทดสอบบนเส้นทาง จากกรุงเทพฯ สู่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ รวมระยะทางกว่า 840 กิโลเมตร
รถยนต์ทั้ง 4 รุ่นแบ่งเป็น 2 กลุ่มเครื่องยนต์ ไฮบริดและเบนซิน
HONDA CR-V (มีเครื่องยนต์ให้เลือก2แบบ)
e:HEV ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่มีประสิทธิภาพสูง ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดมอเตอร์สูงสุด 335 นิวตัน-เมตร ที่ 0 - 2,000 รอบต่อนาที มอบอัตราการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมสูงสุดถึง 20.8 กม./ลิตร*
1.5 Turbo เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร Direct Injection DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Direct Injection และ Turbocharger ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ มอบกำลังสูงสุด 190 แรงม้า
ที่ 6,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) และมีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุด 14.3 กม./ลิตร* (รุ่น E) และรองรับน้ำมัน E85
HONDA HR-V
e:HEV ที่ผสานการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC
i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบาและ
ขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบตเตอรี่โดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว มอบกำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 131 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,500 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน
ดีเยี่ยมถึง 25.6 กิโลเมตร/ลิตร
HONDA BR-V
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที
ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลัง มอบอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.1 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
HONDA WR-V
เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบสมรรถนะที่ดีเยี่ยม ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาทีและแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที ตอบสนองการขับขี่ได้อย่างคล่องตัว ทรงพลังแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยอัตราการประหยัดน้ำมัน 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
การทดสอบ
ในการทดสอบต้องบอกว่าไม่สามารถขับขี่ได้หมดทุกรุ่นดังนั้น ขาไปทีมงานได้รถในการขับขี่ขึ้นเขาเป็น ฮอนด้า บีอาร์-วี เอสยูวี 7 ที่นั่ง เพียงรุ่นเดียว จุดเด่นกับห้องโดยสารที่กว้างขวางและในการเดินทางครั้งนี้ได้มีเพื่อนร่วมทางอีก 2 สื่อรวมเป็น 3 คนในการเดินทาง เพื่อให้ได้ความรู้สึกทุกอย่างในการทดสอบทีมงานจึงได้นั่งแถวที่สองในการเดินทางเพื่อให้ได้สัมผัสทุกอย่างในการทดสอบ
จุดเด่นสำหรับ ฮอนด้า บีอาร์-วี เอสยูวี ภายในห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น มาพร้อมความอเนกประสงค์โดยเบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 สามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ แอร์หลังเพียงพอสำหรับเบาะแถวที่ 3 เพราะความเย็นสามารถส่งผ่านไปถึงทั่งทั้งคัน ในการเดินทางไกลตัวรถออกแบบให้ช่วงล่างมีความนุ่มนวลไม่กระด่างจนเกินไปทำให้นั่งได้สบายสามารถหลับได้
ในส่วนการขับขี่กับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ถือว่าทำงานได้ดีสามารถตามรถยนต์ในกลุ่มไฮบริดได้ไม่ห่าง แต่อาจจะเสียเปรียบตรงอัตราเร่งต่างๆในช่วงออกตัวหรือแซงต้องใช้แรงมากกว่าทำให้ส่งผลกับอัตราการกินน้ำมันแต่ก็ไม่ได้แย่เพราะสามารถทำอัตราการกินน้ำมันในการเดินทางไกลได้เฉลี่ย 13-14 km/L ถือเป็นตัวเลขที่ดีเพราะรวมการขับขี่ขึ้นเขา
แต่สำหรับการขับขี่ขึ้นเขากับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ขึ้นได้แต่ก็ไม่ได้สบายเท่ากลุ่มไฮบริดเพราะต้องออกแรงมากกว่าและในจังหวะช่วงเนินสูงมากอาจจะต้องทดเกียร์ช่วยให้เครื่องยนต์มีพละกำลัง แต่สำหรับช่วงล่างในการเดินทางขึ้นเขาไปตามโค้งต่างๆถือว่าผ่านมั่นใจได้อาการโคลงของตัวรถมีเล็กน้อยไม่ทำให้เวียนหัวแต่อย่างไรสำหรับคนนั่ง
สำหรับขากลับกับการทดสอบ HONDA CR-V RS ขับเคลื่อนสี่ล้อ ขุมพลัง e:HEV เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ สร้างแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร เรียกว่าแรงเหลือสำหรับการเดินทาง หลายคนที่เคยตั้งคำถามว่ารถแรงมีเอาไว้ทำไมถนนก็มีเท่านี้ แต่เมื่อเราใช้รถแรงๆพลังเหลืออย่าง ซีอาร์-วี ในการเดินทางไกลขึ้นลงเขาบอกได้เลยว่าสบายๆซึ่งต่างจาก ฮอนด้า บีอาร์-วี อย่างเห็นได้ชัดเจน ในเรื่องพละกำลังเป็นหลัก บีอาร์-วี ไปได้ไหมไปได้แต่ต้องใจเย็นเพราะแรงน้อย แต่สำหรับ ซีอาร์-วี เรียกว่า กดคันเร่งเบาๆรถก็ทะยานไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องลุ้น รถคันใหญ่ได้เปรียบในเรื่องความนิ่งในความเร็วสูง และสุดท้ายกับอัตราการประหยัดน้ำมัน อยู่ที่ 15-16 km/L แรงแถมประหยัดอีกนั้นก็คือคำตอบที่บอกว่ารถแรงมีเอาไว้ทำไม
มั่นใจในทุกเส้นทาง ด้วย Honda SENSING ที่ติดตั้งในรถเอสยูวีทุกรุ่นของฮอนด้า ยนตรกรรมเอสยูวีทุกรุ่น ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING* ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังก์ชันการทำงานหลัก ๆ ดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control) หรือ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ* (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF) (เฉพาะ เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี และ ซีอาร์-วี ใหม่)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) หรือ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ* (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะ ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่น e:HEV RS 4WD)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอื่น ๆ* ที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น อาทิ ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS) เซ็นเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold
ถุงลมสูงสุด 8 ตำแหน่ง นอกจากนี้ทุกรุ่น* ยังมาพร้อมระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) กล้องส่องภาพด้าน
สรุป
สำหรับการทดสอบรถในกลุ่ม SUV จากฮอนด้า นั้นแสดงให้เห็นว่าแต่ละรุ่นมีประสิทธิภาพแค่ไหนแต่ละคันแต่ละรุ่นย่อมมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน หลายคนชอบตั้งคำถามว่ารถเล็กจะเดินทางไกลได้ไหมขึ้นเขาได้ไหม บอกได้เลยว่าทุกคันขึ้นได้แต่สิ่งที่รถในกลุ่ม SUV จากฮอนด้า ความสูงของตัวรถนั้นเองทำให้สามารถวิ่งไปได้ในทุกๆที่แบบมั่นใจขึ้น รถเล็กอาจจะต้องใจเย็นไปเลยๆ แต่รุ่นใหญ่ไฮบริดจะสบายมากกว่าดั่งนั้นเราต้องเลือกรถจากกำลังพร้อมเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย ซึ่งฮอนด้ามีให้เลือกอย่างหลากหลาย
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ความคิดเห็น