“รถยางรั่ว” เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถทุกท่านไม่อยากให้เกิดขึ้นในขณะเดินทาง ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเส้นทางที่เรากำลังขับรถผ่านอยู่นั้นจะมีตะปู เศษไม้ เศษเหล็ก ร่วงหล่นอยู่กลางถนนหรือเปล่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีคือตอนที่รถเหยียบตะปูจนยางรั่วไปแล้ว
แต่ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีในการผลิตยางรถยนต์ที่ก้าวหน้า ที่มีชื่อว่า Seal Inside จาก Pirelli ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบาย และปลอดภัย เมื่อขับรถเหยียบตะปู ยางจะไม่รั่ว สามารถขับรถต่อไปได้โดยไม่ต้องนำรถไปปะยาง ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Seal Inside จาก Pirelli กันครับ ว่ามีจุดเด่น และต่างจากยางแบบทั่วไปที่เราใช้งานกันอย่างไร
รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
ยางที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันนั้น หลัก ๆ แล้ว จะมีอยู่ 2 แบบ คือ ยางเรเดียล ,ยางรันแฟลต
ยางเรเดียล นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน โครงสร้างของยางเป็นชั้นผ้าใบที่พันรอบยางอีกที โดยที่ใต้ดอกยาง ยังมีการเสริมความแข็งแกร่งด้วยแถบใยเหล็ก โครงสร้างแก้มยางจะอ่อน มีความยืดหยุ่นมากกว่ายางแบบรันแฟลต เมื่อขับผ่านทางขรุขระจะให้ความรู้สึกนุ่ม แต่ข้อเสียของยางประเภทนี้คือ เมื่อขับเหยียบของมีคม เช่นตะปู ลมยางจะรั่ว และด้วยโครงสร้างแก้มยางที่อ่อน เมื่อเจอน้ำหนักตัวรถกดทับ จะทำให้ยางแบนอย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถขับต่อไปได้
ยางรันแฟลต เป็นยางที่มีการออกแบบด้วยเทคโนโลยีพิเศษที่ช่วยลดความเสียหายจากการแตกหรือระเบิด ออกแบบให้มีโครงสร้างแก้มยางที่แข็งกว่ายางแบบเรเดียล โดยแก้มยางจะรับน้ำหนักทั้งหมดของตัวรถไม่ให้กดทับ ข้อดีก็คือ เมื่อขับรถเหยียบตะปูจนยางรั่ว เราจะยังสามารถขับรถต่อไปได้แม้ไร้ลมยาง เป็นระยะทางประมาณ 80 กิโลเมตร เพื่อไปหาร้านปะยางที่อยู่ใกล้ ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องจบด้วยการปะยางอยู่ดี อีกทั้งยางประเภทนี้จะมีความกระด้างมากกว่ายางเรเดียล และมีราคาแพง
ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี Seal Inside จาก Pirelli
ยาง Seal Inside ได้รับการพัฒนามาจากข้อเรียกร้องของ Volkswagen ในปี 2008 เพื่อใช้เป็นยางติดรถยนต์ของ Volkswagen รุ่น Scirocco ที่เปิดตัวในปี 2010 โดยทาง Volkswagen ต้องการยางรถยนต์ที่มีความล้ำสมัยเหมาะสมกับรถ และมีประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยสูงสุด
โดยยาง Seal Inside จาก Pirelli นั้น ที่หน้ายางด้านในจะเป็นเจลน้ำยา เมื่อขับรถเหยียบตะปู หรือโดนของมีคม แทงที่หน้ายาง ตัวเจลน้ำยาจะไหลไปอุดรอยรั่ว โดยที่เราไม่ต้องนำรถไปปะยาง มีคุณสมบัติทนความร้อน และไม่เปลี่ยนสภาพขณะใช้งาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเท่ากับอายุของยาง (ประมาณ 5 ปี)
การทำงานของเทคโนโลยี Seal Inside
- กรณีที่ 1 สิ่งแปลกปลอมยังคงอยู่ในยาง เมื่อมีวัตถุใด ๆ ก็ตามแทงทะลุเข้ามาในยางรถยนต์ และเกิดรอยแผลไม่เกิน 6 มิลลิเมตร เจลน้ำยาที่อยู่ภายในยางจะไหลมาอุดรอยรั่ว โดยเชื่อมสิ่งแปลกปลอมดังกล่าวเข้ากับยางรถยนต์เลย
- กรณีที่ 2 สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาแล้ว กรณีที่สิ่งแปลกปลอมหลุดออกมาจากยางรถยนต์แล้ว ทั้งกรณีช่างดึงออกให้ หรือวัตถุหลุดออกมาเองขณะขับขี่ หากรอยแผลบนยางมีขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่เกิน 6 มิลลิเมตร เจลน้ำยาในตัวยางจะออกมาเคลือบปิดรอยรั่วเอาไว้
เทคโนโลยี Seal Inside มีในยาง Pirelli รุ่นใดบ้าง ?
- Scorpion Verde
- Scorpion
- P ZERO PZ4
- Cinturato P7
ใช้ได้กับกระทะล้อทั่วไป มีขนาดตั้งแต่ขอบ 16 - 22 นิ้ว (เหมาะกับรถญี่ปุ่น และรถทั่วไป)
ในบทความนี้ เราจะทดสอบโดยรถยนต์ Toyota Camry และยางที่ใช้คือ Pirelli Cinturato P7 Seal Inside โดยจะขับเหยียบตะปู รวมถึงใช้สว่านไขควงเจาะทะลุยาง จากนั้นจะนำรถไปขับขี่บนถนนจริง แล้วกลับมาวัดแรงดันลมยางให้รู้กันไปเลยว่ายางรั่วหรือไม่
ทดสอบแรก ขับเหยียบตะปู 5 ตัวพร้อมกัน
ช่วงที่ขับเหยียบ จะได้ยินเสียงลมรั่วออกเล็กน้อย แต่หลังจากที่ตะปูหลุดออก เจลสีดำจะไหลมาปิดรอยรั่ว ทดสอบโดยการใช้น้ำฉีดไปที่รอยตะปู ไม่พบรอยรั่วแต่อย่างใด ด้วยความคาใจ เลยขอขับเหยียบแบบนี้อีก 4 รอบ เท่ากับว่ายางเส้นนี้ โดนตะปูตำไม่ต่ำกว่า 20 แผล
ทดสอบที่สอง ใช้สว่านไขควง เจาะทะลุยาง
การทดสอบแรกบางท่านอาจจะคิดว่าตอนที่ขับรถเหยียบ ตะปูอาจจะล้ม หรือขับเหยียบปลอม ๆ เพื่อสร้างภาพ งั้นเรามาดูทดสอบนี้กันครับ ตะปูยาวไม่น่าจะต่ำกว่า 3 นิ้ว ผมใช้สว่านเจาะไปที่หน้ายางจนมิดด้าม ช่วงที่ดึงออกไม่มีเสียงลมรั่วเลยครับ จากนั้นได้ลองเจาะซ้ำไปที่รูเดิมอีก 2 ครั้ง ก็ยังไม่มีลมรั่วออกมา ซึ่งในชีวิตจริงผมเชื่อว่าคงไม่มีใครซวยขับเหยียบตะปูขนาดนี้แน่นอน
ทดสอบที่ 3 เอารถออกไปขับ 2 ชั่วโมง แล้วกลับมาวัดแรงดันลมยาง
หลังจากที่เราเอาตะปูแทงยาง Pirelli Cinturato P7 Seal Inside จนพรุนมากกว่า 20 แผล ก่อนจะเอาออกไปขับ ผมวัดแรงดันลมยางได้ 34.5 PSI จากนั้นเอาไปขับเล่นประมาณ 2 ชั่วโมง มีบางช่วงใช้ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. จากนั้นเอารถกลับมาจอดที่เดิม รอจนอุณหภูมิยางเย็นอีกประมาณ 1 ชม. แล้ววัดแรงดันลมยางอีกครั้ง ปรากฎว่า วัดได้ 34.5 เท่าเดิม
นอกจากเทคโนโลยี Seal Inside ที่สามารถปะรูรั่วได้เองแล้ว Pirelli Cinturato P7 ยังมาพร้อมกับการออกแบบและใช้เทคโนโลยีระดับสูง พัฒนาลายยางเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม สัมผัสกับพื้ผิวได้อย่างเต็มสมรรถนะ รวมถึงมีการออกแบบหน้ายางแบบไม่สมมาตร ทำให้สามารถปรับหน้ายางนอกในให้เข้ากับลักษณะการเคลื่อนไหว ให้การควบคุมที่แม่นยำ ใช้วัสดุเกรดสูงเนื้อยางทนทานต่อการสึกหรอจากการใช้งาน
นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี Polyurethane ที่ถูกคิดค้นและเพิ่มเข้าไปใน Pirelli Cinturato P7 ลดเสียงรบกวนด้วยผนังกั้นเสียงที่ทำจากฟองน้ำ Polyurethane ซึ่งทำให้เกิดการดูดซับการสั่นสะเทือนจากการขับขี่ จนสามารถลดเสียงรบกวนได้
สรุปโดยรวม ยาง Pirelli Cinturato P7 Seal Inside เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ในหลายด้าน ได้ทั้งการยึดเกาะถนนที่ดีทั้งทางแห้งและทางเปียก ลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ เป็นยางที่ใช้แล้วปลอดภัย ขับเหยียบตะปูแล้วยังสามารถไปต่อได้โดยไม่ต้องปะยาง เหมาะสำหรับคนที่ต้องเดินทางตอนกลางคืนเป็นประจำ ไม่ต้องเสียเวลาหาร้านปะยาง โดยเฉพาะสาว ๆ ที่อาจเสี่ยงต่อการเจอมิจฉาชีพข้างทาง หรืออุบัติเหตุซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นตอนจอดยางแบนข้างทาง
สำหรับท่านใดที่สนใจ ตอนนี้ Pirelli by ATV กำลังจัดโปรโมชั่นเลยครับ
- เมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น ลงทะเบียนรับฟรี การรับประกันบาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม.
- ผ่อนยาง 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ)
ช่องทางการจัดจำหน่าย
- ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ค้นหาตัวแทนใกล้บ้านท่านได้ที่ Facebook : Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- B-Quik และ MMS ทุกสาขา
- Shopee และ Lazada เพียงค้นหาคำว่า Pirelli Official Store
ช่องทางติดต่อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook Page: Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- Line OA : @Pirelli.thailand
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น