หากคุณรักการผจญภัย ชอบการขับขี่แบบลุย ๆ การเลือกใช้ยางให้เหมาะสมกับสภาพถนนถือเป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะการขับขี่แบบออฟโรดจะต้องเจอกับถนนที่ขรุขระ ลุยน้ำ ลุยโคลน ปีนโขดหิน หากเลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะที่ไม่ดีมากเพียงพอก็จะไม่สามารถผ่านเส้นทางเหล่านี้ไปได้ และด้วยความที่รถของเราต้องใช้งานในชีวิตประจำวันบนเส้นทางแบบออนโรดด้วย ดังนั้นยางที่เลือกใช้จะต้องตอบโจทย์การขับขี่ได้สองรูปแบบ
รับชมรีวิวรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
ซึ่งการพิจารณาเลือกใช้ยางแบบออฟโรดก็มีด้วยกันหลายปัจจัย หากคุณเน้นใช้งานในป่า เขา ไร่สวน หรือเส้นทางแบบออฟโรดเป็นหลัก ยางที่เหมาะกับรถคุณก็คือยางแบบ MT (Mud Terrain) ซึ่งยางประเภทนี้จะมีดอกยางเป็นบั้งใหญ่ ร่องดอกยางลึก มีคุณสมบัติในการตะกุยที่มากกว่า แต่ถ้าเอายางประเภทนี้มาวิ่งในเส้นทางแบบออนโรด คุณสมบัติในการยึดเกาะถนน และการควบคุมรถจะลดน้อยลง และมีเสียงดังที่มากกว่า
แต่ก็ยังมียางอีกหนึ่งประเภท ที่สามารถใช้งานได้ทั้งชีวิตประจำวันแบบออนโรด รวมไปถึงการขับขี่แบบออฟโรด ก็คือยางแบบ AT (All Terrain) ยาง AT ให้การยึดเกาะถนนที่ดีบนถนนคอนกรีตและลาดยาง ทั้งทางแห้งทางเปียก และยังสามารถขับลุยในเส้นทางออฟโรดแบบไม่หนักมากได้ด้วย ลายดอกยางมีการออกแบบที่ใกล้เคียงกับยาง MT ทำให้มีประสิทธิภาพในการตะกุยในเส้นทางอุปสรรคได้ และดอกยางจะมีความละเอียดมากกว่า ซึ่งจะช่วยให้เก็บเสียงและรีดน้ำได้ดี
สำหรับบทความนี้ ผมได้นำ Ford Everest มาเปลี่ยนยางใหม่ ซึ่งยางที่เลือกใช้คือ Pirelli Scorpion All Terrain Plus เป็นยางแบบ AT รุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาสําหรับการใช้งานบนทางออนโรด 40% และแบบออฟโรด 60% ตัวดอกยาง นอกจากจะมีความสวยงามดุดันแล้ว ยังมีประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- บล็อกยางขนาดใหญ่ ขอบเหลี่ยมคม มีขนาดไม่สม่ำเสมอกัน ช่วยในเรื่องการยึดเกาะพื้นผิวถนน และการควบคุมที่ดีในสภาพถนนแบบออฟโรดและพื้นผิวลื่น
- มีร่องดอกยางขนาดเล็กจำนวนมาก ช่วยยึดเกาะพื้นลื่น ซับแรงสั่นสะเทือน ทำให้นุ่มนวลขณะขับขี่
- ปรับปรุงการกระจายแรงกด หน้ายางสัมผัสกับพื้นผิวถนนได้เต็มพื้นที่ ช่วยให้เบรกได้ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานให้นานยิ่งขึ้น
- บล็อกไหล่ยาง ช่วยป้องกันแก้มยางจากการโดนบาดทางด้านข้าง ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นขณะขับลุย
- รูปทรงกรวยในร่องดอกยาง หรือ Reject Stone ลดการติดของเศษหินที่ร่องดอกยางในการใช้งานแบบออฟโรด ทำให้ขับขี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย
นอกจากนี้ ยาง Pirelli Scorpion All Terrain Plus ยังใช้เทคโนโลยี Cut & Chip เป็นนวัตกรรมการออกแบบลายดอกยางแบบใหม่ที่แข็งแกร่ง มีส่วนผสมพิเศษที่ช่วยลดการฉีกขาด เพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งาน
ทดสอบการขับขี่บนทางออนโรด
ด้วยความที่ยางรุ่นนี้มีลวดลายที่ดุดันแข็งแกร่ง บล็อกดอกยางหนาและลึก ความคิดของผมในตอนแรกก่อนขับทดสอบ กังวลอยู่ 2 เรื่อง คือ “กลัวเสียงยางดัง และ กลัวควบคุมพวงมาลัยยาก” เพราะหากมองที่ลายดอกยางแล้ว จะคล้ายกับยาง MT มาก ซึ่งผมเคยขับรถที่ใช้ยางแบบ MT แท้ ๆ มาแล้ว หากวิ่งบนทางคอนกรีตเสียงจะหอนดังจนน่ารำคาญ และพวงมาลัยจะคุมทิศทางยาก แต่หลังจากได้ขับทดสอบ ความรู้สึกกลัวดังกล่าวได้หายไปอย่างสิ้นเชิง ทดสอบแรกของผมคือการขับบนทางด่วนโดยใช้ความเร็วไล่ระดับไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ 80 กม./ชม. ไปจนถึงความเร็ว 160 กม./ชม. เสียงของยางเงียบมากครับ ได้ยินแค่เสียงรอยต่อถนนที่ดังเข้าตัวรถเล็กน้อย หากใครกังวลเรื่องเสียงยางดัง ผมยืนยันเลยว่ายาง Pirelli Scorpion All Terrain Plus เสียงเงียบอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยล่ะครับ
สำหรับการควบคุมพวงมาลัย และการทรงตัวเมื่อทำความเร็ว ถือว่าทำได้ดีเลยครับ ขับเปลี่ยนเลนแบบเร็วๆ ยังอยู่ในการควบคุม แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับระบบช่วงล่างของรถด้วยนะครับ ถ้าได้ช่วงล่างดีๆ บวกกับยางดีๆอย่าง Pirelli Scorpion All Terrain Plus ถ้าคุณไม่ได้ขับซิ่งมาก ผมเชื่อว่าเอาอยู่แน่นอน ซึ่งยางรุ่นนี้ เอาจริงแล้วเค้าไม่ได้ออกแบบมาให้ประสิทธิภาพเท่ากับยางแบบสปอร์ต เพราะเน้นประสิทธิภาพบนทางออนโรดที่ 40 % แต่จากการใช้งานจริงผมว่ายางชุดนี้ ถ้าใช้ความเร็วแบบปกติ ถือว่าเกาะถนนได้ดีเลยครับ อ่อ! ลืมบอกไปว่าตอนขับทดสอบฝนเพิ่งหยุดตก ถนนยังเปียกอยู่ด้วย
ทดสอบการขับขี่บนทางออฟโรด
Pirelli เคลมไว้ว่า ยาง Scorpion All Terrain Plus มีประสิทธิภาพบนทางออฟโรด 60% ดังนั้นเส้นทางที่ผมทดสอบอาจจะไม่ได้โหดอะไรมากมาย แต่เป็นเส้นทางที่เปรียบเสมือนตอนขับรถพาครอบครัวไปเที่ยวบนเขาแล้วเจอเส้นทางเป็นดินโคลน ขรุขระ มีหลุมบ่อ เปียกลื่น หากเป็นรถที่ใช้ยางลายดอกธรรมดา อาจล้อฟรี ตะกุยหลุมไม่ขึ้น จากการทดสอบ จอดคาเนินชัน ล้อไม่มีการลื่นไถล ทางที่เป็นเนินสลับ ช่วงที่ล้อแขวนลอย 1 ข้าง ล้อข้างที่เหลือสามารถตะกุยผ่านเส้นทางได้ และช่วงที่เป็นหลุมโคลนลึกและเป็นโคลนที่อ่อนมากๆ ผมได้เปลี่ยนเป็นโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อ รอบแรกสามารถขับผ่านไปได้แบบสบาย แต่ช่วงที่ถอยหลังกลับรถดันติดหล่ม คานเฟืองท้ายติดค้ำกับร่องโคลน เลยต้องให้ทีมงานที่ไปด้วยกันช่วยดันเล็กน้อย และเติมคันเร่งให้เหมาะสม ก่อนที่จะขึ้นจากหลุมมาได้อย่างปลอดภัย
บางช่วงของการขับลุยมีโอกาสที่แก้มยางจะไปเบียดกับก้อนหินใหญ่ หรือร่องดิน แต่สำหรับยาง Pirelli Scorpion All Terrain Plus ไม่ต้องกังวลครับ เพราะที่แก้มจะมีบล็อกดอกยางที่ยื่นออกมา เพื่อป้องกันแก้มยางไม่ให้ฉีกขาด ช่วยให้การขับลุยปลอดภัยขึ้น
สรุปโดยรวม จากการทดสอบยาง Pirelli Scorpion All Terrain Plus บนเส้นทางสองรูปแบบ ทั้งออนโรด และออฟโรด แม้จะไม่ได้โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่งโดยเฉพาะ แต่จากการทดสอบผมว่ายางรุ่นนี้มีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั้งสองแบบ วิ่งบนทางเรียบเสียงเงียบ ยึดเกาะถนนดี วิ่งบนเส้นทางลุยแบบไม่โหดมากก็ไปไหว หากใครที่ใช้รถ PPV SUV กระบะยกสูง ทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อ และสี่ล้อ ถ้าไลฟ์สไตล์การใช้รถของคุณเน้นใช้งานในชีวิตประจำวันบนทางเรียบ และมีขับไปเที่ยวแนวลุยๆ บ้างในบางครั้ง ยาง Pirelli Scorpion All Terrain Plus ตอบโจทย์การใช้งานคุณได้อย่างแน่นอนครับ
สำหรับท่านใดที่สนใจ ตอนนี้ Pirelli by ATV มีโปรโมชั่นครับ
- เมื่อเปลี่ยนยาง 4 เส้น ลงทะเบียนรับฟรี การรับประกันบาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม.
- ผ่อนยาง 0% นานสูงสุด 10 เดือน (เฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ)
ช่องทางการจัดจำหน่าย
- ร้านตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ ค้นหาตัวแทนใกล้บ้านท่านได้ที่ Facebook : Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- B-Quik และ MMS ทุกสาขา
- Shopee และ Lazada เพียงค้นหาคำว่า Pirelli Official Store
ช่องทางติดต่อและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- Facebook Page: Pirelli Authorized Distributor by ATV Thailand
- Line OA : @Pirelli.thailand
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น