สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้เทสลากำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะเปิดราคาจำหน่ายที่ 25,000 ดอลล่าสหรัฐ หรือไม่เกิน 1 ล้านบาทไทย ตั้งเป้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่จะจัดจำหน่ายไปในทุกประเทศทั่วโลก
Tesla 25000 เหรียญ
หลังจากที่ Tesla เริ่มส่งมอบ Cybertruck ในต่างประเทศ และส่งมอบ Tesla Model 3 Refresh ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย ล่าสุดมีรายงานข่าวจากต่างประเทศว่า ณ ขณะนี้เทสลากำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่จะเปิดราคาจำหน่ายที่ 25,000 ดอลล่าสหรัฐ หรือไม่เกิน 1 ล้านบาทไทย
เทสลา เปิดเผยเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในการประชุมกับนักลงทุน เมื่อเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา โดยทางเทสลามีแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแห่งใหม่ในประเทศเม็กซิโก และมีแผนการสร้างรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่มีราคาถูกกว่าเดิมด้วยต้นทุนที่ต่ำ เพื่อทำให้เข้าถึงคนทั่วโลกได้ง่ายมากยิ่งขึ้นกว่า Tesla Model 3 ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่มีราคาต่ำที่สุดในปัจจุบัน
บทความนี้ มาจากการรวบรวมข่าว + ข่าวลือจากการพูดคุยกันในต่างประเทศ รวมไปถึงสิ่งที่ Tesla แถลงในช่วงการประชุมผู้ถือหุ้น ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
โดยในประเทศไทยเปิดราคาจำหน่ายที่ 1,599,000 บาท ส่วนในสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นที่ 35,990 ดอลล่าสหรัฐ โดยแรกเริ่มเดิมที Tesla Model 3 คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นในโครงการรถยนต์ไฟฟ้าพิกัดราคา 30,000 เหรียญอยู่แล้วด้วย
ลักษณะการออกแบบตัวรถจะเป็นการผสมผสานกันระหว่าง Tesla Model 3 Refresh และ Tesla Cybertruck แต่จะมีการปรับในส่วนของระบบส่งกำลังใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวมอเตอร์ขับเคลื่อนที่ต้องมีต้นทุนการผลิตต่ำลงกว่าเดิม และที่สำคัญสุดกับชุดแบตเตอรี่ที่ต้องมีประสิทธิภาพการจัดการพลังงานที่ดีมากกว่าเดิม โดยคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายได้ราวกลางปี 2025 หรืออีกเกือบ 2 ปีข้างหน้า
จากบทวิเคราะห์นักลงทุน เชื่อว่ารถยนต์ Tesla Compact รุ่นใหม่นี้ น่าจะมีขนาดตัวรถที่เล็กกว่า Tesla Model 3 แต่น่าจะใช้รูปแบบตัวถังแบบแฮทช์แบค 5 ประตู เนื่องจากเป็นประเภทรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ เนื่องจากมันมีขนาดตัวรถที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลายมากกว่ารถยนต์นั่งแบบซีดาน 4 ประตู และต้องมีความคล่องตัวมากกว่า Tesla Model Y
เรื่องนี้ สามารถเห็นได้จากยอดขายของ Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบ 5 ประตู ที่เปิดตัวมาภายหลังการมาของ Tesla Model 3 ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานตัวรถทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้แบบเดียวกัน แตกต่างกันที่ตัวถังรถที่ไม่เหมือนกัน
และด้วยยอดขายของ Tesla Model Y เป็นตัวสะท้อนที่ชัดเจนมากๆ ว่า ความต้องการรถยนต์แบบอเนกประสงค์ 5 ประตู มีมากกกว่ารถยนต์นั่งแบบซีดานอย่างมหาศาล
ภาพด้านบน คือภาพร่างเพื่อใช้ในการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของทางเทสลา โดยภาพนี้เป็นภาพร่างการออกแบบ Tesla Model 3 Legacy ที่ได้ทำไว้ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว สิ่งที่เราสามารถสังเกตุได้อย่างชัดเจนเลยคือไฟท้ายของตัวรถยนต์ Tesla Model 3 Legacy คันจริง กับภาพวาดนั้นไม่เหมือนกันแม้แต่น้อย
ภาพที่คุณ Franz วาดไว้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว จะเห็นได้ว่าโครงลายเส้นนั้นจะใกล้เคียงกับรูปแบบไฟท้ายจริงๆ ที่ผลิตออกมา ทว่าหากวัดกันที่เส้นไฟจริงๆ พบว่าจะเหมือนกับเวอร์ชั่น Refresh ที่เพิ่งส่งมอบในประเทศไทยกันไปแบบสดๆ ร้อนๆ
ไฟท้ายรุ่น Refresh 2024
และเมื่อ Tesla Model 3 Refresh เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว สอดรับกับคำแถลงการเมื่อเดือนมีนาคม ทำให้หลายๆ คนต่างลือกันว่า หรือ Tesla Compact จะเป็นลักษณะแบบนี้หรือไม่ เนื่องจากมันเป็นหนึ่งในภาพร่างที่อยู่ในนี้อยู่แล้ว
โดยจากดีไซน์ในภาพร่างจะเห็นได้ว่า มันมีกลิ่นอายของ Tesla Model 3 ในส่วนด้านหน้ารถอยู่แบบเต็มๆ แต่ส่วนที่ต่างกันมากๆ นั่นคือช่วงท้ายของรถที่สั้นกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงระยะท้ายรถของล้อนั้นมีระยะห่างระหว่างซุ้มล้อกับกันชนหลังที่สั้นมากๆ ทำให้พอเห็นได้ว่าขนาดตัวรถคันนี้น่าจะเล็กกว่า Model 3 อย่างชัดเจน
แต่ด้วยลักษณะการออกแบบตัวรถที่ต้องสามารถจำหน่ายในหลากหลายประเทศได้ รูปแบบของตัวรถอาจจะอยู่ในทิศทางเดียวกับตระกูล Volvo C40, EX30 หรือจะเป็น BYD ATTO 3 ก็เป็นได้ เนื่องจากรถยนต์กลุ่มนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นรถอเนกประสงค์ขนาดเล็กเหมือนกัน
ส่วนชุดไฟตัดหมอกที่ติดตั้งอยู่ใต้ไฟหลัก น่าจะมีการตัดออกไป และเปลี่ยนไปใช้ไฟหน้า LED Reflector ชุดเดียวกับ Tesla Model 3 Refresh รุ่นปัจจุบัน
ด้านเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำ ค่อนข้างมีความชัดเจนสูงมากว่าจะเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า 48 โวลท์เหมือนใน Tesla Cybertruck เนื่องจาก Tesla Compact จะเป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งหมายความว่าทุกอย่างจะถูกเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แม้อาจจะมีการอ้างอิงพื้นฐานของ Platform Model 3 แต่ด้วยขนาดตัวรถที่เล็กกว่า ซึ่งอาจทำให้ทาง Tesla เลือกพัฒนาในแนวทางใหม่ที่ Cybertruck ได้นำร่องไปก่อนแล้ว
โดยการใช้ระบบไฟฟ้าแรงดัน 48 โวลท์ จะส่งผลให้ชุดสายไฟฟ้าภายในรถมีจำนวนน้อยลง ช่วยลดน้ำหนักของตัวรถให้น้อยลง, ลดชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ และช่วยลดต้นทุนการผลิต อันส่งผลให้ทำราคารถยนต์ได้ต่ำลงได้มากขึ้น
นอกจากขนาดตัวรถที่เล็กลงแล้ว มันไม่เพียงพอสำหรับการทำราคาให้ต่ำลง อย่างที่เราทราบกันดีว่ามูลค่าเกินครึ่งของราคารถยนต์ไฟฟ้ามาจากชุดแพ็กแบตเตอรี่แรงดันสูงที่อยู่ใต้ท้องรถ ทำให้ Tesla ต้องมองหาวิธีการลดต้นทุนจากชิ้นส่วนอื่นๆ เพื่อทำให้สามารถทำราคารถยนต์ให้ต่ำลงได้มากยิ่งขึ้น เพื่อทำให้เข้าถึงทุกคนได้ง่ายมากกว่าเดิม
ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลดชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ด้วยการใช้เครื่องจักรขึ้นรูปขนาดใหญ่อย่าง Gigapress ที่สามารถปั้มชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ช่วยลดเวลาในการผลิต และช่วยทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงกว่าเดิม
Tesla Compact ผลิตที่ไหน?
สำหรับโรงงาน Tesla Gigafactory ที่จะผลิตรถยนต์รุ่นใหม่นี้ จะใช้โรงงาน Tesla Giga Mexico ที่กำลังก่อสร้างอยู่เป็นหนึ่งในโรงงานหลัก, โรงงาน Giga Shanghai เฟส 3 ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในประเทศจีน และอาจจะใช้พื้นที่บางส่วนของ Giga Texas ในสหรัฐอเมริกาด้วย เนื่องจากเป้าหมายการจำหน่าย Tesla รุ่นเล็กนี้ มีสูงมากกว่ารุ่นเดิมราว 2-3 เท่า นั้นหมายความว่ากำลังการผลิตรถยนต์รุ่นนี้ต้องมีมากกว่ากำลังการผลิตที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน
Tesla Compact ราคาเท่าไหร่?
ราคาจำหน่ายของ Tesla Compact อยู่ที่ 25,000 ดอลล่าสหรัฐ หรือราวๆ 900,000 บาท ส่วนกำหนดการจำหน่ายคาดว่าจะเริ่มมีการเผยรายละเอียดที่มากขึ้นในช่วงกลางปีหน้า และอาจเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปี 2025 ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องดูที่การก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในประเทศเม็กซิโกว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด
อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน
ความคิดเห็น