หลังจากที่เปิดภาพให้ได้เห็นบางส่วนก่อนหน้านี้ ทั้งภายในและภายนอก Mini Cooper EV ก็เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน IAA Mobility Show ที่จะจัดขึ้นที่ Munich กับสองรุ่น ให้เลือก แบตเตอรี่ต่างกัน
Mini Cooper EV
สำหรับ Mini Cooper กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ แต่ทุกอย่างก็ยังคงรักษาเส้นสายในรูปแบบเดิมอยู่ มีการผสมผสานความเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน พร้อมกลิ่นอายระดับพรีเมียมที่มีมากกว่าเดิมด้วยรูปแบบรถไฟฟ้า เส้นที่โค้งมนไปตามตัวรถ พื้นผิวที่เป็นโลหะถูกทาด้วยสี มากกว่าส่วนเสริมพลาสติก ซุ้มล้อที่หายไปเปลี่ยนเป็นการดึงโป่งให้รับกับล้อ ทุกอย่างภายนอกดูสะอาดเรียบง่าย
กระจังหน้าไม่ได้แตกต่างจาก Cooper SE รุ่นเก่า มากนัก แต่ฝากระโปรงหน้าถูกออกแบบให้กว้างขึ้น พร้อมส่วนตรงฝาถูกยกตัวขึ้น ไฟหน้าดีไซน์เหมือนดวงตาและไฟท้ายรูปสามเหลี่ยมแบบใหม่เชื่อมต่อกันทั้งสองดวงพร้อมโลโก้ที่ชัดขึ้น หลังคาซันรูฟพาโนรามา ค่าสัมประสิทธิที่ 0.28Cd.
ภายใน
ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่หมดมีความทันสมัยมาพร้อมเทคโนโลยีสมัยใหม่ๆ แต่ก็ยังคังรักาษความคลาสสิกเอาไว้ เช่น หน้าจอสัมผัสส่วนกลางที่เป็นเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีรูปทรงเหมือนใน Mini รุ่นดั้งเดิมจากปี 1959
นอกเหนือจากตัวเลือกระบบส่งกำลัง 2 แบบแล้ว Cooper ใหม่ยังมาพร้อมกับตัวเลือกภายนอก 4 แบบ เริ่มที่ Essential Trim ที่มีเบาะนั่งแบบสปอร์ตสีดำ แถบผ้าเรียบง่ายบนแผงคอนโซลหน้าและขอบสีเงินทั้งภายในและภายนอก ซึ่งได้รับการออกแบบให้ตัดกันกับกระจังหน้าสีดำ ถัดไปคือ Classic Trim ซึ่งใช้ผ้าทูโทนสำหรับประตูและแผงคอนโซลหน้า พวงมาลัยแบบ 3 ก้านแทนที่จะเป็น 2 ก้านละเบาะหนังสังเคราะห์
Favorite Trim จะใช้ลวดลาย Houndstooth แบบทูโทนบนแผงคอนโซลหน้าและประตู พร้อมด้วยเบาะนั่งแบบสปอร์ต Vescin แบบเจาะรูและกระจังหน้าสีเงิน ในขณะที่รุ่นท็อป JCW จะเปลี่ยนสีเข้มขึ้น โดยมาพร้อมกับการเย็บสีแดงสำหรับเบาะนั่งแบบสปอร์ตหนังเทียมสีดำ กระจังหน้าสีดำเงาและกันชนหน้าและหลังที่ดูดุดันยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถเลือกเสริมด้วยหลังคาสีแดง Chili Red หรือแถบฝากระโปรงหน้าสีดำ
MINI Experience ได้แก่ โหมด Core, Green และ Go-Kart ซึ่งแต่ละโหมดมีการออกแบบส่วนต่อประสานกับผู้ใช้เฉพาะ มีให้เป็นโหมดมาตรฐาน โดยมีโหมดเพิ่มเติมสูงสุดสี่โหมดสำหรับอุปกรณ์เสริมโหมด MINI Experience อุปกรณ์เสริม MINI โปรเจคเตอร์ที่ด้านหลังของจอแสดงผล OLED จะทำให้แดชบอร์ดดูกลมกลืนกับโทนสี
ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 เป็นการพัฒนาภายในโดย BMW Group และอิงตามสแต็กซอฟต์แวร์ Android Open Source Project (AOSP) การทำงานเป็นไปตามสัญชาตญาณและเป็นไปตามมาตรฐานที่คุ้นเคยจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
สำหรับขุมพลัง Cooper มีให้เลือก 2 รูปแบบ
Cooper E
มอเตอร์เดี่ยวให้กำลัง 181 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.3 วินาที
แบตเตอรี่ขนาด 40.7kWh วิ่งได้ 305 กม./ชาร์จ WLTP
Cooper SE
มอเตอร์เดี่ยว ให้กำลัง 215 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที
แบตเตอรี่ขนาด 54.2kWh วิ่งได้ 402 กม./ชาร์จ WLTP
อัตราชาร์จ DC 10 – 80% ภายใน 30 นาที
รองรับชาร์จ AC 11kW
ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 7 โหมด โหมดหลัก 3 โหมด ได้แก่ Core, Green และ Go-Kart ที่จะปรับแต่งการตอบสนองของคันเร่ง เสียงสังเคราะห์และรูปลักษณ์ของจอแสดงผล ในขณะที่อีก 4 โหมด (Balance, Timeless, Personal และ Vivid) จะเจาะลึกลงไปในการปรับเปลี่ยนในแบบของคนขับ แม้กระทั่งการเพิ่มภาพของเจ้าของเองลงในจอแสดงผล
MINI Digital Key Plus ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ยังใช้สมาร์ทโฟนเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับประสบการณ์ยานพาหนะที่สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว ที่นี่สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นกุญแจทำให้สามารถเปิดรถได้โดยอัตโนมัติ การฉายภาพต้อนรับของไฟหน้าและไฟท้ายจะเริ่มขึ้นทันทีที่ผู้ขับขี่อยู่ห่างจากตัวรถในระยะสามเมตร ประตูจะปลดล็อคเมื่อคนขับอยู่ห่างจากรถน้อยกว่าหนึ่งเมตรครึ่ง กุญแจดิจิทัลสามารถถ่ายโอนไปยังผู้ใช้รายอื่นได้
แอพ MINI ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ด้วยตัวเลือก Remote 360 คุณสามารถดูสภาพแวดล้อมโดยรอบของรถที่จอดอยู่ในแอป MINI กล้องที่อยู่ด้านในช่วยให้มองเห็นภาพภายในได้ นอกจากนี้ ฟังก์ชันสแนปชอตยังมอบโอกาสในการบันทึกช่วงเวลาที่มีการแบ่งปันไว้ในรูปถ่ายและอัปโหลดผ่าน WiFi-Direct ไปยังสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น