Mercedes-Benz E-Class All-Terrain สเตชั่นแวกอนรุ่นใหม่มาถึงแล้ว!!

การกลับมาอีกครั้งกับรถยนต์สเตชั่นแวกอน Mercedes-Benz E-Class All-Terrain อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz  

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain สเตชั่นแวกอนรุ่นใหม่มาถึงแล้ว!!  

การเปิดตัวรถยนต์ซีดาน E-Class ใหม่ปี 2024 ก่อนหน้านี้มีแต่คนถามหารุ่นสเตชั่นแวกอน ว่าไม่ออกรุ่นใหม่มาบ้างหรือ วันนี้ไม่ต้องสงสัยกันอีกต่อไปแล้ว เพราะ Mercedes-Benz E-Class All-Terrain สเตชั่นแวกอนเจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดมาถึงแล้ว แต่ตอนนี้มาเฉพาะในรูปลักษณ์ "All-Terrain" เท่านั้น ส่วนในรุ่น AMG E63 ตัวแรงอาจจะออกตามมาในภายหลัง 

หากยังจำกันได้ Mercedes-Benz ได้ยุติการพัฒนาตัว E-Class Wagon เกรดปกติไปพร้อมกับเจเนอเรชั่นที่แล้ว โดยเลือกตัว E-Class All-Terrain แบบ SUV-ish มาแทนที่ เรียกได้ว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญมาก เพราะแฟนคลับ Wagon ของ Mercedes-Benz นั้นมีความจงรักภักดีเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนไม่มากนักก็ตาม ทาง Mercedes-Benz เองก็มองว่าหากอัพเกรดเป็น All-Terrain รถยนต์แบบเอสเตทที่หรูหราจะสามารถดึงดูดลูกค้ารายอื่นๆ ได้มากขึ้น และหากต้องการรถยนต์ที่สปอร์ตมากขึ้น ก็สามารถอัพเกรดเป็นในรุ่น AMG E63 ที่ทั้งแพงและเร็วกว่ามาก

การออกแบบภายนอก

ด้วยสัมผัสจากการมองแว้บแรกอาจคิดว่า Mercedes-Benz E-Class All-Terrain ดูคล้ายกับรถ SUV ที่บอบบางกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้จึงไปละม้ายคล้ายกับ Mercedes-Benz รุ่นเก่าในกลุ่ม E-Class ที่เคยเป็นกระแสโด่งดังมาตั้งแต่ปี 1978 แต่ในการออกแบบนั้นมีความหรูหรามากกว่าในรุ่นก่อนๆ ด้วยตัวถังที่ดูพริ้วไหว ยาวและปราดเปรียว เช่นเดียวกับในตัวซีดานทั่วไป กระจังหน้าดูกลมกลืนไปกับไฟหน้า พร้อมด้วยไฟท้ายที่ปรับรูปทรงใหม่เป็นรูปดาวสามแฉกสัญลักษณ์ของ Mercedes-Benz

มีระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นเล็กน้อย เพิ่มขึ้น 0.87 นิ้ว เป็น 116.6 นิ้ว ซึ่ง Mercedes-Benz กล่าวว่า E-Class All-Terrain จะมีเบาะหลังที่ใหญ่ขึ้น มีความยาวโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.9 นิ้ว ในขณะที่ตัวเครื่องกว้างขึ้น 1.1 นิ้ว แต่การเพิ่มขึ้นของตัวถังไม่เป็นปัญหาของการขับขี่ เพราะ E-Class All-Terrain มีความคล่องตัวมากกว่าในรุ่นซีดานมาตรฐาน เบาะนั่งแถวที่สองแยกพับ 40:20:40 ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว สามารถเก็บสัมภาระได้ 22 ลูกบาศก์ฟุตจนถึง 65 ลูกบาศก์ฟุตเมื่อพับเบาะ

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

ถ้ายังจำกันได้ E-Class All-Terrain ในรุ่นก่อนเบาะนั่งแถวที่สองสามารถหันหน้าไปทางเบาะนั่งด้านหลังได้ สำหรับในรุ่นใหม่นี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ ซึ่งหวังว่าในรุ่นใหม่จะมีเช่นเดียวกัน หลังจากเวอร์ชัน AMG ได้ยกเลิกออกไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน 

ก่อนหน้านี้จอแสดงผลทั้งสองจอจะอยู่รวมกันบนแผงหน้าปัด แต่ในรุ่นใหม่นี้ได้แยกชิ้นส่วนจอดิจิทัลระบบสัมผัสไว้บริเวณกลางคอนโซล สามารถเปิดใช้งาน 5G แบบเดียวกับในรุ่นซีดาน รวมถึงความสามารถในการโทรแบบ Zoom ในตัว รวมถึง TikTok การสตรีมวิดีโอ และปลดล็อกหรือสตาร์ทรถได้ผ่าน iPhone หรือ Apple Watch

เทคโนโลยีและระบบ Assistants

Mercedes-Benz E-Class All-Terrain มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลมสี่มุม ติดตั้งแดมเปอร์ที่สามารถปรับด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สปริงเหล่านี้สามารถลดความสูงได้ถึง 0.6 นิ้ว เมื่อต้องการทำความเร็วบนถนนทางตรง นอกจากนี้ยังมีระบบการขับขี่โหมด Odd-Road รวมถึงระบบ "Transparent Hood" ที่สามารถปรับฝากระโปรงโปร่งใส ซึ่งจะมีประโยชน์ในการมองเห็นเมื่อขับรถปีนขึ้นไปตามทางที่สูงชัน 

เครื่องยนต์ 6 สูบ ไฮบริด ขนาด 3.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า มาพร้อมกับแรงม้า 375 แรงม้า กับแรงบิด 369 ปอนด์ฟุตเท่ากับในรุ่น ซีดาน E450 ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4Matic  

ราคาค่าตัวของ Mercedes-Benz E-Class All-Terrain คาดการณ์ว่าอยู่ที่ประมาณ 90,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,150,000 บาท และแม้ว่ารถยนต์สเตชั่นแวกอนจะค่อยๆ ลดน้อยลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมี Customer Loyalty ที่ยังเพลิดเพลินกับความหรูหราและสะดวกสบายอยู่มากทีเดียว 

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com