So good, So Nice ต้อง So Story @ Kingkaew คาเฟ่เปิดใหม่สไตล์นอร์ดิก ฟีลดีสุดๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่เขาใหญ่ บ่ายจิบกาแฟ เย็นดินเนอร์ ครบจบในที่เดียว ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมตัวออกเดินทางได้....
เลดี้โก (Lady go) พาไปชิมคาเฟ่เปิดใหม่สไตล์นอร์ดิกใจกลางกิ่งแก้ว @ So Story ด้วย Vespa Primavera และ Vespa Sprint
สำหรับ Episode นี้ เลดี้โก ก็ยังคงเอาใจแฟน Vespisti กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราได้เลือกมาให้ชมโฉมถึง 2 รุ่นด้วยกัน คือ Vespa Primavera S150 i-Get ABS TOURING และ Vespa Sprint S150 i-Get ABS พร้อมซิ่งไปชิมคาเฟ่สุดชิคย่านกิ่งแก้ว @ So Story ที่ต้องบอกเลยว่า Theme ของร้านนั้นเข้ากันกับเจ้า Vespa ทั้ง 2 รุ่นได้อย่างดีเลยทีเดียว ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับสีสันสดใสมีชีวิตชีวาในแบบ Modern Classic พร้อมแล้วที่จะออกไปสร้างเรื่องราวบทใหม่ในทุกเส้นทาง
So Story @ Kingkaew
ออกเดินทางมายังร้าน So Story @ Kingkaew ด้วยเส้นทางบางนาตราด การเดินทางง่ายสะดวกสุดๆ แถมมีที่จอดรถให้กว้างขวาง หรือหากใครที่สะดวกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ก็สามารถนั่ง Airport Rail Link มาลงสถานีลาดกระบัง และนั่งสองแถวต่อเข้ามาหน่อย ลงหน้าปากซอยกิ่งแก้ว 17 ก็ได้เช่นเดียวกัน
พอเข้ามาก็จะเจอกับสถาปัตยกรรมแบบนอร์ดิก (Nordic) สไตล์ยุโรปตอนเหนือแถบสแกนดิเนเวีย เลดี้มองว่าคล้ายบ้านนะ เพราะว่ามันมีความโฮมมี่ดูอบอุ่น Feel Like Home ด้านหน้ามีสนามหญ้าพร้อมกับซุ้มแคมปิ้งให้ถ่ายรูปเล่นได้เก๋ๆ สามารถเดินเล่นได้รอบๆ บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุมจริงๆ
เดินเข้ามาภายในร้านมีพื้นที่กว้างขวาง โปร่งสบายด้วยเพดานสูงเหมาะแก่การนั่งชิลเป็นที่สุด ซึ่งที่นี่เค้าเป็น Pet Friendly Cafe คุณสามารถพาน้องหมาน้องแมวเข้ามานั่งเล่นด้วยได้ แต่ขอให้มีสายจูงหรือรถเข็นเพื่อป้องกันน้องๆ Panic และหากใครต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถใช้บริการโซนชั้นสองได้เช่นกัน ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มาเป็นกรุ๊ปใหญ่ๆ นอกจากนี้ยังมีระเบียง Outdoor มุมมหาชน ที่พอแดดร่มลมตกบอกเลยว่าถ่ายรูปสวยมากๆ
บ่ายจิบกาแฟ เย็นดินเนอร์ ครบจบในที่เดียว
ในส่วนของคอกาแฟที่นี่เค้ามีให้ทั้ง Speed Bar และ Slow Bar ซึ่งสามารถเลือกเมล็ดกาแฟได้แบบตามใจฉัน มีทั้งแบบนำเข้าและ House Blend ซึ่งหลักๆ จะมีทั้งหมด 8 ชนิด ที่เหลือจะสลับสับเปลี่ยนไปตาม Seasoning โดยส่วนใหญ่จะใช้เป็นคั่ว กลาง-เข้ม และ อ่อน นอกจากนี้ยังมี Homemade Bakery ให้เลือกทานอีกหลายเมนู ซึ่ง Signature ของเค้าก็คือ Basque Cheese Cake หรือ ชีสหน้าไหม้ และ Strawberry Honey Pie ที่มาร้านนี้แล้วบอกเลยว่าพลาดไม่ได้
วันนี้เลดี้และทีมได้ชิม 4 เครื่องดื่ม Signature ของทางร้าน เริ่มต้นกันที่ "Grape Dark" ซึ่งส่วนผสมที่ใช้เป็นองุ่นแท้ Kyoho (เคียวโฮะ) องุ่นยอดนิยมจากประเทศญี่ปุ่น ผสมเมล็ดกาแฟ Colombia และโซดา เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ตามด้วยเมนูที่ขาดไม่ได้ไปร้านไหนต้องรีเควส "Sweet Latte Art" ซึ่งกาแฟของทางร้านจะใช้เมล็ดคั่วกลางค่อนเข้ม Taste Note จะมีกลิ่นวนิลา คาราเมล และมี Choco ปลายลิ้นนิดๆ ต่อมาเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เลดี้ชอบมาก "น้ำตาล So" ความพิเศษของเมนูนี้คือเค้าใช้น้ำตาลสดจากนครสวรรค์ ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างออกไป ทำให้รสชาติของน้ำตาลสดหอมหวานกว่าที่อื่น อีกทั้งยังมีกิมมิคของกลิ่นควันที่เข้ากันได้ดีกับส่วนผสมของนม กาแฟ และฟองนมโกโก้ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ปิดท้ายด้วยเมนูสำหรับคอ "กาแฟดริป" ซึ่งจะใช้เมล็ดกาแฟแบบ Single Origin มีให้เลือกทั้งคั่วกลางและคั่วอ่อน Taste Note จะได้รสชาติแบบวิสกี้และรัม
ไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือในส่วนของ Restaurant ที่จะเปิดให้บริการในช่วงเย็น เลดี้บอกแล้วว่าที่นี่เค้า One Stop Service จริงๆ ซึ่งฟีลลิ่งของบรรยากาศยามเย็นที่ So Story ก็โรแมนติกสุดๆ มีดนตรีสดรวมถึงเครื่องดื่มมากมาย เหมาะแก่การพาแฟนมาดินเนอร์ หรือจะมาเป็นครอบครัวก็อบอุ่นไม่แพ้กัน
เมนูอาหารของที่นี่มีทั้งไทย ยุโรป และฟิวชั่น คอนเซ็ปต์ทานง่ายได้ทุกเพศทุกวัย ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าเจ้าของร้านที่นี่เค้าเป็นเชฟมาก่อน ดังนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ารสชาติจะเลิศขนาดไหน เมนูแรกเสิร์ฟด้วยออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อย "Pizza Truffle Half Seafood" เป็นพิซซ่าสไตล์นโปเลียน ซึ่ง Texture ของตัวแป้งจะมีความนุ่มหนึบๆ ต่อด้วยเมนู "Fettuccine Truffle Sauce PICANHA" สเต็กเนื้อพิคานย่า เนื้อส่วนของสะโพกสุดฮิตที่ชาวบราซิลนิยมมากที่สุด เพราะมีรสชาติอร่อยกลิ่นหอมมาก และมีเพียงสองชิ้นต่อวัวหนึ่งตัวเท่านั้น ทานคู่กับ Fettuccine พาสต้าเส้นแบนราดด้วย Truffle Sauce เข้ากันดีสุดๆ ต่อด้วยอาหารไทยยอดนิยมอย่าง "ข้าวไข่ข้นหมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ" เมนูที่หลายคนชื่นชอบ ความเด็ดของที่นี่ก็คือหมูสามชั้นชิ้นใหญ่ยั่วๆ เลยจ้า และปิดท้ายด้วยเมนูตัดเลี่ยนอย่าง "ยำเนื้อสันนอก" ซึ่งจะใช้เนื้อวากิวนำมายำแบบสไตล์ไทยๆ
So Story @ Kingkaew ยังมีบริการให้เช่าสถานที่สำหรับจัดเลี้ยงต่างๆ อาทิ Wedding Ceremony, Grand Opening, งานสัมมนาต่างๆ รวมถึงจัด Group Meeting ก็ได้เช่นเดียวกัน เพราะสามารถจอดรถได้ถึง 50 คัน และรองรับแขกได้ประมาณ 100-200 คน (แบบ Cocktail) หากใครที่ยังไม่เคยเช็คอินที่นี่ สามารถไปสัมผัสเทสดีๆ บรรยากาศอบอุ่น พร้อมชิมอาหารอันเลิศรส ครบจบในที่เดียว สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์โทร 098-137-0027
-
พิกัด : Google Map
-
ที่อยู่ : 11/12 หมู่ 12 ถนนกิ่งแก้ว ซอย 17 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
-
เปิดบริการ : Zone Cafe 7:00 - 17:00 น. Zone Restaurant 17:00 - 22:00 น.
-
โทร : 098-137-0027
-
ที่จอดรถ : มี
-
เว็บไซต์ : So Story @ Kingkaew
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น