เจอกันอีกครั้งสำหรับ ไปไหนก็ไป by AutoSpinn สัปดาห์นี้เลดี้มีอีกหนึ่งคาเฟ่ที่อยากไปซึ่งก็คือ Gooseberry Coffee และวันนี้พระเอกในเรื่องของเราก็คือ Yamaha Grand Filano Hybrid หนึ่งในแบรด์รถจักรยานยนต์ออโตเมติกแฟชั่นพรีเมียมที่ครองใจผู้ใช้ทั่วประเทศมาร่วม 10 ปี
ไปไหนก็ไป (by AutoSpinn) : Gooseberry Coffee & Yamaha Grand Filano Hybrid
Gooseberry Coffee คาเฟ่ใหม่สไตล์ Modern ที่ตกแต่งด้วยโทนสี Black & White มีดีไซน์สุดเท่ ซึ่งที่จริงแล้วเค้ามีหลายสาขา ได้แก่ สาขาปากน้ำ สาขาพระราม 9 และสาขาที่ ไปไหนก็ไป จะเดินทางไปวันนี้ก็คือ ลาซาล-แบริ่ง ด้วยความที่เป็นร้านอยู่ในเมือง เลดี้เลยอยากได้ความคล่องตัว หลีกหนีจากความว้าวุ่นบนถนนในกรุงเทพฯ เลยขอเลือกรถมอเตอร์ไซค์ Yamaha Grand Filano Hybrid สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ค่ะ
Yamaha Grand Filano Hybrid
มาชมดีไซน์รอบคันกันซักหน่อย สำหรับ Yamaha Grand Filano Hybrid ที่มีความโดดเด่นด้วยเส้นสายรอบคัน มาพร้อมกับไฟแบบ FULL LED รอบคัน ทำให้ดูหรูหรามีระดับและที่สำคัญเพิ่มความสว่างเด่นชัดในทุกมุมมอง ช่วยให้ขับขี่ได้อย่างปลอดภัยทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ในส่วนของเรือนไมล์เป็นแบบดิจิทัลพร้อมจอสี TFT บอกข้อมูลการขับขี่พื้นฐานครบครัน พร้อมบอกสถานะการทำงานของระบบไฮบริด ซึ่งผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในทุกจังหวะการขับขี่ มีช่องต่อไฟแบบ 12V สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มือถือ พร้อมช่องใส่ของด้านหน้าขนาดใหญ่
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ GRAND BOX สามารถจุของได้ถึง 27 ลิตร เก็บหมวกกันน็อกได้ 2 ใบ ภายในมีไฟ LED ส่องสว่าง หมดปัญหาเวลาหาของในช่วงกลางคืนแสงน้อยไปได้เลย ความสะดวกสบายยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมี SMART & EASY REFUEL ช่องเติมน้ำมันด้านหน้า ช่วยให้สะดวกสบายไม่ต้องลงจากรถ มาพร้อมกับปุ่มกดเปิดฝาอัตโนมัติ ใช้ง่ายเพียงปุ่มเดียวไม่ยุ่งยากหลายขั้นตอน
Yamaha Grand Filano Hybrid ใช้เครื่องยนต์บลูคอร์ไฮบริดขนาด 125 ซีซี ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ได้ดีในทุกจังหวะการบิดคันเร่ง โดยยังให้ความประหยัดน้ำมันสูงถึงประมาณ 62.5 กม.ต่อลิตร ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่นุ่มนวล ออกตัวได้รวดเร็วด้วย SMART MOTOR GENERATOR สตาร์ทง่ายด้วยระบบ ONE PUSH START ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ รวดเร็วกว่า ไร้เสียงมอเตอร์รบกวน อีกทั้งยังมาพร้อมระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ STOP & START SYSTEM ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถเปิดปิดได้ตามความต้องการ
มีเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วยระบบเบรก UBS ระบบกระจายแรงเบรกอัตโนมัติ ช่วยให้ระยะเบรกสั้นลง (เฉพาะรุ่น Standard) อัพเกรดความพรีเมี่ยมขึ้นอีกระดับสำหรับรุ่น ABS ด้วยกุญแจรีโมทอัจฉริยะ SMART KEY SYSTEM สะดวกกว่าด้วยสวิตช์เปิด-ปิด แบบ Multi Functions ทั้งปลดล็อกสวิตช์สตาร์ท ดับเครื่องยนต์ / ปลดล็อกแฮนด์ / ปลดล็อกเบาะ / ปลดล็อกฝาถังน้ำมัน โดยให้ความปลอดภัยมากขึ้นด้วยระบบเบรก ABS ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันเบรกหน้าอัตโนมัติ ช่วยลดโอกาสในการเกิดล้อล็อกกรณีเบรกกะทันหัน
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมของ Yamaha Grand Filano Hybrid ได้ที่นี่ และสามารถชมคลิป VDO สั้นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Tiktok : Autospinn เช่นเดียวกันค่ะ
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้เราใช้เส้นทางจากสุขุมวิท ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงซอยแบริ่ง เลี้ยวซ้ายเข้ามาในซอยประมาณ 500 เมตร หลังจากนั้นเลี้ยวซ้ายไปยังถนน ลาซาล-แบริ่ง ก็จะเจอร้าน Gooseberry Coffee อยู่ทางฝั่งขวามือ กลับรถอีกทีก็จะถึงเลย หากใครที่สะดวกเดินทางมายังร้านด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก็จะมีที่จอดให้ซอยข้างๆ สามารถจอดได้ประมาณ 10 คัน หรือหากใครสะดวกใช้รถโดยสารประจำทาง ก็สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีแบริ่ง และต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้ามายังร้านได้เช่นกัน
Gooseberry Coffee (ลาซาล-แบริ่ง)
"ร้านกาแฟมีเยอะแยะ แต่ร้านที่กาแฟดีๆ โดนๆ ต้องหาที่ไหน?" ช่วงนี้กำลังอินเลิฟกับการชิมรสชาติของกาแฟที่หลากหลาย และหนึ่งในลิสต์ของเลดี้ก็มี Gooseberry Coffee อยู่ด้วย ซึ่งนอกจากจะมีเมนูเครื่องดื่มที่หลากหลายเมนู รวมถึงเบเกอรี่ให้ทานควบคู่กันแล้ว ยังมีการดีไซน์ตกแต่งร้านได้สะดุดตาและก็เท่มากอีกด้วย ที่สำคัญที่นี่เค้าอนุญาตให้ทาสหมาทาสแมว พาเด็กๆ มานั่งเล่นที่ร้านได้ด้วย โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องติดสายลากจูงน้องๆ ด้วยนาจา
ว่าด้วยเรื่องของการออกแบบ ที่เห็นร้านแนวๆ แบบนี้ก็เพราะว่าเจ้าของร้านเค้าเป็นสถาปนิกหนุ่มผู้หลงรักการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โดยเริ่มจากการเปิดสาขาแรกซึ่งได้รับการตอบรับดีมากๆ จากคอกาแฟเดียวกัน จนขยายสาขาเพิ่มอีกหนึ่งที่นั่นก็คือสาขาลาซาล-แบริ่งนั้นเอง
ภายนอกอาคารจะเป็นการออกแบบสไตล์มินิมอล เป็นรูปแบบการออกแบบที่เฉพาะตัวจากทีมสถาปนิกมืออาชีพอย่าง Gooseberry Design ที่มีกิมมิกที่แปลกตา ในส่วนของตัวอาคารดูคล้ายกับบันไดตัดสลับกัน 2 ฝั่ง แต่หากถอยหลังออกมานิดนึงจะดูเหมือนกับเป็นหุบเขา ที่มีร้านกาแฟลับๆ ซ่อนอยู่ภายในหุบเขา ซึ่งสีที่ใช้จะเป็นโทนสี Black & White ทั้งภายในและภายนอก โดยที่ภายในจะมีการใช้ Graphic Elements และ Typography เพื่อบ่งบอก Concept และ Brand Identity ของทางร้าน ภายใต้ Vision 3 อย่างซึ่งก็คือ Quality, Design และ Passion ออกมาในรูปแบบของ Tagline หรือคำคม ประดับโดยรอบทั่วอาคาร สร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แน่นอนว่าไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร รวมถึงการใช้วัสดีที่มี Texture ที่แตกต่างกันประกอบกับการลงในดีเทลทุกๆ พื้นที่อย่างละเอียดและใส่ใจ ซ่อนเส้นสาย Lighting ไว้ยังบริเวณเพดานและพนังได้อย่างแยบยล
มาถึงเรื่องสำคัญของเราก็คือ การชิมเครื่องดื่มและเบเกอรี่ที่เป็น Signature Manu ของทางร้านที่บอกก่อนเลยว่าแค่เห็นหน้าตาก็น่าทานแล้ว เริ่มต้นกันที่
Goose berry coffee : กาแฟคั่วกลาง ซึ่งเป็น Signature House-Blended ของทางร้านเอง กาแฟผสม Red Berry สีแดงทั้งหมด หลากหลายชนิดจากต่างประเทศ เพิ่ม Tonic ลงไปด้วย จะมีความคล้ายๆ กับ Mocktail เป็นกาแฟ Fusion ที่ตอบโจทย์เรื่องความสดชื่น On Top มากับมะยมเชื่อมทานเล่นๆ ซึ่งทางร้านทำเองและการันตีว่าอร่อยมาก ต้องลอง
ES-Bomb : ต่อเนื่องด้วยคอกาแฟที่ไม่ชอบดื่มกาแฟดำ จะเป็นเมนูที่คล้ายๆ กับ Espresso เย็นที่ปรับความนัว ความมัน และจัดจ้านด้วยความเข้มข้นแบบนุ่มละมุนลิ้น
Japan wonder : เป็นเครื่องดื่มแบบ Non-Coffee โดยมิกซ์ระหว่างส้มยุสุผสม Tonic และ On Top ด้วย Matcha Late' ที่มีรสสัมผัสที่หอมหวานจากกลิ่นส้ม ดอกไม้ ผสมกับความเปรี่ยวจาก Lemon จึงมีรสชาติที่อมเปรี้ยวอมหวาน ดื่มแล้วชื่นใจสุดๆ
Columbia road valley : เป็นกาแฟ Filter แบบ Single Origin จาก Columbia ซึ่งผ่านกระบวนการการผลิต โดยเมล็ดที่หมักด้วยวิถีธรรมชาติ แบบ Double Anaerobic กลายเป็นกาแฟที่มีกลิ่นหอมของดอกกุหลาบ พีช และลิ้นจี่ ผสมสานกันอย่างลงตัวกับกลิ่นของวานิลลา บอกเลยว่าใครที่ไม่ชอบการแฟที่มีรสชาติติดเปรี้ยวเหมือนกับเลดี้ จะต้องชอบเมนูนี้มากๆ
ปิดท้ายด้วย Almond Croissant : เป็นครัวซองต์อัลมอนด์อบเนย ที่ Topping ด้วยน้ำตาล icing สัมผัสแรกบอกเลยว่ากรอบนอกนุ่มใน มีเมล็ดอัลมอนด์โรยหน้า ที่หอมกรุ่นจากเตาฟินเฟอร์มากกก
Gooseberry Coffee ถือเป็นอีกหนึ่งร้านที่ตอบโจทย์สาวก Specialty Coffee ที่สามารถรีเควสจากบาริสต้าได้ว่าชื่นชอบการดื่มกาแฟแบบไหน ซึ่งเขาจะจัดให้แบบที่คุณต้องการภายใต้คอนเซ็ปต์ Architectural Design Process For Coffee ที่มีความรู้เรื่องกาแฟของแทร๊ ในราคาที่จับต้องได้สบายกระเป๋า เริ่มต้นเพียง 80 บาทเท่านั้น หากใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ ขอแนะนำให้มาลองที่นี่ เป็นอีกหนึ่งที่ที่เลดี้ชอบมากๆ เลยค่ะ
-
พิกัด : Google Map
-
ที่อยู่ : ถนนแบริ่ง-ลาซาล แขวงบางนาใต้ เขตบางนา
-
เปิดบริการ : จ-ศ 7.00-19.00 น. / ส-อา 8.00-19.00 น.
-
โทร : ที่จอดรถ : มี
-
เว็บไซต์ : Gooseberry Coffee
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น